สธ.ชี้ลิ่มเลือดอุดตันไม่น่าเกิดจากวัคซีน เร่งหาข้อสรุปก่อนฉีดต่อ





สธ.เผยข้อมูลล่าสุด ลิ่มเลือดอุดตันไม่น่าเกิดจากวัคซีน เตรียมสรุปข้อมูลในสัปดาห์หน้า ก่อนลุยฉีดต่อตามแผน แจงแผนฉีดวัคซีนโควิดคนไทยครบถ้วนปี 66 เป็นข้อมูลเก่า แผนปัจจุบันคือฉีด 63 ล้านโดสเสร็จสิ้นในปี 64 จวกคนปล่อยข้อมูลสร้างความสับสน ลดทอนความเชื่อมั่น

เมื่อวันที่ 13 มี.ค. นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข แถลงข่าวแผนการฉีดวัคซีนโควิด 19 ว่า ผลการฉีดวัคซีนโควิดของซิโนแวคตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. – 12 มี.ค. ฉีดแล้ว 44,409 คน อาการไม่พึงประสงค์ที่รายงานส่วนใหญ่ไม่รุนแรง ส่วนที่รุนแรงให้คณะกรรมการตรวจสอบแล้วยังไม่พบรายใดที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน

การฉีดวัคซีนใน 13 จังหวัดภาพรวมถือว่าเร็วกว่าเป้าหมาย หลายจังหวัดฉีดครบแล้วใน 2 สัปดาห์กว่าๆ เหลือสมุทรสาครและ กทม. ที่จะเร่งฉีดวัคซีนให้เร็วขึ้น คาดว่าจะฉีดได้ตามเป้าหมายในสัปดาห์หน้า

ส่วนการชะลอฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าในหลายประเทศและไทย หลังยุโรปพบอาการลิ่มเลือดอุดตันหลังรับวัคซีน ขณะนี้มีข้อมูลเพิ่มเติมมากขึ้นว่า อาการลิ่มเลือดอุดตันไม่น่าจะเกิดจากวัคซีน สธ.กำลังรวบรวมข้อมูลและดูข้อมูลทางการจากองค์การอนามัยโลกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะสรุปข้อมูลได้ในช่วงสัปดาห์หน้า หากไม่มีปัญหาอะไรก็จะเริ่มฉีดวัคซีนตามแผนต่อไป

นพ.โอภาส กล่าวว่า ส่วนกรณีมีบางคนนำข้อมูลที่บอกว่า กรมควบคุมโรคได้เสนอต่อกรรมาธิการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร เมื่อปลายปี 2563 ว่าจะมีการฉีดวัคซีนครบถ้วนในปี 2566 ขอชี้แจงว่า ปลายปี 2563 เป็นสถานการณ์ที่ยังไม่มีการนำวัคซีนมาใช้ การวิจัยก็ยังไม่แน่ใจว่าวัคซีนจะมีประสิทธิภาพ มีการความปลอดภัย ป้องกันโรคได้หรือไม่

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนวิเคราะห์ว่ากว่าวัคซีนจะมีใช้คงใช้เวลาอีกหลายปี จึงมีการจัดทำแผนเตรียมการฉีดวัคซีนเป็นกรอบกว้างๆ ตามข้อมูลที่มีในขณะนั้น แต่ต่อมา ครม.เห็นชอบและอนุมัติตามที่ สธ.ได้จองซื้อวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า 26 ล้านโดส ทำสัญญาเมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2563 จึงได้ปรับแผนการฉีดวัคซีนใหม่

“จะเห็นว่าแม้แต่ในต้น มี.ค. 2564 การวิจัยส่วนใหญ่ก็ยังไม่เสร็จ การใช้ขณะนี้เป็นการใช้ภายใต้ภาวะฉุกเฉิน ดังนั้นการปรับแผนการฉีดวัคซีนจะต้องปรับเป็นระยะให้มีความสอดคล้อง เช่น เรามีการระบาดที่สมุทรสาคร ปทุมธานี กทม. และปริมณฑล จึงนำวัคซีนของซิโนแวคเข้ามา 2 ล้านโดสอย่างเร่งด่วน และซื้อวัคซีนจากแอสตร้าฯ เพิ่มอีก 35 ล้านโดส ดังนั้นจึงมีการปรับแผนฉีดวัคซีนใหม่ให้สอดคล้องกับสถานการณ์และเร็วขึ้น คือฉีด 63 ล้านโดส เสร็จภายในปี 2564 ซึ่งแผนนี้ผ่านคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ คณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ ครม.และ ศบค. มีการแถลงต่อประชาชนและสื่อมวลชน ซึ่งคิดว่าส่วนใหญ่ก็ทราบดีอยู่แล้ว” นพ.โอภาสกล่าว

ข่าวจาก : khaosod

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: