ตำรวจหนุ่ม อาศัยเวลาเข้าเวรดึกเพราะถูกลงโทษ ขโมยของเพื่อนบนโรงพัก จะจะคากล้องวงจรผิด เจ้าตัวรู้ทันทีเลยชิงออกก่อน ด้านผู้บังคับบัญชาไม่ยอม เตรียมเอาผิดแจ้งความ-สั่งสอบผิดวินัยร้ายแรง
วันที่ 6 พฤศจิกายน 2564 เฟซบุ๊ก อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น Part 1 มีการโพสต์เล่าเรื่องที่สถานีตำรวจเกิดคดีคนมาขโมยของ แต่ที่พีคคือคนก่อเหตุนั้น ก็คือเพื่อนตำรวจด้วยกัน แถมหลักฐานจากภาพวงจรปิดคาตามาก เรื่องราวเป็นดังนี้
โดยปกติในทุก ๆ คืน สถานีตำรวจจะมีการแบ่งคนเข้าเวร เพื่อรอรับแจ้งเหตุร้ายฉุกเฉินในช่วงยามวิกาล ซึ่งก็คือเวลา 18.00 น. ถึง 06.00 น. ของวันถัดไป ด้วยความที่เวรดึกเป็นเวรที่ค่อนข้างส่งผลเสียต่อสุขภาพ การกระจายเวรของตำรวจจึงค่อนข้างกระจายไปอย่างทั่วถึง จะไม่มีคนที่เข้าเวรดึกแบบถี่ ๆ ติด ๆ กัน เว้นแต่ว่า ตำรวจคนนั้นจะทำผิด ก็จะมีบทลงโทษให้เข้าเวรมากหน่อย
ดังเช่น ส.ต.อ. เอ (นามสมมติ) ซึ่งมีความผิดติดตัว จึงถูกสั่งลงโทษให้เข้าเวรแบบวันเว้นวันเป็นเวลา 1 เดือน แต่ในช่วงที่เข้าเวรนั้น ส.ต.อ. เอ ก็ยังไปก่อเรื่องเพิ่ม เริ่มจากการค้นห้องผู้กำกับ ค้นห้องเพื่อน ๆ ร่วมงาน เพื่อเอาเงินหรือทรัพย์สินที่มีค่าออกไป รวมแล้วมีผู้เสียหายประมาณ 4-5 คน เงินที่สูญหายประมาณ 6,000 บาท
เมื่อเรื่องแดง มีการเช็กกล้องวงจรปิด เห็นการกระทำของ ส.ต.อ. เอ อย่างชัดเจนว่ามีการรื้อค้นเอาของมีค่าไป ทว่าผู้บังคับบัญชากลับไม่ได้ลงโทษแต่อย่างใด แค่สั่งให้ลาออก และให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นไปเข้าเวรแทนระหว่างช่วงที่รออนุมัติลาออก
เรื่องนี้ทำให้ผู้เสียหายมองว่าไม่เป็นธรรม ถามว่า เป็นการช่วยเหลือผู้กระทำผิดหรือไม่ เพราะในทางอาญา ความผิดนี้สำเร็จแล้ว ควรที่จะเป็นคดีมากกว่านี้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าแจ้งความ
สุดท้าย ผู้เสียหายอยากให้เรื่องนี้ถูกตรวจสอบให้ถูกต้องตามระเบียบ อยากให้เกิดความยุติธรรมมากกว่านี้
เบื้องบนรู้เรื่องแล้ว ตั้งกรรมการสอบ แม้ลาออกก่อนก็ไม่เป็นผล
เดลินิวส์ รายงานว่า พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า เหตุการณ์นี้เป็นฝีมือของ ตำรวจ ตชด. ลักทรัพย์เพื่อนร่วมงานในกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน โดยจะมีการเข้าแจงความที่ สน.บางซื่อ ใน 1-2 วันนี้
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นวันที่ 30 ตุลาคม ที่ผ่านมา เมื่อร้อยเวรของกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ตรวจพบว่ามีการรื้อทรัพย์สินต่าง ๆ เมื่อไปตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดก็พบว่า มีการลักขโมยจริง
ตอนนี้ตนได้สั่งการให้ พล.ต.ท. ณัฐ สิงห์อุดม ผบช.ตชด. ไปดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและรวบรวมหลักฐาน เพื่อไปแจ้งความกับตำรวจชั้นประทวนคนนี้แล้ว สิ่งที่เหลือคือ พยานหลักฐานและทรัพย์สินที่ขโมยไปว่ามีอะไรบ้าง พร้อมกับตรวจสอบย้อนหลังว่า เคยก่อเหตุทำนองนี้มาแล้วหรือยัง
ขณะเดียวกัน จะมีการตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรง แม้ว่านายตำรวจคนนี้จะทำเรื่องลาออกไปก่อนก็ไม่มีผล และเรื่องนี้จะมีการดำเนินคดีทั้งทางวินัยและอาญาจนถึงที่สุด
ข่าวจาก : kapook
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ