ผอ.ศูนย์บางซื่อ แฉกลโกงขายสิทธิฉีด วัคซีนโควิด เผยเหตุจับไต๋ได้





ผอ.ศูนย์บางซื่อ แฉ กระบวนการทุจริตขายสิทธิฉีด วัคซีนโควิด ยันไม่ใช่แฮกข้อมูล ระบุ จับไต๋ได้เพราะช่วงวอล์กอินงดฉีดกลุ่มองค์กร ทำให้พบความผิดปกติ 19 ยูสเซอร์

วันที่ 1 ส.ค.2564 พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผอ.สถาบันโรคผิวหนัง และผอ.ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ แถลงข่าวผ่านระบบซูมกรณีการทุจริตลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด 19 ว่า เราพบความผิดปกติตั้งแต่ช่วงวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากที่ผ่านมาเราฉีดวัคซีนให้คนที่จองคิวล่วงหน้า ซึ่งมีการลงทะเบียนผ่านค่ายมือถือและองค์กรขนาดใหญ่ โดยจะส่งข้อมูลมาเป็นไฟล์ ทั้งชื่อ เลขบัตรประชาชน ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เราจะอัพโหลดข้อมูลเข้าระบบวันต่อวัน เพราะต้องคลีนข้อมูลว่าไม่มีการลงทะเบียนซ้ำซ้อนหรือลงทะเบียนเพื่อมาฉีดเข็มสาม

พญ.มิ่งขวัฐ กล่าวต่อว่า ซึ่งส่วนใหญ่เราจะอัพโหลดข้อมูลเสร็จเวลาประมาณ 22.00 น. เพราะข้อมูลมีจำนวนมากประมาณ 2 หมื่นคนต่อวัน ซึ่งผู้ที่อัพโหลดแก้ไขข้อมูลได้จะเป็นเจ้าหน้าที่ของสถาบันโรคผิวหนังและฝ่ายไอทีของกรมการแพทย์ที่มีประมาณ 10 คน ส่วนเจ้าหน้าที่จิตอาสาจากกระทรวงต่าง ๆ และ 4 ค่ายมือถือไม่สามารถเข้าถึงสิทธิการแก้ไขข้อมูลเหล่านี้

พญ.มิ่งขวัญ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม เมื่อเรามีการเปิดวอล์กอิน ซึ่งเป็นผู้ที่ไม่มีรายชื่อในระบบเลย จึงต้องใส่รายชื่อเข้าไปใหม่ ดังนั้น จึงมีการให้สิทธิเจ้าหน้าที่จิตอาสาที่โต๊ะลงทะเบียนในการใส่ข้อมูลผู้วอล์กอินเข้าไปได้ประมาณ 300 คน ทำให้เป็นช่องโหว่สำคัญ ทำให้จิตอาสาบางคนใช้สิทธินี้โดยมิชอบในการใส่ข้อมูลเข้าไปเพิ่ม ไม่ใช่การแฮกระบบแต่อย่างใด

พญ.มิ่งขวัญ กล่าวว่า ซึ่งเราพบความผิดปกติเนื่องจากช่วงเราเปิดวอล์กอิน เราจึงไม่รับนัดกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ เหลือเพียงนัดเป็นกลุ่มของกระทรวงการต่างประเทศที่ส่งรายชื่อชาวต่างชาติมาฉีดวันละ 200-300 คน ไม่เกิน 400 คน ทำให้การอัพโหลดข้อมูลเสร็จตั้งแต่ช่วง 16.00-17.00 น. แต่เราพบการใส่ข้อมูลเพิ่มเติมที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่อัพโหลดในช่วง 22.00 น.

“ในช่วงวันที่ 18-27 ก.ค. เราพบจำนวนไม่มาก ประมาณวันละ 10-20 คน มากสุด 50 คน เราจึงยังไม่ทำอะไร เพราะไม่อยากแหวกหญ้าให้งูตื่น และไม่อยากให้การสืบไปถึงต้นตอเสียหาย ส่วนช่วงวันที่ 28-31 ก.ค. เราพบการใส่ข้อมูลมาเพิ่มมากถึงวันละ 2 พันราย รวมประมาณ 7 พันกว่าราย และยังพบการลงทะเบียนล่วงหน้าไปถึงวันที่ 8 ส.ค. รวมแล้วประมาณเกือบหมื่นราย” พญ.มิ่งขวัญ กล่าว

พญ.มิ่งขวัญ กล่าวต่อว่า จากข้อมูลที่อัปโหลดเพิ่มเติมนอกเหนือจากเจ้าหน้าที่ทำให้ทราบว่าเป็นยูสเซอร์ไหน ซึ่งพบว่ามี 19 ยูสเซอร์เป็นเจ้าหน้าที่จิตอาสาที่ทางค่ายทรูจ้างมา โดยจำนวนนี้ 8 ยูสเซอร์มีการใส่ข้อมูลเพิ่มเพียงไม่กี่คน แต่อีก 11 ยูสเซอร์มีการใส่ข้อมูลเพิ่มเข้ามาจำนวนมาก โดยมี 4 ยูสเซอร์ที่อัปโหลดถึง 400-500 ราย

ซึ่งจากการที่เราไม่มีการรับนัดองค์กรขนาดใหญ่ และอัปโหลดข้อมูลเสร็จไวจึงทำให้พบเห็นความผิดปกตินี้ได้ง่าย อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของค่ายมือถือทรู จึงต้องให้ความเป็นกับค่ายมือถือด้วย ซึ่งทุกค่ายมือถือมีการจ้างจิตอาสามาทั้งหมด และ 98% จิตอาสาก็มาทำงานด้วยใจบริสุทธิ์

พญ.มิ่งขวัญ กล่าวว่า วันที่ 28 ก.ค. จึงมีการล่อซื้อ ซึ่งจากจำนวนประมาณ 2 พันคน และเราทราบรายชื่อทั้งหมด จึงปล่อยให้เข้ามาตามปกติก่อน โดยช่วงเวลา 09.00 น. เราเช็กข้อมูลทราบว่ามีเข้ามาในฮอลแล้วประมาณ 600 คน จึงทำการยกเลิกนัด 2 พันกว่าคนนั้น ทำให้ 600 คนที่เข้ามาแล้วถูกเด้งออกจากการนัด เมื่อไปจุดลงทะเบียนหรือฉีดยา ไม่พบข้อมูล

ซึ่งเราเตรียมเจ้าหน้าที่ไว้ ถ้าพบกรณีเช่นนี้ให้พาไปสถานที่แห่งหนึ่งใกล้จุดลงทะเบียน เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจและสอบถามข้อมูลและกันไว้เป็นพยาน โดยมีแบบฟอร์มให้กรอกข้อมูล ซึ่งเรากันไว้ได้ 300 กว่าคน ส่วนที่เหลือพอรู้ตัวก็มีการหลบออกไป รวมถึงมีการส่งสัญญาณให้คนที่ยังมาไม่ถึงไม่ต้องมา

พญ.มิ่งขวัญ กล่าวด้วยว่า ข้อมูลที่เราให้กรอกคือชื่อ นามสกุล เลขที่บัตรประชาชน ที่มาของการได้สิทธิ โอนเงินให้ใครเท่าไรอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่ให้ข้อมูลว่า เพื่อนซื้อ เจ้านายซื้อให้ ได้ข้อมูลมาจากกลุ่มไลน์ที่บอกต่อ ๆ กันไป ส่วนมูลค่าเงินประมาณ 400-1,200 บาท เฉลี่ยที่พบบ่อยคือ 800 บาท ดังนั้น หากคิดประมาณ 7 พันราย รายละ 1,000 บาท ก็รวมกว่า 7 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ความเสียหายยังเกิดกับเรื่องความน่าเชื่อถือทางศูนย์ฯ กระทบสิทธิคนอื่นที่ต้องจองคิว และกระทบชื่อเสียงคนเกี่ยวข้อง

“เราจึงแจ้งความกับทางตำรวจรถไฟ โดยตำรวจสอบสวนกลางได้ตั้งทีมขึ้นมาเพื่อช่วยดูเรื่องนี้ให้ และประสานกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือตำรวจไซเบอร์เข้ามาตรวจสอบหลักฐานด้วย ซึ่งคิดว่าเคสนี้ไม่น่าจะยาก จริง ๆ ต้องให้ความเป็นธรรมกับ 19 ยูสเซอร์ด้วย เพราะอาจไม่ได้ทำเอง อาจจะมีใครทราบพาสเวิร์ดแล้วไปทำ ซึ่งตรงนี้เราต้องตามจับตรงไอพีแอดเดรสที่ใส่ข้อมูลว่ามาจากไหน แล้วตามจับตรงเส้นทางการเงินที่เกิดจากการโอนเงินด้วย ว่าผู้ที่จ่ายนั้นโอนเงินให้ใคร และบัญชีนั้นมีการโอนไปให้ใครต่อหรือไม่” พญ.มิ่งขวัญ กล่าว

พญ.มิ่งขวัญ กล่าวว่า ขณะนี้เราได้เช็กระบบและเตรียมแนวทางแก้ไขไม่ให้เกิดขึ้น ซึ่งตอนนี้กลับมาเป็นการลงทะเบียนล่วงหน้า สิทธิที่ให้จิตอาสาก็เรียกคืนเปลี่ยนสิทธิทั้งหมด เหลือเฉพาะเจ้าหน้าที่สถาบันโรคผิวหนังและไอที กรมการแพทย์ 10 คนเท่านั้น นอกจากนี้ คอมพิวเตอร์หลักที่เดินที่เปิดเครื่องทิ้งไว้ เพราะการรีสตาร์ทใหม่ต้องใช้เวลา ทำให้เป็นจุดอ่อน คนทำ VPN จากบ้านมาใช้กับเครื่องที่ศูนย์ได้ เราจึงปิดระบบ พอกลับบ้านก็ปิดเครื่อง ไม่เปิดเครื่องคาไว้ นอกจากนี้ กำลังตรวจสอบย้อนหลังไปก่อนวันที่ 18 ก.ค.ด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่า

มีเจ้าหน้าที่หลักมีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และหากเกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไร พญ.มิ่งขวัญ กล่าวว่า ตอนนี้เราสงสัยไว้ก่อนทั้งหมด ตำรวจที่สอบสวนก็ไม่ได้สอบแค่ 19 ยูสเซอร์ ตอนนี้เขาก็มาทำปกติ

โดยตำรวจเองก็สอบเจ้าหน้าที่สถาบันโรคผิวหนังและฝ่ายไอที กรมการแพทย์ที่มาช่วยงานด้วย แต่ถามว่าเราเชื่อมั่นในตัวเจ้าหน้าที่ของเราไหม เราเชื่อในระดับที่มาก และเจ้าหน้าที่เราเองก็เป็นคนตรวจพบความผิดปกติและแจ้งให้ทราบ ทุกคนตอนนี้เป็นผู้ต้องสงสัยทั้งหมด แต่ก็ต้องถือว่าบริสุทธ์ทั้งหมดก่อน เพราะคนที่ทำอาจจะไม่ใช่ 29 คนนี้ก็ได้ รอให้ตำรวจสอบสวน ซึ่งไม่น่ายาก

เมื่อถามถึงการฉีดวัคซีนวันนี้ที่กลับมาเป็นลงทะเบียนทั้งหมด พญ.มิ่งขวัญ กล่าวว่า เรานัดเกือบ 2 หมื่นคน โดยกระจายเวลาแต่ละชั่วโมงให้เฉลี่ยมาเท่า ๆ กัน ที่นั่งเตรียมไว้มีเพียงพอ ไม่แออัดหรือไม่โหลดในช่วงใดช่วงหนึ่ง เจ้าหน้าที่ก็ได้พักร่าง

ซึ่งจะเป็นอย่างนี้ไปเกือบเดือน ต่างจากช่วงวอลก์อินที่มาเกือบ 3 หมื่นคน หรือ 3 หมื่นกว่าคน อย่างไรก็ตาม กำลังคิดว่าจะลดเวลาฉีดเหลือถึง 16.30 น. โดยเฉลี่ยทุกชั่วโมงมาเท่ากันก็น่าจะสบาย เจ้าหน้าที่ก็ได้เลิกเร็ว สำหรับสัดส่วนก็ประมาณครึ่ง ๆ ในส่วนของกลุ่ม 608 และอายุ 18 ปีขึ้นไป

ถามต่อถึงการปรับสูตรฉีดวัคซีนเริ่มแล้วหรือไม่ พญ.มิ่งขวัญ กล่าวว่า วันนี้ยังฉีดเป็นแอสตร้าเซนเนก้าอยู่ แต่ถามว่าฉีดสูตรซิโนแวคตามด้วยแอสตร้าฯ หรือ SA ได้หรือไม่ ก็สามารถทำได้ แต่ขึ้นกับวัคซีนที่ส่งมา ซึ่งต้องคำนวณวัคซีนให้ดี เพราะเราจะเริ่มฉีดแอสตร้าฯ เข็มสองวันแรกคือช่วงวันที่ 30-31 ส.ค.นี้ ถ้าส่งซิโนแวคมาฉีด ก็จะฉีดแอสตร้าฯ เข็มสองเร็วขึ้น

พญ.มิ่งขวัญ กล่าวต่อว่า ดังนั้น ต้น ก.ย.เราจะทำงานหนัก 2 เท่า เพราะมีทั้งเข็มสองจากการฉีดแอสตร้าฯ ตามปกติ กับฉีดแอสตร้าฯของสูตร SA มาอีกเท่าหนึ่ง ถ้ารู้ล่วงหน้าก็จะเตรียมรับ โดยเราได้บอกจิตอาสาให้กลับไปพักได้ และเดือนหน้าขอนัดตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค.นี้

 

ข่าวจาก : ข่าวสด

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: