แชร์ประสบการณ์ผ่าตัดไส้เลื่อน 3 ครั้ง … โรคที่ผู้หญิงก็เป็นได้ !!!





โดยปกติเรามักจะเข้าใจว่าโรคไส้เลื่อนเกิดขึ้นเฉพาะเพศชาย ด้วยความเข้าใจกันว่ารูปทรงอวัยวะเพศชายเอื้อโอกาสที่จะเป็นโรคนี้สูงกว่าผู้หญิง แต่หารู้ไม่ว่า ผู้หญิงก็เป็นได้ !! และอาจเป็นถึงขั้นกับต้องผ่าตัดด้วย !!

 

Screen Shot 2013-07-16 at 6_06_48 PM

แผนภูมิจาก effectivehealthcare.ahrq.gov

ได้อธิบายไว้ว่า เพศชายมีโอกาสเป็นไส้เลื่อน 25 คนใน 100 คน
ในขณะที่เพศหญิงมีโอกาสเป็นโรคดังกล่าว 2 คนใน 100 คน

 

ส่วนอาการเป็นแบบไหน? มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง? ลองมาอ่านประสบการณ์ของสมาชิกหมายเลข 993777 ใน http://pantip.com/topic/34376831/ เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้คุณผู้หญิงทั้งหลายได้ระวังตัวกันไว้บ้าง

 

205106

ภาพประกอบจาก www.patienteducationcenter.org

 

ผ่าตัดครั้งแรก เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2013 ค่ะ

เริ่มอาการจาก เราสังเกตุเห็นว่าผิวตรงบริเวณหน้าท้องน้อย เหนือขาหนีบ มันบวมขึ้นมา ขนาดครึ่งลูกปิงปองได้ เราก็สงสัยว่ามันคืออะไร แต่ไม่มีความเจ็บปวดใดๆทั้งสิ้นะคะ มันแค่บวมขึ้นมาเฉยๆ อ่ะเราก็สังเกตไป มันจะบวมแค่ตอนกลางคืนที่เรากลับมาจากทำงานแล้ว แต่ตอนเช้า ตื่นมามันไม่มี แปลกใจ เป็นอะไรว้า… งง สงสัยๆ สังเกตมา 3-4 วัน มันก็มีมาทุกวัน แต่ตอนเช้าไม่มี เอะ เกี่ยวกับมดลูกป่าวนะ? ตัดสินใจพรุ่งนี้จะไปหาหมอดีกว่า แต่คือตอนเช้ามันไม่บวมงัย ถ่ายรูปไปก่อนละกัน

 

เช้ามาเราก็ไปหาหมอ เลือกพบหมอสูติค่ะ เพราะคิดว่าเกี่ยวกับมดลูก ตรวจภายในไปด้วยเลย

เมื่อเจอคุณหมอ การสนทนาของเราก็ประมาณนี้ค่ะ
คุณหมอ : เป็นอะไรมาครับ
เรา : ตรงท้องมันบวมๆ ออกมาค่ะ ประมาณลูกมะนาวได้ค่ะ แต่ว่าตอนนี้มันไม่บวมค่ะ มันบวมแต่ตอนเย็นหลังจากเลิกงานกลับบ้านไปแล้ว หนูรบกวนให้คุณหมอดูรูปแทนได้ไหมค่ะ   (เปิดรูปให้คุณหมอดูค่ะ)

คุณหมอ : เอ? ผมว่าน่าจะเป็นไส้เลื่อนนะครับ แต่ดูจากรูปผมก็ไม่แน่ใจ
เรา :
คุณหมอคะ ผู้หญิงเป็นไส้เลื่อนได้ด้วยหรอคะ
คุณหมอ : ได้สิ เดี๋ยวผมส่งคุณไปตรวจกับหมอศัลยกรรมนะครับ
เรา :  ค่ะ ขอบคุณค่ะ


เมื่อมาพบคุณหมอ ศัลยกรรม เล่าอาการเหมือนเดิมและให้ดูรูป 
คุณหมอ ดูจากรูปน่าจะเป็นไส้เลื่อน แต่ผมไม่สามารถตัดสินใจจากรูปได้ว่าเป็นไส้เลื่อนจริงๆ เอาแบบนี้ละกัน คุณไปเดินๆ มา พอมันบวม คุณก็กลับมาหาหมอใหม่

 

โอเคค่ะ เราก็กลับ ไปเดินช็อปปิ้งกะเพื่อน 2 ชม.ผ่านไป มันมาแล้วค่ะ มันบวมขึ้นมาอีก เรารีบกลับไปหาหมอทันทีเลย

 

เปิดให้คุณหมอดูบริเวณหน้าท้องเหนือขาหนีบ (เราเป็นข้างขวา) ที่บวมออกมา
คุณหมอ : ( จับสิ่งที่บวมออกมายัดกลับไปให้ท้องเรียบเหมือนเดิม แล้วให้เราเบ่ง เหมือนเบ่งอุนจิ ปุ๋ง!! มันบวมออกมาทันทีทันใด )
คุณหมอ :
ใช่แล้ว คุณเป็นไส้เลื่อน
เรา : เกิดจากอะไรคะ
คุณหมอ :
เกิดจากผนังหน้าท้องบริเวณส่วนนั้นมันบอบบาง ทำให้เป็นช่องโหว่ แล้วลำไส้ก็เลื่อนออกมา ซึ่งถ้าปล่อยไว้ ส่วนของลำไส้ที่เลื่อนออกมาติดผิวหน้าท้อง อาจจะเน่าแล้วจะกลายเป็นผ่าตัดใหญ่
เรา : แล้วต้องทำยังไงต่อคะ
คุณหมอ : ต้องผ่าตัดใส่แผ่นสังเคราะห์เข้าไป เพื่อให้ผนังหน้าท้องบริเวณนั้นหนาขึ้น แล้วลำไส้ก็จะไม่เลื่อนออกมา

โอเคนัดวันผ่าตัดเรียบร้อย…  วันที่ 11กันยายน 2013

 

ผ่าตัดเสร็จ นอนโรงพยาบาล 2 คืน แล้วกลับมาพักฟื้นที่บ้าน ครบ 10 วันก็กลับไปหาหมอ เพื่อเอาไหมออก แผลผ่าตัดสวยดี แต่มันเป็นการผ่าตัดเปิดหน้าท้องเพื่อใส่แผ่นสังเคราะห์เข้าไปค่ะ แผลกว้างประมาณ 3.5 นิ้ว ( 7 เข็มค่ะ) พัก 1 เดือนเราก็กลับไปทำงานตามปกติ ผ่านไป 2 ปี อาการกำเริบค่ะ สาเหตุจากการไม่ระวังของเราเอง ทำงานยกของหนัก คือเราทำงานห้องอาหารในเรือสำราญ ซึ่งมันหนักมาก contract ที่ 3 อยู่ได้เดือนกว่าเราเริ่มเจ็บตรงบริเวณแผลที่ผ่าตัดจนทำงานไม่ได้  ก็โดนส่งกลับมารักษาที่เมืองไทยเราต่อ (แต่บริษัทของเราดีมาก จ่ายให้ทุกอย่าง เน้น ทุกอย่างจริงๆค่ะ) ซึ่งครั้งนี้ เราผ่ากับโรงพยาบาลเอกชน ตามที่บริษัทเลือกให้ 
ครั้งนี้แผนการผ่าตัด 
เราต้องผ่าตัด ถึง 2 ครั้ง เพราะสาเหตุที่เจ็บมาจากแผ่นสังเคราะห์ที่ใส่เข้าไปมันระคายเคืองต่อผิวข้างใน ซึ่งมีผลมาจากการยกของหนัก


ผ่าตัดครั้งที่ 1 วันที่ 15 กรกฎาคม 2015 (ซึ่งก็คือครั้งที่2) คุณหมอจะผ่าเปิดหน้าท้องตามรอยแผลเดิม เพื่อเอาแผ่นสังเคราะห์ออก โอย นอนโรงพยาบาล 2 คืน แล้วกลับไปพักฟื้นที่บ้าน ครบ 10 วันกลับมาหาหมอเพื่อดูแผล แผลโอเค สวย เท่าที่มันจะสวยได้ เพราะมันซ้ำรอยเดิม แต่กว้างแค่ 2.5 นิ้ว เล็กกว่าครั้งแรกนิดนึงแต่ ครั้งนี้ใช้ไหมละลาย เราก็กลับบ้าน รออีก 1 เดือนค่อยกลับมาผ่าตัดครั้งที่ 2

 

ในขณะที่พักฟื้นอยู่บ้าน ก็ออกกำลังกายนิดหน่อยตามคุณหมอแนะนำ คือปั่นจักรยานวันละ 15 นาที  ผ่านไป 2 อาทิตย์ แปลกๆ ละ มีรูที่แผลและมีเลือดกับน้ำเหลืองออกมา (ไม่ใช่หนองนะคะ) ตกใจมาก เฮ้ยเป็นไรอีกว้า… surprisesurprisesurprisesurprise​ รีบโทรไปหาหมอนัดและมาพบหมอในวันรุ่งขึ้น 


เมื่อพบหมอ คุณหมอบอกว่า อาจเกิดจากการแพ้ไหม ซึ่งคุณหมอก็สะกิดไหมให้แผลเปิด มันก็จะเป็นรูเล็ก ล้างแผล  แต่มันไม่มีการอักเสบเพราะไม่บวมแดง เดี๋ยวก็แห้งหายไปเอง เฮ้อโล่งอก กลับบ้าน ผ่านมาอีก 1 อาทิตย์ เหมือนเดิมมี รูขึ้นมาใหม่ และมีเลือดไหลออกมา แต่มันเหมือนครั้งที่แล้ว เราก็ทำเอง บีบเลือดออกมาให้หมด แล้วล้างแผลเหมือนเดิม  อ่ะ!! ผ่านมา อีก 4 วันมีมาอีกรู (แต่ละรูเลือดที่ออกมามันไม่ซ้ำรอยเดิมนะคะ มันเรียงตามรอยยาวของแผลซึ่งพอมันครบทุกจุดของเข็ม มันก็แห้งสนิท และไม่มีขึ้นอีกเลย) แผลของการผ่าตัดครั้งนี้ก็หายเป็นปกติดี 

ผ่าตัดครั้งที่ 2 วันที่ 5 ตุลาคม 2015 ( ซึ่งก็คือครั้งที่ 3) ครั้งนี้แผนการผ่าตัด ผ่าตัดด้วยกล้องค่ะ ซึ่งคุณหมอจะเปิดหน้าท้อง 3 จุดเล็กประมาณจุดละ 1 นิ้ว จุดที่ 1 ใต้สะดือเพื่อสอดกล้องเข้าไป จุดที่ 2 และ 3 เรียง ต่ำลงมา เพื่อใส่เครื่องมือ ในการนำแผ่นสังเคราะห์แผ่นใหม่เข้าไป แต่การผ่าตัดด้วยกล้องนี้จะดีกว่าครั้งแรกนู้น ที่ผ่าเปิดหน้าท้อง เพราะ ครั้งนี้ ที่ผ่าด้วยกล้อง จะนำแผ่นสังเคราะห์ใส่ไว้ด้านในของกล้ามเนื้อหน้าท้อง  ซึ่งแผ่นสังเคราะห์นี้จะไม่ระคายเคืองต่อผิว เหมืองครั้งแรกที่ใส่แผ่นไว้ใต้ผิว โอกาสที่จะเจ็บอีกแทบไม่มี ครบ 10 วันก็กลับไปหาหมอให้คุณหมอดูแผล  แผลหายเป็นปกติดี ไม่บวมและอักเสบ พักอีก 2 เดือนก็กลับไปทำงานได้เหมือนเดิมค่ะ 
 

ปล. เราได้อะไรมาแนะนำนิดนึง ใครที่เป็นแล้วได้อ่านเรื่องนี้ การผ่าตัดขอให้เลือกแบบผ่าด้วยกล้องนะคะ แพงกว่าแต่มันดีกว่าแน่นอน 
1.เพราะคุณหมอจะใส่แผ่นสังเคราะห์ไว้ใต้กล้ามเนื้อ ซึ่งมันจะไม่ระคายเคืองแม้เราจะทำงานหนัก หรือออกกำลังกายหนัก  
2.แผลเล็ก และ หายเร็วกว่า
3.การผ่าแบบเปิดหน้าท้องแบบครั้งแรกของเรา แม้แผลจะหายดีแล้ว แต่ผลข้างเคียงคือ เปิดแผลถึง 3.5 นิ้ว บริเวณเหนือขาหนีบ ซึ่งมรเส้นประสาทมากมาย มันโดนตัดขาดค่ะ จนถึงตอนนี้ บริเวณ นั้น ถ้าจับมันจะไมรู้สึก เหมือนชา แต่ถ้าลองตีลงไป หรือกระแทกขอบโต๊ะ จะเจ็บมากๆๆ แทบยืนไม่อยู่เลยค่ะ ซึงคุณหมอบอกว่ามันจะมีอาการเสียวๆแบบนี้ไปตลอด  จริงค่ะ ผ่านมา 2 ปีมันก็ยังเป็นอยู่ค่ะ 

**แอบคิดทำไมตอนผ่าครั้งแรกคุณหมอไม่แนะนำอะไรเลย ว่ามีการผ่า 2 แบบ ให้เราเลือก ชีวิตเรา ผ่าทั้งที เราก็จะเลือกแบบที่ดีที่สุด แม้จะเสียเงินมากกว่า เราเลยต้องมาผ่าอีกถึง 2 ครั้ง หยุดงานมา 5 เดือนแล้วด้วย ฮือออ…
 

**ค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดไส้เลื่อนนะคะ**
ครั้งแรก โรงพยาบาลคามิลเลียน จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่ค่ะ แต่ไม่เกิน 5 หมื่น นอนโรงพยาบาล 3 คืน
ครั้งที่ 2 โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท 2 แสนกว่าบาท นอนโรงพยาบาล 3 คืน
ครั้งที่ 3 โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท 3 แสนกว่าบาท นอนโรงพยาบาล 2 คืน

 

ปล. อีกนิด เราเป็นไส้เลื่อนด้านขวานะคะ แต่คุณหมอบอกว่าเราก็มีโอกาสเป็นด้านซ้ายได้อีกเหมือนกัน ถ้าผนังหน้าท้องบอบบาง  เพราะฉะนั้นดูแลร่างกายดีๆนะคะ ออกกำลังเป็นประจำก็ช่วยได้ค่ะ เราเคยเจอผู้หญิงที่เป็นโรคนี้เหมือนกันหลายคนแล้วนะ แต่ก็ไม่มากหรอกคะ ไม่ต้องกลัวไป ผู้โชคดี 1 ใน ไม่กี่คน อิอิ winkwinkwinkwink


ขอบคุณข้อมูลจาก สมาชิกหมายเลข 993777 เว็บไซต์ http://pantip.com/topic/34376831/

เรียบเรียงโดย Thaijobsgov

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: