เปิดใจยายอายุ99 โดนเรียกเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคืน หากจะต้องติดคุก ยายก็ยอม





เปิดใจยายอายุ99 โดนเรียกเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคืน หากจะต้องติดคุก ยายก็ยอม ขณะที่ ทาง อบต.ท่าแค จ.ลพบุรี กำลังหาแนวทางการช่วยเหลือ

วันที่ 29 ม.ค.2564 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง อบต.ท่าแค อ.เมือง ลพบุรี เพื่อขอพบนายวรยุทธ เหล็กเพ็ชร์ นายกเทศมนตรีตำบลท่าแค เพื่อสอบถามถึงปัญหาเกี่ยวกับเรื่องที่มีการเรียกเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ จากผู้รับเงินบำนาญพิเศษไปแล้วนั้นทาง อบต.ได้ดำเนินการเช่นไร ซึ่งในพื้นที่ ต.ท่าแค มีผู้ถูกเรียกเก็บเงินเบี้ยผู้สูงอายุจากกรมบัญชีกลางพร้อมดอกเบี้ย จำนวน 10 ราย มีผู้ขอผ่อนชำระไปแล้วจำนวน 8 ราย อีก 2 รายอยู่ระหว่างรอคำสั่งศาล

โดยนายกเทศมนตรีกล่าวว่า ตั้งแต่กรมบัญชีกลางได้ส่งหนังสือเรียกเก็บเงินผู้สูงอายุคืนรวมถึงดอกเบี้ยจากรับเงินซ้ำซ้อน ทาง อบต.ได้ลงพื้นที่ พร้อมหนังสือไปให้ผู้สูงอายุทั้งหมดทราบแล้ว ก็ได้มีการลงพื้นที่ทำความเข้าใจ โดยได้หาแนวทางในการให้การช่วยเหลือและดำเนินการตามระเบียบที่กำหนด ส่วนในเรื่องของการเรียกเงินคืน ซึ่งก็มีผู้ที่ผ่อนคืนเป็นรายเดือนจำนวน 7 ราย ในระยะเวลา 5 ปี โดยไม่คิดดอกเบี้ย

อีก 1 รายจ่ายคืนครบตามจำนวน สำหรับอีก 2 รายที่อยู่ระหว่างนัดเจรจาที่ชั้นศาล ซึ่งการเรียกคืนหรือผ่อนชำระนั้นนายกกล่าว่า จะไม่ให้มีผลกระทบกับชาวบ้าน และทาง อบต.ตำบลท่าแคเอง พร้อมที่จะช่วยหาทางออกกับผู้สูงอายุที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวไว้แล้ว อบต.เองไม่ได้นิ่งนอนใจ ทั้งนี้ก็ต้องดำเนินการในขอบเขต ตามขั้นตอนของกฎหมายที่กำหนด

 

หลังจากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านของคุณยายแสง สุขคุ้ม อายุ 99 ปี เป็น 1 ในจำนวน 2 คน ที่ได้รับหมายศาล เรียกรับเงินคืนเป็นจำนวนเงิน 96,321.73 บาท ซึ่งผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถาม เนื่องจากยายหูไม่ค่อยดี ซึ่งคุณยายเล่าว่า ใครจะทำอะไรยายก็ทำไปเถอะไม่มีปัญญาจะไปไหนแล้ว เงินที่ว่าก็ไม่รู้ว่าจะไปหาที่ไหนมาคืนเขา ทุกวันนี้ก็ต้องอาศัยชายคาลูกหลานอยู่ ลูกหลานทุกคนก็ต้องต่อสู้ดิ้นรนทำมาหากิน เพื่อความอยู่รอดกันทั้งนั้น ซึ่งหากจะต้องติดคุกยายก็ยอม อีกไม่นานยายก็จะอายุ 100 ปีแล้ว พร้อมกับเสียงหัวเราะชอบใจ

นางกมลวรรณ พวงทรัพย์ อายุ 64 ปี บุตรสาวที่ดูแลคุณยาย เปิดเผยว่า แม่ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุตั้งแต่เดือนละ 300 บาท จนปัจจุบันได้รับเดือนละ 1พัน บาทรวมแล้ว 38 ปี ซึ่งแม่ได้รับเงินบำนาญตกทอดมาจากลูกชายที่เป็นอดีตข้าราชการทหารแล้วเสียชีวิตขณะปฎิบัติหน้าที่เดือนละ 1หมื่นบาท โดยที่ในช่วงที่มีเจ้าหน้าที่มาสำรวจในการรับเบี้ยผู้สูงอายุแม่ก็ไม่เข้าใจในเรื่องดังกล่าว ก็ตอบรับเงินจากภาครัฐซ้ำซ้อนไป จนเวลาล่วงเลยมาเกือบ 40 ปีแล้ว

นางกมลวรรณ กล่าวต่อว่า ทางรัฐไม่มีความยุติธรรมกับแม่ตนแม่ไม่ได้เป็นคนผิด อยากให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าวไป ในบางรายลูกหลานมีเงินก็พอบรรเทา บางคนไม่มีจะทำอย่างไร คงจะต้องผูกคอตาย ซึ่งหากจะต้องคืนเงินคงหาไม่ได้แน่ คุยกับแม่แล้วแม่ยอมติดคุก และในส่วนที่จะให้ลูกๆ ชำระหนี้แทนก็คงไม่มีใครยอมรับทั้งนั้น จู่ๆ ก็มาฟ้องร้องกันแบบนี้ โดยที่ไม่ได้เป็นคนผิดแม้แต่น้อย ใครที่ผิดตั้งแต่ต้นทำไม่ไม่ไปฟ้องเขา

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ถ้าหากมีนักกฎหมาย ทนายความเข้ามาช่วยเหลือจะดีไหม นางกมลวรรณกล่าวว่าดีมากเพราะเอกสารที่ส่งมาจากศาลปึกใหญ่ อ่านไม่ค่อยออก แปลภาษาทางราชการไม่ถูก ตนเอง แม่และลูกๆ หลานๆ จะได้คลายความทุกข์ใจ ไม่อยากเห็นแม่ฝืนยิ้ม ฝืนหัวเราะ ทั้งที่ใจมีความกังวลในใจ ลูกหลานอยากเห็นแม่มีความสุขของบั้นปลายชีวิตในวัยใกล้ฝั่ง

ข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: