พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานรถยนต์เอกซเรย์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่กระทรวงสาธารณสุข เพื่อรับมือกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดและขยายวงกว้างในหลายพื้นที่ของประเทศในเวลานี้
วันนี้ (19 ม.ค.) ที่สำนักงานราชเลขานุการในพระองค์ 904 พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร และข้าราชการกระทรวงสาธารณสุข เข้ารับพระราชทานรถยนต์เอกซเรย์เคลื่อนที่ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ หน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี โดยมีนายแพทย์วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม และผู้บริหารองค์การเภสัชกรรม เข้าร่วมในพิธี
ทั้งนี้ รถยนต์เอกซเรย์เคลื่อนที่ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทาน เป็นรถยนต์ที่ติดตั้งเครื่องเอกซเรย์แบบดิจิทัลพร้อมอุปกรณ์ จำนวน 2 คัน ซึ่งอยู่ในระหว่างการจัดสร้าง และอุปกรณ์ทางการแพทย์พระราชทานประกอบด้วยชุด PPE แบบเสื้อคลุมกันน้ำชนิดใช้ครั้งเดียว ชุด PPE แบบชุดหมีกันน้ำชนิดใช้ครั้งเดียว และชุด PPE แบบเสื้อคลุมกันน้ำชนิดใช้ซ้ำได้ จำนวน 3 รุ่น รวม 700,000 ตัว ในการนี้ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 122 ล้านบาท ในการจัดหารถยนต์และอุปกรณ์การแพทย์ดังกล่าว เพื่อกระจายไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ
นอกจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ยังทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้จัดสร้างรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยเพิ่มเติมอีก 7 คัน จากที่ได้พระราชทานไปแล้ว 13 คัน รวมเป็น 20 คัน มูลค่ารวมทั้งสิ้น 26,916,131 บาท สำหรับใช้เป็นห้องปฏิบัติการเคลื่อนที่ในการเก็บตัวอย่างเพื่อหาเชื้อในระบบทางเดินหายใจ และนำส่งตรวจยังห้องปฏิบัติการ เป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนทุกกลุ่มอาชีพทั่วประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในระบบการเฝ้าระวังและค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก โดยไม่ต้องเดินทางไปรับการตรวจที่โรงพยาบาล ปัจจุบันรถตรวจโรคติดเชื้อชีวนิรภัยพระราชทานได้มีบทบาทสำคัญในภารกิจตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อ และสามารถเข้าไปทำงานในทุกพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อประชาชนชาวไทย และบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนเจ้าหน้าที่ และผู้ปฏิบัติงานทุกคน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการแพร่ระบาดในหลายพื้นที่ของประเทศ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ตลอดจนพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ได้ทรงติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างใกล้ชิด ทรงห่วงใยประชาชน บุคลากรทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มความสามารถในการค้นหาผู้ติดเชื้อและดูแลรักษาผู้ป่วย ทั้งยังพระราชทานกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุดอีกด้วย
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ลูกชายรัฐมนตรีช่วย เมาแล้วขับ พุ่งฝ่าด่านตรวจ
Advertisement (18 เม.ย.67) เมื่อเวลาประมาณ 03.30 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.จร. ได้ตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ อยู่บริเวณปากซอยรัชดาภิเษก 31 ถ.รัชดาภิเษก แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กทม. ได้มีรถ BMW ขับชะลอเข้าจุดตรวจ ท่าทีมีพิรุธต้องสงสัย เมื่อถึงจุดตรวจเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เรียกให้หยุดแต่คนขับรถไม่ยอมหยุดรถ และได้ขับรถฝ่าจุดตรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงใช้แผงเหล็กเลื่อนมากันเพื่อหยุดรถ แต่คนขับไม่ยินยอมหยุด และขับชนแผงเหล็ก ต่อมาเมื่อรถเคลื่อนที่ไม่ได้ เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ร่วมกันจับกุมคนขับลงมาจากรถ เพื่อทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งคนขับไม่ยินยอมให้ตรวจวัด ด.ต.พัชรพล จึงใช้เครื่องตรวจวัดเบื้องต้น แบบไม่สัมผัสจ่อใกล้ปากและจมูกของผู้ต้อง วัดปริมาณแอลกอฮอล์ ผลวัดได้ 183 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ขับรถในขณะเมาสุรา หรือของเมาอย่างอื่น และฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานจราจร ที่สั่งให้มีการทดสอบว่าผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุรา หรือเมาอย่างอื่น” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ดำเนินคดี รับไว้เป็นคดีอาญาที่ 522/2567 ในชั้นสอบสวน เบื้องต้นคนขับให้การปฏิเสธ และอาการเมาโวยวาย ไม่รับทราบในข้อกล่าวหา และกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีอำนาจในการจับกุม รวมถึงได้แจ้งว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจลักเอาทรัพย์สินของตนไป […]
admin111 admin111
19 April 2567วิธีเช็ค e-Money บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ “กรมบัญชีกลาง” พร้อมโอนเงินคืน
Advertisement วิธีเช็ค e-money บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เมื่อวานนี้ 17 เมษายนที่ผ่านมา กรมบัญชีกลาง สังกัดกระทรวงการคลัง ออกมาประกาศ ว่า ผู้มีบัตรสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐตามโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 (โครงการเก่า) ที่มีวงเงินในกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) คงเหลือในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ เป็นผู้มีสิทธิโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐปี 2565 (โครงการปัจจุบัน) วิธีเช็คเงิน e-money บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ผู้มีสิทธิสามารถตรวจสอบข้อมูลเงิน e-Money คงเหลือในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ที่ระบบบูรณาการฐานข้อมูลสวัสดิการสังคม https://govwelfare.cgd.go.th หลังจากนั้น คลิกไปที่ หัวข้อตรวจสอบสิทธิสวัสดิการสังคม กรอกเลขที่บัตรประจำตัวประชาชนจำนวน 13 หลัก ถัดจากนั้นกดที่คลิก “ตรวจสอบ” สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Call Center บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โทร 0 2109 2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 Advertisement วิธีคืนเงิน e-money บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1.ผู้ที่ยืนยันตัวตนแล้วและยังมีชีวิต […]
admin111 admin111
19 April 2567แจก 3,000 บาทให้ลูกหลานที่เลี้ยงคนแก่ เริ่มจ่าย พ.ค. 67
Advertisement จากกรณีที่มีการประกาศระเบียบกรมกิจการผู้สูงอายุ ว่าด้วยการคุ้มครองผู้สูงอายุแบบครอบครัวอุปถัมป์ พ.ศ. 2566 โดยมีการจำกัดความ ครอบครัวอุปถัมป์ไว้ว่า เป็นบุคคลหรือครอบครัวที่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี ให้เป็นครอบครัวอุปถัมป์ผู้สูงอายุที่มีฐานะยากจน และไม่มีผู้ดูแลหรือมี แต่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้ สำหรับระเบียบการคุ้มครองครอบครัวอุปถัมป์ผู้สูงอายุ มีรายละเอียดดังนี้ เงื่อนไขการขอคุ้มครอง การขอคุ้มครองสามารถขอได้เพียงคราวละ 1 คน หากจะรับมากกว่านั้น ให้ระบุเหตุผลและความจำเป็นที่จะต้องรับผู้สูงอายุไว้คุ้มครองดูแลมากกว่า 1 คน คุณสมบัติการขอเป็นครอบครัวอุปถัมป์ มีดังนี้ 1. มีสัญชาติไทย 2. มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ หรือถ้ามีอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่มีความพร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ อาจได้รับการอนุมัติเป็นราย ๆ ไป 3. มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกับผู้สูงอายุ 4. ได้รับความยินยอมจากสมาชิกทุกคนในครอบครัวว่า มีความพร้อมในการคุ้มครองผู้สูงอายยุ 5. ไม่เป็นผู้ต้องหากระทำผิดอาญา และอยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล สถานที่การยื่นขอเป็นครอบครัวอุปถัมป์ 1. กรุงเทพฯ ให้ยื่นที่กรมกิจการผู้สูงอายุหรือศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค หรือหน่วยงานที่อธิบดีประกาศกำหนด 2. จังหวัดอื่น ยื่นคำขอได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด […]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ