ปีกว่าๆ ลดเกือบร้อยโล!!! ทำได้ไง ไม่พึ่งยาซักเม็ด!?!





 

จากน้ำหนัก198 กก.สู่น้ำหนัก 95 กก. ภายใน1ปีกับ5เดือน ภาค1

สวัสดีครับ ขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมชื่อ อุกฤษณ์ รุ่งจรูญ ชื่อเล่น กิด อายุ 29 ปีครับ วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์การลดน้ำหนักมาให้ทุกคนได้อ่าน ผมเชื่อว่าทุกคนผอมได้ หุ่นดีได้ หล่อและสวยได้โดยไม่ต้องใช้ยาลดน้ำหนักครับ (จากตัวประหลาดในสายตาคนทั่วไป จนกลายมาเป็นมนุษย์ คนปกติทั่วไป) ผมเป็นคนหนึ่งที่น้ำหนักตัวเกลือบ 200 กก. เป็นอะไรที่ไม่อยากจะเชื่อเลย ผมเป็นคนชอบกิน เที่ยว โดยไม่เคยสนใจน้ำหนักตัวว่าขึ้นหรือลง และผมก็ไม่อยากเชื่อว่าผมจะลดน้ำหนักได้ขนาดนี้ ที่ผมเขียนว่า ภาค1 เพราะมันต้องมีภาค2 เป้าหมายของผมคือ น้ำหนักอยู่ที่ 70-75 กก. ดังนั้นโปรดติดตามนะครับ

"แรงบันดาลใจ" ทำไมผมถึงลดน้ำหนัก เพราะตอนที่ผมน้ำหนัก 198 กก. มันเป็นอะไรที่ลำบากมากๆ และเกือบตายมาแล้ว ตอนขับรถมันจะรู้สึกง่วงตลอดเวลาทำให้หลับในรถเกลือบเสียหลักขับ อย่าว่าแต่ขับรถเลย ขนาดนั่งทำงานหรือนั่งเฉยๆก็หลับ แย่มากๆ และผมทำเพื่อพ่อกับแม่ด้วยครับ เค้าอยากให้ผมลดน้ำหนัก อีกอย่างคือ คน เวลาไปไหนคนที่เห็นผมก็จะมองหัวเราะเราอย่างกับเราเป็นตัวประหลาดอะไรประมาณนั้นเลยทำให้ผมไม่อยากออกไปไหน เรื่องมันเศร้าไหมล่ะครับ สิ่งเหล่าจึงทำให้มันเป็นแรงบันดาลใจให้กับผม

"ทำยังไงถึงลดน้ำหนักได้" ตอนแรกผมก็ไม่คิดว่าจะลดได้จึงตัดสินใจไปหาหมอที่โรงพยาบาลศิริราช แต่ก็ต้องรอนัดหมอถึง3เดือน แต่ก็มีข่าวดีครับ ผมได้รู้จักกับเทรนเนอร์คนหนึ่งพี่เค้าเป็นนักเพาะกาย ตอนที่เค้าไปผมก็ไม่คิดหรอกว่าจะมาถึงขนาดนี้ เทรนเนอร์ได้สอนการเวทเทรนนิ่ง สอนการคาดิโอ ได้จัดตรางอาหารให้ และให้ความรู้อีกมากมายเกี่ยวกับการออกกำลังกาย ผมใช้เวลาในการเวทเทรนนิ่งทุกวัน วันละ 1 ชั่วโมง และใช้เวลาในการคาดิโอวันละ3ครั้ง ครั้งละ 45 นาที แรกๆเหนื่อยและหิวมากครับ จนผ่านไป 1 เดือนเริ่มเห็นผล เลยทำให้มีกำลังใจออกกำลังกายและคุมอาหารเป็นเวลา 1 ปี 5 เดือน จนน้ำหนักเหลือ 95 กก.ครับ

"การออกกำลังกาย" ผมจะออกกำลังกายด้วยการเวทเทนร์นิ่งและการคาดิโอครับ ช่วงแรกจะเวท 4 วัน พัก 1 วัน และคาดิโอทุกวันครับ แต่พอฝึกแต่สัก 5 เดือน ผมก็เล่นเวททุกวันและคาดิโอเหมือนกันทุกวัน การเวทเป็นการเพิ่มกล้ามเนื้อครับ ก็จะมีท่าฝึกต่างๆ แต่ละวันจะฝึกไม่เหมือนกัน ส่วนการคาดิโอนั้นเป็นการลดไขมันหรือเอาไขมันออก การคาดิโอ เช่น การวิ่ง การเดินเร็ว การปั่นจักรยาน การว่ายน้ำ ผมจะคาดิโอวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมงครับ

"การคุมอาหาร" เทรนเนอร์จะจัดตารางอาหารมาให้ผม ของผมมีการปรับตารางอาหารมา 2 ครั้งแล้วครับ เพราะพอน้ำหนักลงมาถึงจุดๆหนึ่งน้ำหนักจะค้างเลยต้องปรับตารางอาหารใหม่ครับ การคุมอาหารของผมจะกิน 5 มื้อ ครับ งดแป้ง งดน้ำตาล งดของมันของทอดนะครับ มาดูตารางอาหารกัน


 

ตารางอาหารครั้งแรก
มื้อเช้า:  ข้าว 100 กรัม + เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน 100 กรัม + เนยถั่ว 2 ช้อน
มื้อสาย: เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน 100 กรัม
มื้อเที่ยง: ข้าว 100 กรัม + เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน 100 กรัม
มื้อบ่าย: เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน 100 กรัม
มื้อเย็น: ข้าว 100 กรัม + เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน 100 กรัม
ส่วนผักกินได้เยอะหน่อยนะครับ


 

ตารางอาหารครั้งสอง
มื้อเช้า: ข้าว 50 กรัม + เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน 50 กรัม + เนยถั่ว 2 ช้อน
มื้อสาย: เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน 50 กรัม
มื้อเที่ยง: ข้าว 50 กรัม + เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน 50 กรัม
มื้อบ่าย: เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน 50 กรัม
มื้อเย็น: ข้าว 50 กรัม + เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน 100 กรัม
ส่วนผักกินได้เยอะหน่อยนะครับ ตามนี้นะครับ

การปรึกษาหมอที่โรงพยาบาลศิริราชครับ อาจารย์ นายแพทย์พรพจน์ เปรมโยธิน คุณหมอแนะนำในการลดน้ำหนักได้ดีมากครับ คุณหมอให้ใช้วิธี "3 อ." คือ
1. อาหาร หลีกเลี่ยงอาหารหวาน มัน เค็ม เลือกวิธีเตรียมอาหารด้วยต้ม นึ่ง ย่าง งดของทอด ผัด ที่ใช้น้ำมันมาก เลิกดื่มเครื่องดื่มรสหวาน เช่น น้ำหวาน น้ำอัดลม นมเปรี้ยว กาแฟเย็น ชาเขียว น้ำผลไม้กล่อง น้ำผลไม้รสหวาน  
2. ออกกำลังกาย จดจำไว้เสมอว่า "กิน" ให้เท่ากับ "การเผาผลาญ" หากไม่ออกกำลังเท่าที่เรากินเข้าไป เราจะมีพลังงานเหลือเก็บไว้เป็นไขมันรอบพุงเช่นเดิม
3. อารมณ์ ต้องมุ่งมั่น จริงจัง อดกลั้น อดทน กับนโยบายการเปลี่ยนแปลงตนเอง อย่าให้อารมณ์ความอยากกินมาทำลายนโยบายลดพุงของคุณ ดังนั้น อารมณ์ ถือเป็นภารกิจแรกที่เราต้องทำให้ได้เลยเชียวล่ะ 

การเขียนครั้งนี้เป็นครั้งแรกของผมหากมีอะไรผิดพลาดต้องขอโทษด้วยนะครับ ผมคิดว่าทุกคน ผอมและหุ่นดีได้ ประสบการณ์ของผมในครั้งนี้อาจเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับคนที่จะลดน้ำหนัก ร่างกายของคนเราไม่เหนือกัน มีหลายต่อหลายสูตรในการลดน้ำหนักแต่บางคนทำตามสูตรนั้นแต่ไม่ได้ผลก็อย่าพึ่งท้อนะครับ เราต้องลองปรับเปลี่ยนวิธีต่างๆดูมันต้องได้ผลแน่นอนครับ

ผมต้องขอบคุณ พ่อ แม่ ญาติๆผมที่ได้ให้กำลังใจมาตอลด ขอบคุณเทรนเนอร์ RONNYBIG หรือ RON NITHIOUTHAI ที่ทำให้ผมผอมได้ 


ขอบคุณ อาจารย์นายแพทย์พรพจน์ เปรมโยธิน ที่ให้คำแนะนำ แล้วเจอกัน ภาค 2 นะครับ ที่น้ำหนักผม 70-75 กก. ฮ่าๆๆๆ

 

[ads=center]
ที่มา Pantip
เรียบเรียง ThaiJobsGov
 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: