ผ่าดวงเมือง ปีฉลูไฟ64 คำทำนาย “นอสตราดามุสเมืองไทย” จับตาลางร้ายรัฐบาล เศรษฐกิจหนัก
ผ่าดวงเมือง ปีฉลูไฟ 64 คำทำนาย 'นอสตราดามุสเมืองไทย' จับตาลางร้ายรัฐบาล เศรษฐกิจหนัก เจอโรคระบาด ม็อบนับแสนลุกฮือครั้งยิ่งใหญ่
วันที่ 31 ธ.ค.63 โสรัจจะ นวลอยู่ นอสตราดามุสเมืองไทย ทำนายดวงชะตาบ้านเมืองในปี 2564 ว่า การโคจรของดวงดาวในปีฉลู 2564 ยังมีดาวสำคัญที่อยู่ในตำแหน่งเดิม ที่สำคัญคือดาวมฤตยู ยังสถิตในราศีเมษ ไปถึงเดือนก.ค.2565 โดยจะย้ายออกในวันที่ 7 ก.ค.2565 ดาวเสาร์ปัจจุบันสถิตราศีมังกร อยู่ในภพที่สิบของดวงเมืองไปอีกระยะหนึ่ง ถือว่ายังมีอิทธิพลกับดวงบ้านเมืองอยู่
ตอนต้นปี พระเสาร์ตั้งฉากกับดาวมฤตยูในลัคนาเมษ (ลัคนาของดวงเมือง) มีดาวเกตุและพระราหูล้อมหน้าล้อมหลังเช่นนี้ ถือเป็นจุดอันตราย เท่ากับเพิ่มความรุนแรงให้สิ่งที่ตามมาและความยุ่งยากนานาประการ อาถรรพ์ของดวงดาว บาปเคราะห์เสาร์กับดาวมฤตยู มีผลต่อบ้านเมืองอย่างเต็มที่ในปี 2564 บ่งชี้ถึงสภาวะของประเทศ อาจเกิดการแตกร้าวรุนแรง แสดงให้เห็นถึงจุดยุ่งยากของหัวหน้ารัฐบาลต้องเผชิญและควรหาทางแก้ไขตั้งแต่ต้น
ปีฉลู 2564 เป็นปีที่ต้องต่อสู้กันทรหด ทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องเผชิญกับวิกฤตการณ์รุนแรง ทุกอย่างจะสำแดงความไม่ปกติสุข เศรษฐกิจจะอยู่ในภาวะวิกฤต คนตกงานอย่างต่อเนื่อง เหตุการณ์ของประเทศจะพลิกผันอย่างไม่เคยเห็นและเกิดความว่างเปล่า ดวงดาวลิขิตมาในปีนี้เกินสุดจะคาดเดาได้ กลุ่มชนและฝูงชนอาจเคลื่อนไหวครั้งยิ่งใหญ่สุดตั้งแต่ตั้งเมืองมา
ดาวอังคารสีเลือดย้ายเข้าสู่ราศีกรกฎ เล็งดาวพระเสาร์ ในเดือนมิ.ย.2564 จะมีลางร้ายบอกเหตุล่วงหน้า มักเกิดขึ้นเมื่อมีเหตุการณ์สำคัญอันเสียหายกับบ้านเมือง ให้จับตาลางร้ายที่จะเกิดขึ้นกับรัฐบาลและบ้านเมือง เหตุการณ์ทางการเมืองรุนแรงที่จะเกิดในปีนี้ เหมือนพายเรืออยู่ในอ่าง จะวนเวียนซ้ำไปมาเหมือนเมื่อปี 2563 แต่รุนแรงมากกว่า บ่งชี้ถึงเมืองไทยเข้าสู่ภาวะวิกฤต จะมีม็อบหรือประชาชนมาชุมนุมกันเป็นเรือนแสน ชุมนุมตามท้องถนน
ปี 2564 ดาวพฤหัสกับพระเสาร์ตั้งฉากกับดาวมฤตยู ทำให้บ้านเมืองมีการเปลี่ยนแปลงใหญ่ นักวิชาการจะถูกดึงเข้ามาช่วย ดวงดาวบ้านเมืองเดินถอยหลังลงคลอง ต่อให้ใครอาสาเข้ามาแก้ปัญหาของประเทศ ก็ทำได้ยาก
ขณะที่การเมืองระส่ำหนัก ก็ยังมีภัยรอบข้าง ทำให้ดูเหมือนเกิดความคับขัน มีอัคคีภัยร้ายแรงทั่วทุกภาค ไฟป่าเผาผลาญลุกโชติช่วงทุกแห่ง ปี 2564 หนักมาก เพราะพืชผลทางการเกษตรจะถูกไฟป่า อากาศในกรุงเทพฯ จะร้อนมากที่สุดในรอบพันปี เกิดฝุ่นละอองเกินมาตรฐานทั่วทั้งประเทศและกรุงเทพฯ มีผู้คนล้มป่วยจำนวนมาก รัฐบาลหมดปัญญาแก้ไข และบางส่วนของประเทศอาจอพยพไปอยู่ที่ปลอดภัยจากฝุ่นละออง
เศรษฐกิจ หุ้นจะตกอย่างรุนแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ธนาคารขนาดใหญ่เซ ประสบภาวะเงินฝืด กำลังซื้อลดลง บริษัทห้างร้านหรือโรงงานจะประสบปัญหาอย่างรุนแรง โรงงานขนาดใหญ่ทั่วประเทศต้องปิดตัวลง ปัญหาว่างงานมีตามมา มีความยากแค้น ชาวนาเกษตรกรจะมีหนี้สินจำนวนมาก มีคนอดอยากล้มตายจากพิษเศรษฐกิจ จะประสบภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำดื่มและน้ำใช้ทางการเกษตรและอุตสาหกรรม เกิดสงครามแย่งน้ำ
ช่วงกลางปี อาจเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ เขย่าพื้นที่ตอนเหนือของประเทศ สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือนหลายร้อยหลัง และเกิดอาฟเตอร์ช็อกอีกหลายครั้ง ที่สำคัญแถบชายฝั่งทะเล อาจถูกคลื่นยักษ์สึนามิ พุ่งเข้าถล่มครั้งใหญ่เหมือนปี 2547 อีกครั้ง แถมจะเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบพันปี โดยเกิดทั่วโลกด้วย ประเทศไทยต้องระมัดระวังให้มากที่สุด โดยมีไวรัสกลายพันธุ์ คงเป็นไวรัสโควิด-19 ทำให้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มขึ้น
