โฆษกรัฐบาล ยืนยัน ประชาชนยังวอล์กอินฉีดวัคซีนได้ หากจุดบริการมีวัคซีนเพียงพอ หรือ มีคนไม่มาตามนัด ระบุ หากไปแล้วไม่ได้รับบริการ สามารถลงทะเบียนนัดหมายล่วงหน้าต่อไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 พ.ค.2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงมาตรการดูแลกรณีที่มีผู้ต้องขังติดเชื้อในเรือนจำ ว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการในที่ประชุมให้เร่งแก้ปัญหาดังกล่าว
โดยให้ตรวจเชิงรุกให้ได้มากที่สุด รวมถึงตั้งโรงพยาบาลสนามในเรือนจำที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก รวมถึงคัดแยกผู้ป่วยเพื่อรักษา หากมีอาการรุนแรงจะนำตัวออกมารักษาตามระบบต่อไป อย่างไรก็ตามเรือนจำแต่ละแห่งเป็นระบบปิด จึงมีโอกาสแพร่สู่ชุมชนได้น้อย ซึ่งได้สั่งการให้เข้มงวดจะยังไม่ให้มีการเข้าเยี่ยมจากบุคคลภายนอกจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น
นายอนุชา กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายกับ กทม. ว่า ในช่วงเวลา มิ.ย.-ก.ค. จะต้องดำเนินการฉีดวัคซีนให้ได้อย่างน้อย 5 ล้านคน ครอบคลุมประชากร 70% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ส่วนเรื่องแผนดำเนินการนั้น กทม. ได้จัดสรรวัคซีนไปตามโรงพยาบาล สถานพยาบาล ทั่ว กทม. 231 แห่งที่พร้อมจะให้บริการ รวมถึงสถานที่เอกชน 25 แห่ง ที่ได้มีการเปิดทดลองระบบไปแล้ว ทั้งนี้ กทม.ต้องการให้ลงทะเบียนจองฉีดวัคซีนผ่านแอปพลิเคชันหมอพร้อม เพราะสามารถบริหารจัดการได้ดีที่สุดอยู่ในขณะนี้ รวมถึงการรวมกลุ่มที่นัดกันมาฉีดวัคซีน ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มพนักงานอาชีพบริการ พนักงานเก็บกวาดขยะทำความสะอาด หรือแม้กระทั่งบุคลากรในโรงงาน ผู้พิการ นักเรียน นักศึกษา ครู อาจารย์ หรือนักเรียนที่จะต้องเดินทางกลับไปศึกษาต่อ สามารถแจ้งความจำนงไปที่กระทรวงสาธารณสุขเพื่อนัดหมายกันเป็นหมู่คณะต่อไป
“ส่วนเรื่องการวอล์กอินจะมีหรือไม่อย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าแอปพลิเคชันหมอพร้อมยังเป็นช่องทางหลัก ส่วนเรื่องวอล์กอิน ขอให้ทำความเข้าใจว่าขึ้นอยู่กับสถานการณ์วัคซีนที่จะเข้ามาในไทย แต่เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและไม่สะดวกกับประชาชน หากเดินทางไปแล้วไม่ได้รับวัคซีน ขอให้ลงทะเบียนในจุดที่วอล์กอิน เพื่อจะได้รับทราบวันเวลาที่ชัดเจนในการเดินทางมาฉีดวัคซีนต่อไป ดังนั้นการรับวัคซีนสามารถวอล์กอินเข้าไปได้ หากมีวัคซีนเพียงพอ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในหลายประการ เช่น ช่วงเช้าคนที่จองคิวไว้ไม่มาตามนัด จึงทำให้มีวัคซีนเหลือในวันนั้น อย่างไรก็ตามหากท่านเดินทางไปแล้ว หากวัคซีนพร้อมก็ได้รับการฉีดเลย แต่หากมีไม่พอ ก็จะให้ท่านลงทะเบียนเพื่อนัดกลับมาอีกครั้ง” นายอนุชา กล่าว
นายอนุชา กล่าวด้วยว่า ในเดือน พ.ค.จะมีวัคซีนเข้ามา 3.5 ล้านโดส ส่วนใหญ่เป็นวัคซีนของซิโนแวค ซึ่งได้เตรียมกระจายไปยังจุดต่างๆที่มีการลงทะเบียน และยังต้องฉีดให้บุคลากรด่านหน้าให้ครบถ้วนทั้งหมด
นายอนุชา กล่าวถึงการวิพากษ์วิจารณ์งบประมาณปี 2565 ที่กระทรวงกลาโหมได้รับการจัดสรรสูงว่ากระทรวงสาธารณสุย 5 หมื่นล้านบาท ว่า กระทรวงสาธารณสุขมีส่วนหนึ่งที่ตั้งงบประมาณภายในกระทรวงเอง แต่ยังมีหน่วยงานอื่นๆ ภายใต้สังกัดกระทรวงที่ไม่ได้ขอรับงบประมาณผ่านกระทรวง แต่เป็นการขอรับงบประมาณจากหน่วยงานโดยตรง เช่น การตั้งงบประมาณของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ที่มีอีก 1.4 แสนล้านบาท
ดังนั้นเรื่องการรักษา ค่าใช้จ่ายพยาบาล การบริการทางการแพทย์ในระบบประกันสุขภาพถ้วนหน้า จึงไม่ได้มีแค่เฉพาะกระทรวงสาธารณสุข แต่ยังมีการตั้งงบประมาณไว้ที่อื่นด้วย ดังนั้น หากรวมงบประมาณที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงสาธารณสุข จะเห็นว่าการดูแลสุขภาพคนไทยมีงบประมาณมากกว่า 3 แสนล้านบาท ดังนั้นจึงมีมากกว่างบประมาณที่กระทรวงกลาโหมแสนกว่าล้านบาท
ข่าวจาก : isranews
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ