ผลวิจัยชี้ขึ้นภาษีบุหรี่ทุก10บาท พ่วงห้ามสูบ ลดหัวใจวายเฉียบพลันในคนไทย5-13%





วันนี้ (24 ม.ค.64) พญ.เริงฤดี ปธานวนิช ภาควิชาเวชศาสตร์ชุมชน คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาล(รพ.) รามาธิบดี เปิดเผยว่า มีงานวิจัยใหม่ตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ PLOS ONE ซึ่งได้ศึกษาผลจากการขึ้นภาษีบุหรี่ และมาตรการห้ามสูบบุหรี่ในสถานที่สาธารณะของประเทศไทยต่ออัตราการป่วยด้วยโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน หรือ acute myocardial infarction ระหว่างปี 2549-2560 พบว่า ทุกๆ 10 บาทของราคาบุหรี่ที่เพิ่มขึ้น ช่วยลดการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันลง ร้อยละ 5 ในประชากรไทยที่อายุน้อยกว่า 45 ปี โดยเฉพาะในผู้ชายที่มีอัตราการสูบบุหรี่ที่สูงกว่าผู้หญิง นอกจากนี้ ยังพบว่า การประกาศมาตรการห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ ช่วยลดอัตราการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันในประชากรไทยอายุน้อยกว่า 45 ปี ได้ร้อยละ 13

พญ.เริงฤดี กล่าวว่า ปัจจุบันพบคนไทยเสี่ยงเสียชีวิตจากภาวะหัวใจขาดเลือดอายุน้อยลง ซึ่งสาเหตุของการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันในคนที่อายุน้อยกว่า 45 ปี ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาพโดยเฉพาะการสูบบุหรี่ จากข้อมูลพบว่า ร้อยละ 90 ของคนอายุน้อยกว่า 45 ปี ที่เป็นโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันมีประวัติการสูบบุหรี่ โดยการสูบบุหรี่จะเพิ่มความเสี่ยงของหลอดเลือดหัวใจเสื่อมสภาพหรือแข็งตัว ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการฉีกขาดหรือปริแตกที่ด้านในของผนังหลอดเลือดส่วนที่เสื่อมสภาพอย่างเฉียบพลัน จนเกิดภาวะหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันในที่สุด

“จากงานวิจัยพบว่า มาตรการควบคุมการบริโภคยาสูบของไทยทั้งการขึ้นภาษีและการจำกัดพื้นที่ห้ามสูบบุหรี่ช่วยลดการสูบบุหรี่และความสูญเสียจากโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันอันเป็นผลจากการสูบบุหรี่ ทำให้ประเทศไทยลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาเฉพาะผู้ป่วยโรคดังกล่าวไปได้กว่า 1,500 ล้านบาท ในระหว่างปี 2553-2560” พญ.เริงฤดี กล่าว

ด้าน ดร.สแตนตัน แกลนซ์ อดีตผู้อำนวยการศูนย์วิจัยควบคุมยาสูบ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานฟรานซิสโก หนึ่งในผู้วิจัยร่วม กล่าวว่า การขึ้นภาษีบุหรี่และการห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ เป็นมาตรการที่องค์การอนามัยโลกเห็นว่าคุ้มค่าและได้ผลดี ซึ่งตนได้ศึกษาข้อมูลจากหลายประเทศที่ออกมาตรการดังกล่าวก็พบผลลัพธ์อย่างเดียวกัน คือ ช่วยลดอัตราการเกิดโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ซึ่งเป็นผลโดยตรงจากการสูบบุหรี่ โดยเฉพาะในคนที่อายุน้อย เพราะเป็นกลุ่มที่มีความอ่อนไหวต่อราคาบุหรี่ที่แพงขึ้นมากกว่าเมื่อมีการขึ้นภาษีบุหรี่ และส่วนมาตรการห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ จะลดการเจ็บป่วยของคนที่ได้รับควันบุหรี่มือสอง ซึ่งมีจำนวนมากกว่าคนที่สูบบุหรี่

ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า งานวิจัยชิ้นนี้ชี้ให้เห็นว่า มาตรการควบคุมยาสูบ เช่น การห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะและการขึ้นภาษีบุหรี่ สามารถส่งผลต่อการลดการเจ็บป่วยและเสียชีวิตในระยะสั้นๆ ได้ เป็นเครื่องเตือนสติให้ผู้สูบบุหรี่หยุดทำร้ายคนอื่น โดยไม่สูบบุหรี่ในที่ที่กฎหมายห้ามสูบ รวมถึงในบ้าน ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องจะต้องจริงจังกับการบังคับใช้กฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะให้มากด้วย

ข่าวจาก mcot

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: