รมต.ชี้ ครม.ทำตามกฏเป๊ะ ภูเก็ตคือพื้นที่สีเขียว กินดื่มนับร้อยร่วมกันได้
ทั่วไป, บทความทั่วไป




พิพัฒน์ ชี้ ภูเก็ต คือพื้นที่สีเขียว ดื่ม-กินข้าวร่วมกันได้หากไม่เกิน 200 คน ไม่ต้องอนุญาตผู้ว่าราชการจังหวัด ตามประกาศ ศบค. เป๊ะเลย วอนเข้าใจ

วันที่ 2 ก.ค.2564 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า จากกระแสดราม่าเรื่องงานเลี้ยงของหอการค้าแห่งประเทศไทยที่ จ.ภูเก็ต ภายหลังการเดินทางมาร่วมเปิดโครงการ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เพื่อการเปิดนำร่องรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทยโดยไม่ต้องกักตัว

“เรื่องนี้ต้องขออธิบายว่าจังหวัดภูเก็ตนะวันนี้คือพื้นที่สีเขียวสามารถดื่มและรับประทานอาหารร่วมกันได้หากจำนวนกลุ่มผู้ร่วมรับประทานอาหารไม่เกิน 200 คน”

 

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า แต่หากเกิน 200 คน จะต้องขออนุญาตจากผู้ว่าราชการจังหวัด การเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์และการปฏิบัติตัวในพื้นที่ จ.ภูเก็ต รัฐบาลทำตามประกาศขอศบค.ในทุก ๆ เรื่อง

“ทุกวันนี้รัฐบาลทำอะไรก็ผิดทั้งที่การทำงานทั้งหมดทำเพื่อประเทศชาติ การเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวที่ร่วมกับคนในท้องที่เพื่อนำร่องไปสู่การเปิดประเทศภายใน 120 วันตามนโยบายของรัฐบาล อยากให้ทุกคนเข้าใจการปฎิบัติหน้าที่ของรัฐบาล ที่ผ่านมาในพื้นที่ที่ห้ามดื่มพวกเราก็ไม่ดื่มแต่ในภูเก็ตจะเห็นได้การร่วมรับประทานอาหารของกลุ่มสมาชิกหอการค้า มีการดื่มเบียร์ด้วยนั่น สามารถทำได้ภายในพื้นที่สีเขียว” นายพิพัฒน์ กล่าว

ข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์

Tag ที่เกี่ยวข้อง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

แจก 3,000 บาทให้ลูกหลานที่เลี้ยงคนแก่ เริ่มจ่าย พ.ค. 67

Advertisement จากกรณีที่มีการประกาศระเบียบกรมกิจการผู้สูงอายุ ว่าด้วยการคุ้มครองผู้สูงอายุแบบครอบครัวอุปถัมป์ พ.ศ. 2566 โดยมีการจำกัดความ ครอบครัวอุปถัมป์ไว้ว่า เป็นบุคคลหรือครอบครัวที่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี ให้เป็นครอบครัวอุปถัมป์ผู้สูงอายุที่มีฐานะยากจน และไม่มีผู้ดูแลหรือมี แต่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้ Advertisement สำหรับระเบียบการคุ้มครองครอบครัวอุปถัมป์ผู้สูงอายุ มีรายละเอียดดังนี้ เงื่อนไขการขอคุ้มครอง การขอคุ้มครองสามารถขอได้เพียงคราวละ 1 คน หากจะรับมากกว่านั้น ให้ระบุเหตุผลและความจำเป็นที่จะต้องรับผู้สูงอายุไว้คุ้มครองดูแลมากกว่า 1 คน คุณสมบัติการขอเป็นครอบครัวอุปถัมป์ มีดังนี้ 1. มีสัญชาติไทย 2. มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ หรือถ้ามีอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่มีความพร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ อาจได้รับการอนุมัติเป็นราย ๆ ไป 3. มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกับผู้สูงอายุ 4. ได้รับความยินยอมจากสมาชิกทุกคนในครอบครัวว่า มีความพร้อมในการคุ้มครองผู้สูงอายยุ 5. ไม่เป็นผู้ต้องหากระทำผิดอาญา และอยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล Advertisement สถานที่การยื่นขอเป็นครอบครัวอุปถัมป์ 1. กรุงเทพฯ ให้ยื่นที่กรมกิจการผู้สูงอายุหรือศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค หรือหน่วยงานที่อธิบดีประกาศกำหนด 2. […]

admin111 admin111

17 April 2567

กระทรวงแรงงานจัดงบ 80 ล้าน ตั้งกองทุนปล่อยกู้ให้ผู้ใช้แรงงาน-ลูกจ้าง

Advertisement นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานจัดเตรียมงบประมาณกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน 80 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนให้ผู้ใช้แรงงานหรือลูกจ้างได้กู้ยืม มีรายได้หรือใช้ปลดเปลื้องหนี้สินจากการกู้ยืมเงินนอกระบบ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สามารถหาหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์ทั่วไปได้ ภายใต้โครงการเงินกู้กองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน Micro Finance ลดหนี้ เติมทุน สร้างสุขแรงงาน Advertisement เป็นไปตามนโยบายของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ต้องการดูแลผู้ใช้แรงงานและครอบครัวให้มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและมีคุณภาพชีวิตที่ดี สำหรับผู้ใช้แรงงานหรือลูกจ้างที่ประสงค์จะขอกู้ให้ติดต่อที่สหกรณ์ออมทรัพย์หรือเครดิตยูเนี่ยนในสถานประกอบกิจการหรือรัฐวิสาหกิจที่ตนเป็นสมาชิก โดย Advertisement เงินกู้ระยะสั้นกรณีปกติ อัตราดอกเบี้ย 2.75% ต่อปี กำหนดชำระคืนไม่เกิน 1 ปี เงินกู้ระยะยาวกรณีปกติ อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี กำหนดชำระคืน 1 – 5 ปี นอกจากนี้ยังมีเงินกู้เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติ อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี และเงินกู้สร้างสุข ปลดทุกข์หนี้นอกระบบ อัตราดอกเบี้ย 0.5 – 1.5% ต่อปี พิเศษดอกเบี้ย 0% […]

admin111 admin111

17 April 2567

อุตสาหกรรม สมุทรสาครแจ้ง บก.ปทส.เอาผิดผู้ครอบครองแคดเมียม ชาวตากประท้วงไม่รับคืน

Advertisement น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 เมษายน คณะกรรมการอำนวยการขนย้ายกากแคดเมียม และสังกะสี ได้ชี้แจงรายละเอียดแผนการขนย้ายกากแคดเมียมของ บมจ.เบาว์แอนด์บียอนด์ ให้กับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั้ง 3 พื้นที่ ได้แก่ ตาก สมุทรสาคร และชลบุรี ทราบเพื่อเตรียมการในส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการชี้แจงประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้เข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน เบื้องต้น ทราบจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดว่า ผู้ประกอบการที่ครอบครองกากแคดเมียมทุกรายยินยอมที่จะให้นำกากที่ถูกอายัดไว้ กลับไปฝังกลบที่จังหวัดตาก Advertisement รมว.อุตสาหกรรมกล่าวอีกว่า สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร จะไปร้องทุกข์กล่าวโทษการกระทำผิดของผู้ครอบครองกากแคดเมียมทั้งหมด กับ บก.ปทส. ในวันที่ 17 เมษายน พร้อมประเมินปริมาณของกลางก่อนที่จะโอนให้ บก.ปทส.ต่อไป และในวันเดียวกัน กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปร่วมตรวจสอบความแข็งแรงของหลุมฝังกลบของบริษัทที่จังหวัดตาก คาดว่าจะรู้ผลในวันเดียวกัน น.ส.พิมพ์ภัทรากล่าวด้วยว่า สำหรับความเห็นของประชาชนในพื้นที่ต้นทางเคลื่อนย้ายกาก คือ สมุทรสาคร ชลบุรี และกรุงเทพมหานคร อยากให้การขนย้ายขึ้นรถบรรทุกไม่เกิดการรั่วไหล หรือฟุ้งกระจายของกากแคดเมียม ส่วนประชาชนในพื้นที่ปลายทางที่จังหวัดตาก โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ 6 ต.หนองบัวใต้ อยากให้ตรวจสอบความแข็งแรงของหลุมฝังกลบ การเคลื่อนย้ายกากลงหลุมฝังกลบต้องปลอดภัย […]

admin111 admin111

17 April 2567
error: