กรมอุทยานฯ แจ้งจับนักซิ่งชนเลียงผาตาย แล้วหนี ชี้ คุก15 ปี ปรับ1.5ล้านบาท





กรมอุทยานฯ แจ้งจับนักซิ่งชนสัตว์ป่าแล้วหนี โทษจำคุก 15 ปี ปรับ 1.5 ล้านบาท

วันที่ 30 ม.ค.  นายนิพนธ์ จำนงศิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารอนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(ทส.) เปิดเผยว่า ตามข้อสั่งการนาย วราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีทส. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดทส. นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้ดำเนินการ แจ้งความ คนขับรถยนต์ชนสัตว์ป่าแล้วหนี ทุกกรณี เพื่อให้ถูกลงโทษ ให้เข็ดหลาบ จะได้มีความระมัดระวังในการขับรถยนต์มากขึ้นในการท่องเที่ยวในป่า หรือในอุทยาน เพื่อรักษาชีวิตของสัตว์ป่าเอาไว้ เพื่อคงไว้ซึ่งความสมบูรณ์ของสัตว์ป่าเมืองไทย

นายนิพนธ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค.  ที่ผ่านมา ได้รับรายงานจาก นายสิขกพงษ์ กระแจะจันทร์ ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สบอ.3 (บ้านโป่ง) นาย อนันท์ ศรีผุดพ่อง หัวหน้าเขตห้ามล่าอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ เวลาประมาณ 4 ทุ่ม เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญมาแจ้ง ต่อเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าอุทยานสมเด็จพระศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี ว่ามีเลียงผา สัตว์ป่าสงวน ถูกรถยนต์ชน แล้วหนีในบริเวณเส้นทางสายไทรโยค-บ้านเก่า ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี บริเวณเขาเรด้าร์ จึงได้ไปตรวจสอบร่วมกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญและเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ พบเลียงผาเพศผู้ มีสภาพขาหลังหัก ซี่โครงหัก สะโพกมีบาดแผล คางมีบาดแผลแต่ยังมีชีวิตจึงนำมาที่หน่วยพิทักษ์ป่าพุเลียบ เพื่อเตรียมจะส่งมารักษาที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าประทับช้าง มาถึงหน่วยเวลาประมาณ 5 ทุ่มครึ่ง ในระหว่างที่กำลังจะนำส่งมารักษาเวลาประมาณ ตีหนึ่งเลียงผาตัวดังกล่าวก็ตาย

นายนิพนธ์กล่าวว่า ต่อมา จึงได้ให้นาย อนันท์ ไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ขับรถยนต์ชนเลียงผา แล้วหนีไป โดยขอให้พนักงานสอบสวนสภ.เมืองกาญจนบุรี สืบสวน สอบสวน จากกล้องวงจรปิด ที่อยู่ในบริเวณดังกล่าว หรือใกล้เคียง หรือตามรายทาง เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดผู้ขับรถยนต์ดังกล่าว มาลงโทษให้จงได้ ตาม พรบ.สงวนคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 มาตรา12 ในข้อหาล่าหรือทำอันตรายแก่เลียงผาสัตว์ป่าสงวนถึงแก่ความตาย โดยการขับรถยนต์ชนแล้วหนี ระวางโทษจำคุก3ปี-15 ปี ปรับตั้งแต่ 3 แสน-1ล้าน 5 แสนบาท หรือทั้งจำและปรับ

และความผิดพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ 2522 มาตรา 78 ผู้ใดขับรถ ในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของผู้อื่น(เลียงผาถือว่าเป็นทรัพย์สินของรัฐ) ไม่ว่าจะเป็นความผิด ของผู้ขับขี่หรือไม่ก็ตามต้องหยุดรถ และให้ความช่วยเหลือ ตามสมควรและพร้อมทั้งแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ที่ใกล้เคียงทันที ในกรณีไม่มีผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิตระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงหนึ่งหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ

นายนิพนธ์  กล่าวว่า ขอให้ผู้ขับรถยนต์ทุกคัน โปรดใช้ความระมัดระวัง เมื่อผ่านในเขตป่า หรือเขตอุทยาน ฯหากใช้ ความระมัดระวังอย่างเพียงพอ และขับรถโดยความเร็วไม่เกินตามอัตราที่กำหนดกฎหมายแล้ว หากมีสัตว์ป่าวิ่งตัดหน้าในระยะกระชั้นกระชิดทำให้ถูกรถยนต์ชนทำให้บาดเจ็บ หรือตาย ก็เป็นเหตุสุดวิสัยผู้ขับรถยนต์ ก็ไม่มีความผิด เทียบเคียงคำพิพากษาฎีกาที่ 2015/ 2520

นอกจากนี้มาตรา13 พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 ก็บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดล่า ถ้าหากกระทำด้วยความจำเป็นเพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นพ้นจากอันตราย หรือเพื่อสงวนหรือรักษาไว้ซึ่งทรัพย์สินของตนเองหรือผู้อื่น และได้กระทำพอสมควรแก่เหตุ ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ

เพราะฉะนั้น ผู้ใดขับรถยนต์ชนสัตว์ป่าแล้ว หากได้ใช้ความระมัดระวัง อย่างเพียงพอ และไม่ขับรถเร็วเกินอัตราที่ราชการกำหนดแล้ว ผู้ขับรถยนต์ที่ชนสัตว์ป่านั้นไม่ต้องหนี ต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯที่อยู่ใกล้เคียง หรือเบอร์โทรกรมอุทยานฯ 1362 เพื่อช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ถูกรถยนต์ชนโดยทันที ผู้ขับรถยนต์ดังกล่าวก็จะไม่มีความผิด นอกจากจะเป็นการช่วยชีวิตสัตว์ป่าได้ทันท่วงที จะเป็นบุญกุศลในการช่วยเหลือชีวิตสัตว์ป่า และต่อความสมบูรณ์ของสัตว์ป่าของประเทศไทยด้วย

ข่าวจาก มติชนออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: