“แพท พาวเวอร์แพท” พ้นโทษแล้ว ร่ำไห้ก้มกราบเท้าพ่อ-แม่ สิ้นสุดชีวิตเรือนจำ16ปี
แพท พาวเวอร์แพท ออกจากเรือนจำแล้ว หลังติดคุกคดียาเสพติดนานกว่า 16 ปี 6 เดือน พร้อมร่ำไห้เปิดใจวางแผนชีวิตบวชให้แม่-หวนคืนวงการเพลง
หากย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อน หลายคนคงรู้จักกับ อดีตนักร้องหนุ่มชื่อดัง แพท พาวเวอร์แพท หรือ แพท วรยศ บุญทองนุ่ม ที่มีข่าวโด่งดังสนั่นวงการหลังเจ้าตัวได้รับโทษตัดสินให้จำคุกในคดี คดีมียาเสพติดไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและเสพ (ยาอี)
ล่าสุดในช่วงสายของวันนี้ (4 มกราคม 2563) หลังรับโทษจำคุกกว่า 16 ปี 6 เดือน แพท พาวเวอร์แพท ก็ได้รับการปล่อยตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีพ่อแม่และญาติไปรอรับตัวที่หน้าเรือนจำ หลังพ้นโทษและเตรียมออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้งในวัย 40 ปี
แพท พาวเวอร์แพท เผยความรู้สึกแรกที่ได้ออกจากการจองจำมานานกว่า 16 ปี ว่า รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ และรู้สึกสำนึกในพระเมตตาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นอย่างมาก ที่พระองค์ท่านได้พระราชทานอภัยโทษให้กับผู้ต้องราชทัณฑ์ในครั้งนี้ เพราะฉะนั้นจะมุ่งมั่นทำความดี แล้วก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด จะทำแต่สิ่งที่ดี รวมถึงจะช่วยป้องกัน รณรงค์เรื่องยาเสพติด และจะไม่ทำผิดกฎหมาย เพราะได้ทำการปฏิญาณตนต่อหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ก่อนออกมา ว่าจะไม่ทำผิดกฎหมายอีกต่อไป
โดยยังได้เปิดเผยถึง วินาทีแรกที่ได้ออกมาเจอครอบครัว เป็นความรู้สึกที่พูดยาก ตอนที่ก้มกราบคุณพ่อคุณแม่ ไม่ได้พูดอะไร เพราะมันพูดไม่ออกจริง ๆ พูดไม่ออก มันเหมือนวันที่เราฝันมาตลอด เกือบ 17 ปีที่ฝันถึงวันนี้มาตลอด สิ่งที่เราฝันมันอาจจะไม่ได้เหมือนที่ฝัน 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ความรู้สึกมันใกล้เคียงอย่างมาก ดีใจที่ได้หลาย ๆ คนมารับ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ พี่ ๆ เพื่อน ๆ ยังรู้สึกว่าทุกคนอ้าแขนรับเรา อบอุ่นมาก ตื้นตันใจอย่างหาที่สุดไม่ได้ น่าจะเป็นวันที่จะจดจำไปจวบจนวันตาย มันรู้สึกเกินคาดที่เราคิดไว้
ส่วนแผนในอนาคตนั้น แพท พาวเวอร์แพท เผยว่า ตนต้องวางแผนชีวิตอีกเยอะมาก ๆ เพราะว่ามันมีการเปลี่ยนแปลง ตั้งแต่วันที่เข้ามาในนี้ก็เกือบ 16-17 ปี ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมด ต้องเก็บเกี่ยวข้อมูล และก็ค่อย ๆ ศึกษาการใช้ชีวิตในปัจจุบันไป ถามว่าเสียดายครึ่งชีวิตที่อยู่ในนั้นไหม ตนมองว่ามีทั้งสองด้าน ถ้าไม่เข้าไปอยู่ในเรือนจำ ตนอาจจะเสียชีวิตไปแล้วก็ได้ มันก็เหมือนกับอีก 1 คือความโชคดีในความโชคร้าย ตนมองว่ามันมีคุณค่าต่อชีวิตของตัวเองมาก
สำหรับเรื่องงานเพลงนั้น เรื่องเพลงเป็นชีวิตของตนอยู่แล้ว ตอนอยู่ข้างในเขียนเพลงไว้เยอะมาก และรอโอกาสที่จะมานำเสนอให้ทุกคนฟังด้วย มันเป็นเรื่องที่ทั้งเกิดขึ้นจริงกับตัวเองและคนรอบข้าง และเรื่องการพัฒนาตัวเองในเรื่องของดนตรีที่รัก คือทำอยู่ตลอดเวลา มีการวางแผนทำอยู่ตลอดเวลา ซึ่งงานเพลงได้ทำแน่นอน และได้มีการคุยกับเพื่อนอดีตวง พาวเวอร์แพทไว้คร่าว ๆ บ้างแล้ว มีโอกาสอย่างมากที่จะกลับมารวมตัวกันและทำเพลงใหม่ มีโอกาสอย่างสูงเลย แต่เป้าแรกหลังจากที่ออกจากที่นี่คือ ตั้งใจว่าอยากจะบวชให้แม่ หลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกที
