สรุปดราม่า มาดาม ม. หนี้สินท่วมหัว แต่ตัวอยู่สบาย เจ้าหนี้แสนลำบาก





สรุปแฮชแท็กร้อน #มาดามแมว สาวประเภทสอง ไล่ยืมเงินคนอื่นแต่ไม่คืน เคสหนักสุดติดเงินเป็นแสน ให้ด้วยความรักและไว้ใจ สุดท้ายต้องใช้หนี้นอกระบบแทน ลำบากไม่ไหว เครียดจนจบชีวิต

เป็นแฮชแท็กร้อนแรงที่ชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์กันสนั่นในขณะนี้ สำหรับ #มาดามแมว เกี่ยวกับวีรกรรมของสาวประเภทสองรายหนึ่งที่ไปยืมเงินคนอื่นแล้วไม่ใช้คืน ทำให้เจ้าหนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ทั้งที่ให้ด้วยความรักและไว้ใจ กระทั่งสุดท้ายจบด้วยความเศร้าสลด เนื่องจากเจ้าหนี้ตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะทนแบกรับภาระหนี้ไม่ไหว เรื่องนี้สะเทือนใจหลายคนอย่างมาก ตามไปไล่เรียงเหตุการณ์กันเลยว่ามีที่มาที่ไปอย่างไรบ้าง..

ตัวละคร ใครเป็นใครกันบ้าง ?

ม. เป็นสาวประเภทสองที่เรียนจบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังทางภาคอีสาน มีคนให้ข้อมูลว่า ม. ค่อนข้างมีชื่อเสียง คนรู้จักเยอะ เพราะเป็นนักกิจกรรมตัวยง

จ. ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นรุ่นพี่ของ ม. เรียนอยู่มหาวิทยาลัยเดียวกัน เคยเป็นนายกสโมสรนักศึกษาของคณะและประธานเชียร์ หลังจากเรียนจบได้ทำงานไปพร้อมกับเรียนต่อปริญญาโทไปด้วย

ความทุกข์ของ จ.

ช่วงต้นเดือนสิงหาคม จ. โพสต์เฟซบุ๊กในทำนองที่ว่า เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด ด้วยคำว่าสงสาร สนิทกัน และนับถือกัน นำมาซึ่งความเดือดร้อนเรื่องเงิน เครียดที่คนที่ไว้ใจมาทำให้ลำบาก คุณทำให้คนที่ยื่นมือช่วยคุณลำบากอย่างมาก เสียแรงที่รักและไว้ใจ

นอกจากนี้ ยังมีหลายโพสต์ที่แท็กหา ม. ว่าหายไป ติดต่อไม่ได้ หรือว่าจะต้องไลฟ์เฟซบุ๊กตามหา ซึ่งหลายโพสต์ของ จ. บ่งบอกว่าให้โอกาส ม. หลายครั้งแล้ว นัดจจะคืนเงินให้แต่ไม่เป็นไปตามนัด ติดต่อไม่ได้ ทักไปก็ไม่อ่าน ไม่ตอบ และมีโพสต์หนึ่งที่บอกว่า “คิดถึงพี่ให้มาก ๆ นะ เพราะวันหนึ่งมันอาจจะไม่มีพี่แบบนี้”

จากใจพี่ถึงน้องที่รักและไว้ใจ

วันที่ 19 สิงหาคม 2564 จ. โพสต์เฟซบุ๊กระบายถึง ม. ระบุว่า เพราะรักและเคยไว้ใจถึงให้ความช่วยเหลือ น้องทำแบบนี้กับคนที่ช่วยเหลือได้อย่างไร น้องเคยยืนในจุดที่ทุกคนชื่นชมในความสามารถ แต่การเป็นหนี้ก็ต้องคืน ไม่ใช่เงียบหายแบบนี้ เก่งต้องเก่งทุกเรื่อง เก่งสร้างต้องเก่งแก้ ไม่ใช่เก่งเงียบหนีหาย ให้นึกถึงวันที่ลำบากที่มีคนยื่นมือช่วยด้วย ทุกคนล้มแล้วลุกได้ ไม่อยากซ้ำเติม แต่อยากให้รู้จักความรับผิดชอบในสิ่งที่สร้างไว้ พร้อมบอกอีกด้วยว่าหนี้จำนวน 97,800 บาท ไม่มีใครสามารถหาใช้แทนเธอได้จริง ๆ

ในโพสต์ดังกล่าว จ. ได้ระบุในคอมเมนต์ด้วยว่า ทำงานเงินเดือน 15,000 บาท แต่ต้องมาใช้หนี้สัปดาห์ละ 12,000 บาท ซึ่งปกติแล้วเขาใช้เงินเดือนละไม่ถึงหมื่น แต่กลับต้องแบกภาระมากมายขนาดนี้ เพราะไปกู้เงินมาให้กับ ม.

เจ้านี้ที่ตกเป็นเหยื่อโผล่อีกเพียบ

มีหลายคนเข้ามาคอมเมนต์ว่า ม. เคยทักมายืมเงิน ซึ่งหลายคนก็ไม่ได้คืนเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีการโพสต์ระดมกลุ่มเจ้าหนี้ด้วย และนำชื่อของ ม. ไปใส่ในแบล็กลิสต์เว็บฉ้อโกงออนไลน์ เป็นผู้ขายที่ควรระวัง

นอกจากนี้ มีคนแคปแชตที่เคยคุยกับ ม. โดย ม. ส่งรูปขณะทานอาหารดี ๆ ไปให้ พร้อมบอกว่ายืมเงินเขามาใช้ ต้องใช้ให้คุ้ม ไหน ๆ ก็ยืมมาแล้ว รวมถึงมีคนให้ข้อมูลว่า ม. ย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ และอ้างว่าต้องหมุนเงิน หลายอย่างยังไม่ลงตัวจึงยังไม่สามารถคืนเงินให้ได้

เหตุไม่คาดฝัน สะเทือนใจชาวเน็ต

วันที่ 20 สิงหาคม 2564 เวลา 21.30 น. มูลนิธิกู้ภัยได้รับแจ้งเหตุพบชายรายหนึ่งเสียชีวิตในหอพัก สาเหตุเกิดจากทำร้ายตนเองจนถึงแก่ชีวิต ซึ่งทางกู้ภัยจะนำร่างผู้เสียชีวิตส่งให้ฝ่ายนิติเวชชันสูตร และรอญาติติดต่อมารับ

ภายหลังการเสียชีวิตของ จ. มีการเปิดเผยแชตที่ จ. พิมพ์หา ม. อ่านแล้วสะเทือนใจอย่างมาก เพราะเจ้าตัวพิมพ์ไปว่า “ทำกับพี่แบบนี้ ก็เอาเงินที่ทำร้ายพี่ให้ซองมางานศพพี่เถอะนะ” รวมถึงบอกว่า “น้องเคยรักใครไหม ถ้าน้องเคยรัก น้องทำแบบนี้กับพี่ได้ไง”

อย่างไรก็ตาม โลกออนไลน์เปิดเผยว่าขณะนี้คนใกล้ชิดสามารถติดต่อ ม. ได้แล้ว ทราบแล้วว่าอยู่ที่ไหน ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า ม. จะรับผิดชอบอย่างไรกับเรื่องที่ก่อไว้ เพราะนอกจากเคสของ จ. แล้ว ตอนนี้มีเจ้าหนี้จำนวนมากที่รอเช็กบิลอยู่

 

ข่าวจาก : kapook

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: