ฟาร์มนกกระทากำนันจรเข้ร้อง เจอน้ำท่วมย้ายไม่ทันต้องปล่อยตาย 120,000 ตัว เหตุช่วยชาวบ้านจนไม่มีเวลาช่วยนก
วันที่ 5 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานที่บริเวณหมู่ที่ 4 ต.ชัยฤทธิ์ อ.ไชโย จ.อ่างทอง ภายหลังจากเขื่อนดินที่กั้นลำน้ำเจ้าพระยาได้พังลงเมื่อวาน(4ตค.64)จนทำให้มวลน้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำจำนวนกว่าร้อยหลัง จนไม่สามารถป้องกันไว้ได้
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าที่ฟาร์มนกกระทาของกำนันโสภณ งามรุ่งโรจน์ หรือชาวบ้านเรียกติดปากกันว่ากำนันบอย มวลน้ำได้พังคันดินที่กั้นลำน้ำบริเวณหน้าวัดบางศาลา ตำบลชัยฤทธิ์ อำเภอไชโย จังหวัดอ่างทอง ไหลเข้ามาท่วมฟาร์มนกกระทาส่งผลให้นกกระทากว่า 5,000 ตัวจากนกกระทาทั้งหมด 120,000 ตัวต้องจมน้ำตาย เพราะไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ทัน
นาย โสภณ งามรุ่งโรจน์ อายุ 56 ปี กำนันตำบลจรเข้ร้องเจ้าของโสภณฟาร์มนกกระทา ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้เรายังไม่ทราบความเสียหายที่แน่นอน เพราะตอนนี้เราจับได้ก็ต้องจับ ได้แค่ไหนก็แค่นั้น ส่วนน้ำจะมากน้อยเราก็ยังไม่รู้ เพราะตั้งแต่เลี้ยงมาก็ยังไม่มีน้ำท่วมเลย ปีนี้เป็นปีแรก ซึ่งเราเลี้ยงนกกระทาไว้ 120,000 ตัว ส่วนน้ำมาเมื่อตอนเย็นนี้ ตอนแรกเก็บของก่อนพอมันพังตูมที่เดียวหมดเลย ทำให้ขนนกระทาไม่ทันแค่ได้ประสานไปยังปศุสัตว์อำเภอไชโยแล้ว
ด้านนายชัยยุทธ เหลืองบุศราคัม ปศุสัตว์จังหวัดอ่างทอง หลังได้รับรายงานจาก นายวัลลภ บัวสะอาด ปศุสัตว์อำเภอไชโย ได้เดินทางมายังฟาร์มนกกระทาดังกล่าว โดยเบื้องต้นนายวัลลภ ได้รายงานว่าฟาร์มที่ถูกน้ำท่วมเป็นฟาร์มมาตรฐาน โสภณฟาร์ม ซึ่งมีนกประมาณ 120,000 ตัวตอนนี้ได้รับผลกระทบอย่างหนัก เบื้องต้นทางสำนักงานปศุสัตว์ ได้ให้ความช่วยเหลือเอาอาหารออกมาก่อน ส่วนตัวนกกระทาจะเร่งนำออกตามมา เบื้องต้นขณะนี้มีนกจมน้ำแล้ว 4-5 พันตัว เพราะน้ำสูงขึ้นเกินกว่า 2 ชั้นแล้ว คาดว่าคืนนี้น้ำจะท่วมฟาร์มทั้งหมด ทำให้นกกระทาในฟาร์มกว่า 120,000 ตัวต้องตายหมด เพราะน้ำมาเร็วมาก โดยเฉพาะตอนนี้นกอยู่ในช่วงกำลังไข่ การที่จะนำนกออกมานั้นปศุสัตว์อำเภอไชโย กล่าวว่า เราต้องมีพื้นที่ให้นก โดยเฉพาะกรง มีความจำเป็นเป็นอย่างมาก การที่นำนกออกมา เราก็ไม่สามารถหาโรงเรือนให้นกกระทาได้ ทัน อีกทั้งขณะนี้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็วต่อเนื่อง การค้นย้ายไม่ทันอย่างแน่นอน สำหรับมูลค่าความเสียหายในครั้งนี้ไม่ต่ำกว่า 2,000,000 บาท
สำหรับกำนันโสภณ งามรุ่งโรจน์นั้น เป็นกำนันตำบลจรเข้ร้อง ดูแลพื้นที่ถนนริมเขื่อนทรุดจนมวลน้ำเข้ามาเมื่อช่วงเช้ามืดของวันก่อน เป็นอีกคนหนึ่งที่มีบทบาทในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่อำเภอไชโยในครั้งนี้ โดยดูแลชาวบ้านในพื้นที่น้ำท่วมและคอยประชาสัมพันธ์ รวมไปถึงดูแลความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ตลอดระยะเวลาระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นมาโดยตลอด จนกระทั่งล่าสุดภายหลังแนวกั้นน้ำหน้าวัดบางศาลาพังลงทำให้มวลน้ำไหลเข้าพื้นที่หลังแนวกั้นจนฟาร์มนกกระทาได้รับความเสียหาย นกกระทา 120,000 ตัวต้องตายลงทั้งหมด
ข่าวจาก : มติชน
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ