สธ.แนะฉีดวัคซีนเข็ม 3 ที่รัฐจัดให้ฟรี ไม่แนะนำฉีดครึ่งโดส ภูมิอาจลดเร็ว





สธ.แนะฉีดวัคซีนโควิดเข็ม 3 ที่รัฐจัดให้ฟรี คณะกรรมการวิชาการแนะนำ ย้ำวัคซีนเพียงพอ จัดหาสำหรับคนทั้งประเทศ แนะคนฉีดเชื้อตายต้องบูสต์ด้วยวัคซีนต่างชนิด ภูมิถึงขึ้นดี ส่วนการฉีดกระตุ้นครึ่งโดสได้ผลดี แต่ยังไม่แนะนำ เพราะไม่รู้ภูมิลดลงเร็วหรือมาน้อยแค่ไหน ยังให้ฉีดเต็มโดส

เมื่อวันที่ 18 ต.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์กรณีข้อซักถามการเสียเงินจองวัคซีนทางเลือกเพื่อใช้เป็นเข็ม 3 สธ.มีข้อแนะนำอย่างไร ว่า ดีที่สุด คือ ตามที่ สธ.แนะนำ จะได้ไม่ต้องเสียเงินเอง เพราะวัคซีนทุกตัวที่ สธ.จัดให้ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย เป็นบริการจากภาครัฐไปยังประชาชนทุกคนอย่างเพียงพอ มีคุณภาพ และการออกใบรับรองวัคซีน (วัคซีนพาสปอร์ต) มีการรองรับจากการฉีดที่รัฐเป็นผู้รับผิดชอบ น่าจะเป็นสิ่งที่สะดวกกว่า

เมื่อถามถึงการฉีดเข็ม 3 ฟรีให้คนได้รับซิโนฟาร์ม 2 เข็ม นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าคณะกรรมการวิชาการมีมติให้ สธ.ดำเนินการได้ ก็จะยินดี ซึ่งวัคซีนที่ สธ.จัดหาคำนึงถึงจำนวนประชากรและกลุ่มเป้าหมายทั้งประเทศอยู่แล้ว มีความเพียงพอ จึงขึ้นอยู่กับคำแนะนำของคณะกรรมการวิชาการว่า วัคซีนที่ไม่ได้ถูกดำเนินการจัดหาโดยภาครัฐ เมื่อศึกษาแล้วว่าจะทำการฉีดกระตุ้นอย่างไรได้ สธ.ก็พร้อมปฏิบัติตาม แต่จะดำเนินการโดยพลการไม่ได้

ดังนั้น ผู้ที่ดำเนินการจัดหาวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชน ในวันแรกๆ อาจจะยังไม่นึกถึงเข็ม 3 แต่เมื่อเข้าสู่สถานการณ์ปัจจุบันแล้ว ผู้ที่ได้จัดหาวัคซีนทางเลือกให้กับประชาชนก็ควรจะต้องศึกษาถึงระดับภูมิคุ้มกันแล้ว ควรจัดเข็ม 3 ให้ประชาชนเมื่อไร ก็ควรดำเนินการได้เลย เพราะมีวิธีการช่องทางต่างๆรองรับอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามถึงการจัดหายาโมลนูพิราเวียร์ที่มีข้อทักท้วงว่าควรซื้อจากบริษัทในอินเดียที่ราคาถูกกว่าจากอเมริกา นายอนุทิน กล่าวว่า เราไม่แทงม้าตัวเดียว สิ่งที่จะจัดซื้อจัดหายาประเภทไหน อย่างไร เท่าไร พิจารณาตามความสำคัญสถานการณ์และตั้งมั่นในความไม่ประมาท มีทางเลือกอยู่บ้าง แต่การจัดหาจะต้องขึ้นกับการศึกษาถึงประสิทธิภาพประสิทธิผลของยานั้น จะดูเรื่องของการโฆษณาชวนเชื่อทางการตลาดอย่างเดียวไม่ได้ ต้องดูผลจากการรักษาจริงที่ได้จากการทดลองทางคลินิก ทั้งนี้ จะพยายามจัดซื้อตามความจำเป็น เพราะที่ผ่านมา เวชภัณฑ์หรือยาใช้รักษาโควิดที่จัดหาก็พิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพในการรักษา เพราะฉะนั้นจะดำเนินการจัดซื้อด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้สิ้นเปลืองงบประมาณของประเทศที่ควรจะต้องรักษาไว้ให้ได้มากที่สุด คำนึงถึงการใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ผู้สื่อข่าวถามถึงผู้ที่รับวัคซีนเชื้อตาย 2 เข็มจะกระตุ้นด้วยวัคซีนเชื้อตายได้หรือไม่ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ข้อมูลวิชาการที่คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคได้ทบทวน การฉีดวัคซีนเชื้อตาย 2 เข็มแล้วกระตุ้นด้วยเชื้อตาย ภูมิคุ้มกันขึ้นไม่ค่อยดีมากนัก สู้การกระตุ้นด้วยวัคซีนชนิดไวรัลเวคเตอร์ และ mRNA จะดีกว่า ขณะนี้คำแนะนำคือหากฉีดเชื้อตาย 2 เข็มควรจะกระตุ้นด้วยชนิดวัคซีนต่างกัน

ถามว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนซิโนฟาร์ม 2 เข็ม สธ.จะมีแนวทางการฉีดกระตุ้นเข็ม 3 อย่างไร นพ.โอภาส กล่าวว่า หากฉีดครบ 2 เข็มแล้วถึงเวลาที่ต้องได้รับเข็ม 3 กระตุ้น และยินดีที่จะมารับวัคซีนที่ สธ.จัดหา ซึ่งนโยบายก็ให้ดูแลทุกคน แต่จะต้องนับช่วงเวลาของการฉีดครบ 2 เข็ม โดยส่วนใหญ่คนที่ฉีดเชื้อตายยี่ห้ออื่น ยังไม่ถึงเวลาที่จะต้องได้รับการกระตุ้น เมื่อถึงช่วงเวลาที่ภูมิคุ้มกันลดลงก็จะฉีดกระตุ้น

ถามต่อถึงการกระตุ้นวัคซีนชนิด mRNA แบบครึ่งโดส นพ.โอภาส กล่าวว่า งานวิจัยบ่งชี้ว่าครึ่งโดสน่าจะพอ แต่ยังไม่ทราบว่าภูมิคุ้มกันจะลดลงได้แค่ไหนอย่างไรและเมื่อไร ต้องรออีกครั้งเพื่อให้เกิดความรอบคอบในการจัดการ ทั้งนี้ โดยหลักการทั่วไปคนที่ฉีดวัคซีนเชื้อตายครบ 2 เข็ม ถ้าเกิน 6 เดือนแล้วควรจะฉีดทันที แต่ในช่วง 3-6 เดือนควรจะฉีดเมื่อไร จะพิจารณาอีกครั้ง

“อ้างอิงคำแนะนำอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ซึ่งเป็นคณะกรรมการอย่างเป็นทางการตามกฎหมาย ยังแนะนำให้ฉีดกระตุ้นเต็มโดส เนื่องจากการฉีดครึ่งโดส แม้ว่าข้อมูลเบื้องต้นว่าอาจจะมีผลกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี แต่ยังไม่รู้ว่าภูมิที่ขึ้นนั้นจะอยู่ได้นานแค่ไหน ลดเร็วแค่ไหน นี่เป็นคำแนะนำอย่างเป็นทางการของอนุกรรมการฯ” นพ.โอภาสกล่าว

 

ข่าวจาก : ข่าวสด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: