ทุบ “สกาลา” ปิดตำนวน 54 ปี โรงหนังยุคบุกเบิก เตรียมส่งมอบพื้นที่ให้ซีพีเอ็น





ทุบทิ้ง “โรงภาพยนตร์สกาลา” ปิดตำนาน 54 ปีโรงหนังยุคบุกเบิก เตรียมส่งมอบพื้นที่ให้เซ็นทรัลพัฒนา หรือซีพีเอ็น พัฒนาพื้นที่ต่อหลังคว้าสิทธิ์ในพื้นที่ 30 ปี

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังซีพีเอ็นชนะการประมูลพื้นที่ที่ดิน Block A จากที่สํานักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นเวลา 30 ปี คิดเป็นค่าตอบแทนกว่า 7,750 ล้านบาท ประกอบด้วย โรงภาพยนตร์สกาลา ซึ่งเป็นโรงภาพยนตร์สแตนด์อะโลนขนาด 1,000 ที่นั่ง เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2512 หรือกว่า 50 ปี

และพื้นที่อาคารพาณิชย์สูง 3-4 ชั้น จํานวน 79 คูหา ส่วนใหญ่ประกอบกิจการเป็นคลินิก ร้านอาหาร ร้านค้าสินค้าแฟชั่น เครื่องสําอาง ธนาคาร โรงเรียนกวดวิชา ฯลฯ ตั้งอยู่บริเวณสี่แยกปทุมวัน จุดตัดระหว่างถนนพญาไทกับถนนพระรามที่ 1 ตรงข้ามกับสยามดิสคัฟเวอรี่ มีเนื้อที่โครงการทั้งหมดประมาณ 7 ไร่ 31 ตารางวา

ล่าสุดทาง วันนี้ (1 พฤศจิกายน) เพจเฟซบุ๊ก Foto momo โพสต์ภาพรวมไปถึงคลิปไลฟ์สดทางเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับการปรับปรุงพื้นที่รื้อถอน-ทุบทิ้งโรงภาพยนตร์สกาลา ก่อนส่งมอบให้บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN นำไปพัฒนาตามแผนงานต่อไป โดยคาดว่าทางซีพีเอ็นจะเริ่มรีโนเวตครั้งใหญ่ให้เป็นคอมมิวนิตี้มอลล์ในต้นปี 2565 เพื่อต้องการรุกคืบเข้ามาในค้าปลีกย่านปทุมวัน-สยามสแควร์ของทางค่าย

สำหรับโรงภาพยนตร์สกาลา ถือเป็นโรงภาพยนตร์เครือเอเพ็กซ์ ถือเป็นกลุ่มโรงภาพยนตร์ ซึ่งเกือบทั้งหมดมีที่ตั้งอยู่ในย่านสยามสแควร์ ประกอบด้วย โรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย โรงภาพยนตร์สยาม โรงภาพยนตร์ลิโด และโรงภาพยนตร์สกาลา จดทะเบียนธุรกิจในนาม “สยามมหรสพ” มีทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท จัดตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2511 ขณะที่ข้อมูลจากบางสำนักระบุว่าบริษัท เอเพกซ์ภาพยนตร์ จำกัด เป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงภาพยนตร์ทั้งลิโดและสกาลา โดยบริษัทดังกล่าวจัดตั้งขึ้นเมื่อปี 2523 มีทุนจดทะเบียน 140 ล้านบาท จากจุดตั้งต้น 1 ล้านบาท มีเจ้าของประกอบไปด้วย กัมพล ตันสัจจา, นันทา ตันสัจจา และวิวัฒน์ ตันสัจจา ที่บริหารสวนนงนุช

โดยในปัจจุบันโรงภาพยนตร์เครือเอเพ็กซ์ทั้ง 4 แห่งนั้น ได้ปิดตัวไปทั้งหมดแล้ว โดยโรงภาพยนตร์ศาลาเฉลิมไทย ถูกทุบทิ้งในปี พ.ศ. 2532, โรงภาพยนตร์สยาม ถูกวางเพลิงจนเสียหายหมดทั้งอาคารจากการชุมนุมทางการเมืองครั้งใหญ่ปี พ.ศ. 2553 และแปลงสภาพเป็นสยามสแควร์วันในเวลาต่อมา, โรงภาพยนตร์ลิโด ที่ปิดตัวเพราะหมดสัญญาเช่ากับทางจุฬาฯ ในวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

และโรงภาพยนตร์สกาลาที่เป็นโรงภาพยนตร์แห่งสุดท้ายได้ปิดตัวลงในวันที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2563 เนื่องจากการระบาดทั่วประเทศของโควิด-19 และต้นทุนที่สูงขึ้น แม้ว่าสัญญาเช่าพื้นที่จะสิ้นสุดในปี พ.ศ. 2564 ก็ตาม ก่อนที่เซ็นทรัลพัฒนา หรือซีพีเอ็นจะประกาศคว้าสิทธิ์ชนะการประมูลพื้นที่ดังกล่าวเป็นเวลา 30 ปี เมื่อ 5 กันยายนที่ผ่านมา

 

ข่าวจาก : ประชาชาติธุรกิจ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: