บขส.เปิดแผนย้าย ยกเครื่อง ”สถานีขนส่ง” หมอชิต รังสิต เอกมัย สายใต้





บขส.เปิดแผนย้าย ยกเครื่อง ”สถานีขนส่ง” หมอชิต รังสิต เอกมัย สายใต้

นายสัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า ภายในกลางปี 2565 บขส.ต้องคืนพื้นที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯหรือสถานีหมอชิตใหม่ ตั้งอยู่บริเวณถนนกำแพงเพชรให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ประมาณ 14 ไร่ ทำให้เหลือพื้นที่ 50 กว่าไร่ มีแผนจะทำเป็น “เซฟตี้โซน” พร้อมปรับปรุงพื้นที่ภายในสถานีใหม่ ให้โมเดิร์นและสอดรับกับพื้นที่ในปัจจุบัน หลังเกิดสถานการณ์โควิด-19 มีจำนวนรถโดยสารมาใช้บริการน้อยลง ตอนนี้มีรถโดยสารขนาดใหญ่บางเส้นทางและรถตู้โดยสารบอกเลิกสัญญาไปประมาณ 30%

สำหรับแผนการย้ายสถานีไปยังสถานีหมอชิตเก่าอยู่ติดสถานีบีทีเอสหมอชิตนั้น ในเบื้องต้นมีข้อสรุปร่วมกับกรมธนารักษ์แล้ว จะย้ายการเดินรถโดยสารขนาดเล็กหรือมินิบัส ใช้พลังงานไฟฟ้า(EV) วิ่งระยะทางไม่เกิน 300 กิโลเมตร เข้าใช้บริการพื้นที่สถานีขนส่งอยู่ในโครงการคอมเพล็กซ์ของบริษัท บากกอกเทอร์มินอล จำกัด หรือ BKT ผู้รับสัมปทานพัฒนาโครงการ ซึ่งได้กันพื้นที่ไว้ให้ตามข้อตกแล้วประมาณ 112,000 ตารางเมตร และบขส.ได้ขอสงวนสิทธิ์การใช้พื้นที่ไปแล้ว ส่วนจะย้ายไปเมื่อไหร่นั้นยังตอบไม่ได้

“เมื่อโครงการของBKTแล้วเสร็จ จะทำให้บขส.มีสถานีขนส่ง 2 แห่งในการปล่อยรถจากกรุงเทพฯคือที่หมอชิตใหม่ที่เราจะเช่าที่ดินรถไฟต่อไป เพราะจุดนี้มีความสะดวกในการเดินทางใกล้กับสถานีกลางบางซื่อ เป็นศูนย์กลางของระบบราง ส่วนอีกแห่งจะอยู่ที่หมอชิตเก่าเป็นจุดปล่อยรถระยะสั้น ตอนนี้เรารอรูปแบบการพัฒนาโครงการที่ชัดเจนจากBKT”

นายสัญลักข์กล่าวอีกว่า ด้านสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ยังคงอยู่ที่เดิม ส่วนสถานีขนส่งสายใต้เก่าอยู่ตรงปิ่นเกล้า เนื้อที่ 15 ไร่ ตอนนี้เหลือเฉพาะรถตู้ที่มาใช้บริการ อยู่ระหว่างพิจารณาจะนำที่ดินดังกล่าวมาพัฒนาเชิงพาณิชย์สร้างรายได้ในระยะยาวเพื่อชดเชยรายได้ค่าโดยสารที่หายไป

ขณะที่สถานีขนส่งเอกมัย เนื้อที่ 7 ไร่ ใกล้รถไฟฟ้าบีทีเอส ในอนาคตจะนำมาพัฒนาเชิงพาณิชย์สร้างรายได้เช่นกัน อยู่ระหว่างทำการศึกษา อาจจะต้องย้ายสถานีขนส่งเอกมัยไปอยู่ที่อื่นแทน ลดปัญหามลพิษจากฝุ่นPM2.5 และนำที่ดินมาประมูลให้เอกชนพัฒนาโครงการ

ล่าสุดมีข้อเสนอจากทางศูนย์แสดงสินค้าไบเทค จะให้พื้นที่เพื่อให้บขส.จอดรถโดยสารได้ จากการลงไปดูพื้นที่ถือว่าเป็นพื้นที่มีความเหมาะสม ใกล้กับรถไฟฟ้าบีทีเอส การเดินทางสะดวก ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือร่วมกัน คาดว่าจะได้ข้อสรุปในปี 2566 หากสำเร็จจะเป็นความร่วมมือที่ได้ประโยชน์ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย ทางไบเทคได้ส่วนแบ่งรายได้จากค่าธรรมเนียมการจอดรถ และได้ผู้โดยสาร ทางบขส.ก็ได้พื้นที่จอดรถ รองรับการย้ายสถานีขนส่งเอกมัย

อีกทั้งยังมีแผนจะพัฒนาสถานีขนส่งรังสิตเพิ่ม เพื่อรองรับการเดินรถเส้นทางใหม่ โดยอยู่ระหว่างหารือกับสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ที่ดูแลพื้นที่อีอีซี จะเปิดเส้นทางเดินรถไฟฟ้าจากสถานีขนส่งรังสิตไปยังพื้นที่อีอีซี กำลังทำประมาณการผู้โดยสาร คาดว่าจะเปิดบริการได้ในปี 2566

“ต้องคิดแผนสร้างรายได้ระยะยาว เพราะเรามีเงินสดเหลืออยู่ในมือประมาณ 1,000 ล้านบาท ใช้ได้อีก 1-2 ปี ตอนนี้จากสถานการณ์โควิดทำให้รายได้เราหายไป 80% และปี 2564 น่าจะเป็นปีแรกที่เราขาดทุนมากที่สุดตั้งแต่ตั้งบขส.มา 91 ปี คาดว่าจะขาดทุนร่วม 1,000 ล้านบาท “

นายสัญลักข์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในปี 2565 บขส.จะรุกธุรกิจขนส่งพัสดุภัณฑ์มากขึ้น เพื่อสร้างรายได้ โดยเตรียมจะเสนอคณะรัฐมนตรี(ครม.) ทบทวนให้บขส.สามารถดำเนินการขนส่งพัสดุภัณฑ์ได้ตามกฎหมาย รองรับตลาดขนส่งสินค้ามีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ในแผนจะเปิดศูนย์กระจายสินค้าข้ามภาค เพิ่มช่องทางการเข้าถึงบริการ เพิ่มการอำนวยความสะดวกให้สามารถรับส่งพัสดุภัณฑ์แบบข้ามภาคได้ โดยจะนำร่องก่อน 4 แห่ง ได้แก่ นครราชสีมา พิษณุโลก นครสวรรค์ ขอนแก่น

เนื่องจากมีเส้นทางเชื่อมต่อเมืองสำคัญในกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง จะช่วยส่งเสริมการขนายตัวด้านอุตสาหกรรม การเกษตร การค้า การลงทุนและบริการ รวมทั้งเส้นทางคมนาคมขนส่งทางถนนสามารถใช้เป็นเส้นทางกระจายสินค้า ลำเลียงวัตถุดิบและส่งเสริมตลาดท่องเที่ยวในภูมิภาคได้

 

ข่าวจาก : มติชนออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: