เชฟหนุ่มอนาคตไกล เล่าชีวิตในต่างแดน VS ไทย กับเรื่องเศร้า





เชฟหนุ่มอนาคตไกล เล่าชีวิตในต่างแดน VS ไทย กับเรื่องเศร้าที่ทำให้อยากย้ายประเทศ กำลังจะมีชีวิตที่ดี แต่กลับไทยแล้วถูกรถชนจนกลายเป็นคนพิการ

กระแส “ย้ายประเทศกันเถอะ” เรียกได้ว่ามีคนให้ความสนใจกันมาก ๆ สมาชิกในกลุ่มมีกันเกือบ 1 ล้านคน และมีกลุ่มอื่น ๆ ที่ตั้งขึ้นมาในลักษณะคล้ายกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการย้ายถิ่นฐาน และก็มีคนที่อยู่ต่างประเทศเข้ามาแชร์ประสบการณ์ต่าง ๆ นับว่าเป็นประโยชน์และมีข้อมูลความรู้หลากหลายให้ผู้ที่สนใจได้เก็บเกี่ยว

ล่าสุด (7 พฤษภาคม 2564) คุณป๊อบ เจ้าของเฟซบุ๊ก Oneday Beyond Pop ได้เล่าเรื่องราวการใช้ชีวิตเกือบ 1 ปี ที่ประเทศออสเตรเลีย แต่ก็ตัดสินใจกลับไทยเพราะคิดถึงพ่อ-แม่ แต่เมื่อกลับมาแล้วก็พบกับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญที่ทำให้อนาคตของเขาต้องดับวูบลง

– หนุ่มไทยผู้มีความสุขเมื่อได้ไปต่างประเทศ

คุณป๊อบเล่าว่าเขามีความสุขมากเมื่อได้ไปต่างประเทศ ได้เจอกับบ้านเมืองที่สวยงาม มีร้านสะดวกซื้อเหมือนเมืองไทย แถมกฎหมายจราจรบังคับใช้ 100% แถมยังมีเพื่อนหลากหลายเชื้อชาติ ไปเที่ยวธรรมชาติที่แปลกตา มีวัดไทยในออสเตรเลีย พระในวัดพร้อมให้การช่วยเหลือคนไทยเสมอ

– ค่าแรงขั้นต่ำวันละมากกว่า 100 ดอลลาร์ออสเตรเลีย แถมกฎหมายแรงงานบังคับใช้ 100%

แฮมเบอร์เกอร์ไส้ปลา และเฟรนฟรายด์ราคา 5 ดอลลาร์ออสเตรเลีย กาแฟเจ้าดังแก้วละ 5 ดอลลาร์ออสเตรเลีย โดยค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่วันละมากกว่า 100 ดอลลาร์ออสเตรเลีย

คุณป๊อบบอกว่า ตนเองเคยทำงานเกินเวลา 2-3 นาที นายจ้างทุกที่จ่ายค่า OT. ให้เพิ่มทันที พร้อมกับขอโทษที่ทำให้ตนต้องเหนื่อย และขอบคุณที่ตนช่วยเหลือเขา

– กลับมารับปริญญาที่เมืองไทย และเริ่มต้นอาชีพเชฟ

คุณป๊อบ กลับมารับปริญญาที่เมืองไทย และทำงานเป็นเชฟ ถูกนายจ้างบังคับทำ OT. ทุกวัน แต่ไม่จ่ายค่า OT. ทำให้ตนรู้สึกว่าไม่น่ากลับจากออสเตรเลียเลย และกำลังวิ่งเต้นเพื่อให้ได้ไปเป็นเชฟที่แคนาดา

– กำลังจะไปเซ็นสัญญาเป็นเชฟที่แคนาดา แต่กลับประสบอุบัติเหตุทำให้อนาคตดับวูบ

คุณป๊อบ บอกว่า อีกไม่กี่เดือนก็กำลังจะไปเซ็นสัญญาทำงาน แต่กลับประสบอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บสาหัสเสียก่อน เนื่องจากการขับรถกระบะซิ่งของผู้ต้องหา ทำให้ตนกลายเป็นผู้พิการจนถึงทุกวันนี้

– เรื่องราวด้านคดีความ

หลังจากเรื่องราวผ่านไป ตนได้เงินจากผู้ต้องหามา 5 หมื่นบาท ผู้พิพากษาบอกว่าผู้ต้องหาไม่ได้มีเจตนาร้าย เป็นแค่อุบัติเหตุ และให้เงินช่วยมาแล้ว 5 หมื่นบาท ดังนั้นไม่ควรให้ผู้ต้องหาติดคุกเพราะไม่เป็นธรรมแก่เขา ปัจจุบัน ผู้ต้องหาทำงานรับเงินสด ไม่โอนเข้าบัญชีเพราะกลัวจะถูกตนฟ้องยึดทรัพย์ เขากิน เที่ยวกับครอบครัวอย่างมีความสุข ซึ่งครอบครัวของผู้ต้องหามีฐานะในระดับหนึ่ง

คุณป๊อบ บอกอีกว่า กฎหมายประเทศไทยระบุไว้ว่า

1. ยึดทรัพย์ได้เฉพาะผู้ต้องหาเท่านั้น ห้ามยึดทรัพย์ครอบครัวเค้าแม้จะร่ำรวยแค่ไหนก็ตาม

2. หากผู้ต้องหาทำงานฟรีแลนซ์ วินมอไซ หรืออะไรก็ตามที่ไม่ใช่พนักงานกินเงินเดือน ให้ถือว่าผู้ต้องหาเป็นคนว่างงาน ไม่สามารถยึดทรัพย์ได้

3. หากผู้ต้องหาเป็นพนักงานกินเงินเดือนที่มีเงินไม่ถึง 2 หมื่น ห้ามยึดทรัพย์ทุกกรณี (แต่หากมีเงินเดือน 21,000 บาท จะยึดได้แค่ 1,000 บาท ต้องเหลือ 2 หมื่นไว้ให้เค้า)

4. หากครบ 10 ปีแล้วผู้ต้องหายังชดใช้ไม่ครบ เป็นอันว่าหมดอายุความ ผู้ต้องหาสามารถเริ่มต้นชีวิตใหม่โดยไม่ต้องชดใช้หนี้อีกต่อไป

จึงทำให้ผมเป็นทุกข์มาก และต้องเป็นหนี้ยืมเงินมารักษาตัวเอง ผู้พิพากษาบ้านเราทำงานแบบไม่เป็นธรรมแก่ผู้เสียหาย และการที่ผู้เสียหายวิจารย์การตัดสินที่ไม่เป็นธรรมของผู้พิพากษานั้น…ผิดกฎหมายมีโทษรุนแรงกว่าขับรถชนคนตายซะอีก

ผมอยากย้ายประเทศครับ แต่รอขึ้นศาลรอบสุดท้ายก่อน

 

ข่าวจาก : kapook
ภาพจาก เฟซบุ๊ก Oneday Beyond Pop

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: