“เราชนะ” กลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน ไป ธ.กรุงไทย ยื่นบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ด รับเงิน7,000
www.เราชนะ.com กลุ่มพลาดสิทธิ์-ตา-ยาย ไม่มีสมาร์ทโฟน ไปทกรุงไทย ทุกสาขา ยื่นบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ด ตรวจสอบสิทธิ์รับเงินเยียวยาเราชนะ7,000 บาท
จากกรณีที่ กระทรวงการคลัง เปิดให้ประชาชนลงทะเบียนwww.เราชนะ.comเพื่อรับสิทธิ์เงินเยียวยาเราชนะจำนวน 3,500 บาทเป็นระยะเวลา 2 เดือนรวมเงินเยียวยาเราชนะทั้งสิ้น 7,000 บาท เริ่มโอนเงินตั้งแต่เดือนก.พ.-มี.ค.64 สามารถใช้จ่ายเงินเยียวยาเราชนะ ได้ถึงวันที่ 31 พ.ค.64
3 กลุ่มรับเงินเยียวยา "เราชนะ"
กลุ่มที่ 1ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีผู้ถือบัตรจำนวน 13.8 ล้านคน กลุ่มนี้ไม่ต้องลงทะเบียน
กลุ่มที่ 2ผู้มีแอป"เป๋าตัง" ที่ได้ให้ความยินยอมไว้ให้นำข้อมูลไปประมวลผลหรือเปิดเผยเพื่อดำเนินการมาตรการอื่นๆ ของ รัฐได้ คือ กลุ่มคนละครึ่ง และ กลุ่มเราเที่ยวด้วยกัน
กลุ่มที่ 3กลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูลผู้มีบัตรฯและไม่เป็นผู้มีแอป "เป๋าตัง"ที่ได้ให้ความยินยอมไว้ให้นำข้อมูลไปประมวลผลหรือเปิดพื่อดำเนินมาตรการอื่นๆ ของ รัฐได้
คุณสมบัติ
- สัญชาติไทย อายุ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- ไม่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33
- ไม่เป็นเจ้าหน้าที่หรือผู้ปฎิบัติงานอื่นใดในหน่วยงานภาครัฐ ข้าราชการการเมือง หรือผู้รับบำนาญ หรือเบี้ยหวัดจากส่วนราชการ
- ไม่เป็นผู้มีเงินได้พึงประเมินเกิน 300,000 บาท ตามฐานข้อมูลล่าสุด
- ไม่เป็นผู้มีเงินฝากรวมทุกบัญชีเกิน 500,000 บาท ตามฐานข้อมูลล่าสุด
กลุ่มพลาดสิทธิ์-ตา-ยาย ไม่มีสมาร์ทโฟน ไปธ.กรุงไทย ยื่นบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ด รับเงินเยียวยา 7,000
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยรายละเอียดการเปิดรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเราชนะ (โครงการฯ) สำหรับประชาชนกลุ่มที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ เช่น ไม่สามารถเข้าถึงระบบอินเทอร์เน็ต ไม่มีสมาร์ทโฟนทำให้ไม่สามารถใช้งานแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ ผู้ที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง อาทิ ผู้สูงอายุ ผู้พิการทุพพลภาพ ผู้ป่วยติดเตียงที่ไม่สามารถเดินทางไปลงทะเบียนเองหรือเดินทางไปใช้จ่ายวงเงินสิทธิ์ที่ได้รับผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” ได้ เป็นต้น
ยื่นบัตรประชาชน ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 15-25 ก.พ.
โดยประชาชนกลุ่มดังกล่าวสามารถลงทะเบียนได้ระหว่างวันที่ 15 – 25 กุมภาพันธ์ 2564 ณ สาขาธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ธนาคารกรุงไทย) หรือจุดบริการเคลื่อนที่รับลงทะเบียนซึ่งกระทรวงการคลังได้ขอความร่วมมือจากกระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินการร่วมกับธนาคารกรุงไทยในการให้มีจุดบริการเคลื่อนที่เพื่ออำนวยความสะดวกในการลงพื้นที่รับลงทะเบียนให้แก่บุคคลกลุ่มดังกล่าว
ย้ำต้องเป็นบัตรประชาชนสมาร์ทการ์ด
โฆษกกระทรวงการคลัง ยังกล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเสนอคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี โดยในเบื้องต้นประชาชนกลุ่มดังกล่าว ต้องนำบัตรประชาชนแบบสมาร์ทการ์ด (Smart Card) ไปใช้ประกอบการลงทะเบียนขอรับสิทธิ์โครงการฯ โดยต้องพิสูจน์และยืนยันตัวตนโดยการเสียบบัตรประจำตัวประชาชน (Dip Chip) ผ่านเครื่องรูดบัตรอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Capture หรือ EDC) พร้อมกำหนดรหัส (PIN Code) ได้ที่สาขาของธนาคารกรุงไทย หรือจุดบริการที่ธนาคารกรุงไทยกำหนด ทั้งนี้ ประชาชนที่ผ่านการคัดกรองคุณสมบัติและได้รับอนุมัติวงเงินสิทธิ์จะได้รับวงเงินสิทธิ์สนับสนุนเป็นรายสัปดาห์ จำนวนไม่เกิน 3,500 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 2 เดือน โดยสามารถใช้จ่ายวงเงินผ่านบัตรประจำตัวประชาชน
