เปิดเหตุผล เทงบภาษี 300 ล้าน ทำหนังโควิด วิษณุชี้ มีความจำเป็น





วิษณุ เครืองาม แจงงบ 300 ล้าน มีความจำเป็นต้องใช้ เป็นงบจาก กสทช. แนะทำภาพยนต์รณรงค์เกี่ยวกับ “โควิด” 

วันที่ 15 มกราคม 2564 หลังที่ประชุมคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ มีมติเห็นชอบเปิดรับข้อเสนอโครงการหรือกิจกรรมเพื่อขอรับสนับสนุนเงิน จากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัย และสร้างสรรค์ ประจำปี 2564 วงเงินงบประมาณ 300 ล้านบาท

ไม่นานได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า มีความเหมาะสมและคุ้มค่าหรือไม่ พร้อมแนะนำว่า ควรนำไปพัฒนาประเทศด้านอื่นหรืออาจจะนำไปซื้อ วัคซีนโควิด-19 ดีกว่า

ล่าสุด นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ชี้แจงว่า การจัดสรรงบประมาณ 300 ล้านบาท มีความจำเป็น หากไม่ใช้อาจจะมีปัญหา เนื่องจากเป็นเงินกองทุนภาษีบาป (sin tax) หรือเป็นเงินที่ กสทช.จัดสรรมาให้ หากไม่นำไปใช้ต้องส่งกลับคืน โดยงบประมาณ 300 ล้านบาท ถูกนำมาแบ่งเป็นโครงการต่าง ๆ เกี่ยวกับเด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ และคนพิการ หรือจะทำภาพยนต์เกี่ยวกับ โควิด-19 ก็ได้ ซึ่งก็อยากให้ทำ

เมื่อถามว่า ในสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิดช่วงนี้ ทำไมถึงต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก นายวิษณุ กล่าวว่า ยิ่งในช่วงสถานการณ์แบบนี้จำเป็นต้องผลิตสื่อมาช่วย เช่น การกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ อยากให้ทำภาพยนต์ประเภทนี้ออกมา โดยใช้เด็ก ใช้คนแก่ และคนพิการ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายที่สังคมให้ความห่วงใย มาร่วม และตนยังให้นโยบายไปว่า ในช่วงวัคซีนโควิด-19 กำลังจะเข้ามา ก็จะมีคนกล้าฉีดกับคนไม่กล้าฉีด จึงต้องมีสื่อประเภทนี้ออกมาช่วยรณรงค์

รายละเอียดของการจัดสรรทุนประจำปี 2564

ทั้งนี้ งบประมาณจำนวน 300 ล้าน นั้น ถูกแบ่งออกไปใช้ในโครงการต่าง ๆ ดังนี้

1. โครงการประเภทเปิดรับทั่วไป (Open Grant) วงเงินไม่เกิน 90 ล้านบาท

  • กลุ่มเด็กและเยาวชน 30 ล้านบาท
  • กลุ่มผู้สูงอายุ 20 ล้านบาท
  • กลุ่มคนพิการและผู้ด้อยโอกาส 20 ล้านบาท
  • กลุ่มประชาชนทั่วไป 20 ล้านบาท

2. โครงการประเภทเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Grant) วงเงินไม่เกิน 180 ล้านบาท
*โครงการหรือกิจกรรมขนาดใหญ่ ได้แก่ โครงการผลิตภาพยนตร์เสริมสร้างความรักชาติ 30 ล้านบาท
*โครงการหรือกิจกรรมขนาดกลาง จำนวน 100 ล้านบาท ตามประเด็นดังนี้

  • การเรียนรู้สิทธิและหน้าที่ของความเป็นพลเมือง
  • การสร้างเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัว
  • การสร้างจิตสำนึกผ่านการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ไทย
  • การสร้างความสามัคคีของคนในชาติ

* โครงการหรือกิจกรรมขนาดเล็ก วงเงิน 50 ล้านบาท ได้แก่ โครงการหรือกิจกรรมตามประเด็น ดังนี

  • การทำนุบำรุงสถาบันหลักของชาติ
  • การสร้างสื่อเพื่อส่งเสริมให้เกิดความเท่าเทียมในสังคม
  • วัฒนธรรมกับการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ
  • การสร้างสื่อเพื่อเชิดชูบุคคลที่ทำความดี
  • โทษและความเสี่ยงของสื่อออนไลน์

3.โครงการประเภทความร่วมมือ (Collaborative Grant) วงเงินไม่เกิน 30 ล้านบาท

มีขอบเขตของโครงการหรือกิจกรรมสำหรับผู้ขอรับการสนับสนุนที่เป็นภาคีเครือข่ายหรือผู้ผลิตสื่อที่เป็นนิติบุคคลซึ่งมีประสบการณ์หรือผลงานอันเป็นที่ประจักษ์และมีวัตถุประสงค์โครงการหรือกิจกรรมสอดคล้องกับภารกิจของคณะอนุกรรมการตามมาตรา 21 (13)

ข่าวจาก ประชาชาติธุรกิจ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: