ร้านชาบูกุมขมับ! เจอลูกค้านั่งยาว6ชม. ลุกไปย่อยแล้วกินต่อ ปรึกษาชาวเน็ตทำไงดี?
เจ้าของร้านชาบู กุมขมับ เจอลูกค้านั่งยาว 6 ชั่วโมง ตั้งแต่เปิดยันปิดร้าน อิ่มแล้วไม่กลับลุกเดินไปย่อยแล้วกลับมากินต่อ แบบนี้ควรทำไงดี?
วันนี้ (29 ธ.ค.63) ชาวเน็ตต่างร่วมกันวิพากษ์วิจารณ์ กรณีสาวเจ้าของร้านชาบูร้านหนึ่ง ตั้งกระทู้พันทิป "ร้านชาบู ลูกค้านั่งตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึงเที่ยงคืน อิ่มแล้วไปเดินย่อยและก็กลับมากินต่อ" โดยขอคำแนะนำว่าจะทำอย่างไร จะตักเตือนลูกค้าดีหรือไม่ เพราะร้านเธอเองก็ไม่ได้จำกัดเวลา
เจ้าของกระทู้ เล่าว่า ร้านเปิด 18.00-24.00 น. ราคา 139 บาท ไม่บวกเพิ่ม ร้านไม่ได้กำหนดเวลาว่าจะนั่งกี่ชั่วโมง เอาที่ลูกค้าสบายใจและพอใจ ขอแค่ไม่กินเหลือก็พอ แต่เนื่องด้วยมีลูกค้า 2 คน จะมากินอาทิตย์ละ 2 ครั้ง แต่ลูกค้าจะกลับดึกมาก อิ่มแล้วไม่ยอมลุก หรือผลัดกันลุกไปเดินย่อยแล้วก็กลับมากินต่ออีก เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่มา และเป็นมา 6 ครั้งแล้ว
ซึ้งใจที่ลูกค้ามากินหลายครั้งติดต่อกัน ให้ความใว้ใจและชอบการบริการของทางร้านมากๆ แต่จะตักเตือนก็กลัวเสียลูกค้า จะปล่อยแบบนี้ก็เสียดายลูกค้าที่มาต่อคิวกินต่อ หรือจะให้กำหนดเวลา 1 ชั่วโมง 45 นาที แบบร้านอื่น ๆ ก็ทำไม่ได้ เพราะลูกค้าบางกลุ่มชอบนั่งกินนาน ๆ แต่ก็ไม่เกิน 3 ชั่วโมง รบกวนขอคำแนะนำจากพี่ ๆ ด้วย
ทั้งนี้ มีชาวเน็ตร่วมแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยมีมุมมองแตกต่างกันไป ด้านหนึ่งมองว่าลูกค้ามารยาทแย่มาก ที่นั่งกินนานขนาดนั้น นั่งยาวถึงเที่ยงคืนยังไม่น่าเกลียดเท่าลุกไปเดินย่อยแล้วกลับมานั่งกินต่อ ต้องรู้จักพอและเห็นใจทางร้านบ้าง ไม่ใช่เห็นแก่ความคุ้มค่าของตัวเอง อีกทั้งราคาก็ไม่ได้แพง เพียงแค่ 139 บาทเท่านั้น หากลูกค้าทำแบบนี้กันหมด ร้านก็คงเจ๊ง เพราะทั้งคืนได้เงินแค่ไม่กี่บาทเท่านั้น ถึงทางร้านจะไม่กำหนดเวลาก็ควรมีจิตสำนึก
อีกด้านมองว่า ทางร้านไม่มีสิทธิ์ไปตักเตือนลูกค้า เพราะลูกค้าไม่ได้ทำอะไรผิด เนื่องจากร้านไม่ได้กำหนดกฎกติกา จะมาคาดหวังศีลธรรม จริยธรรม จากลูกค้าไม่ได้ เขาไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าทางร้านไม่โอเคก็ควรกำหนดเวลาการกินให้ชัดเจน
ขณะที่มีชาวเน็ตจำนวนมากเชียร์ให้ทางร้านกำหนดเวลาการกิน ตั้งแต่ 1.45-3 ชั่วโมง พร้อมมองว่าระยะเวลาสูงสุด 3 ชั่วโมงที่ให้ไปนั้น ส่วนใหญ่ก็ไม่มีใครนั่งนานขนาดนั้น แต่ก็กำหนดไว้เป็นไม้กันหมา สำหรับกรณีเจอลูกค้าตูดหนัก นั่งนานอย่างที่เล่ามานั้น อีกทั้งการกำหนดเวลาที่ชัดเจนก็สามารถเตือนกับลูกค้าได้อย่างเต็มปาก ไม่ต้องรู้สึกผิดกับลูกค้าด้วย
นอกจากนี้ ยังมีบางส่วนบอกว่ารู้สึกเวทนาลูกค้าคู่ดังกล่าว ใช้เวลาตั้งแต่เย็นจนดึกเพื่อกินบุฟเฟ่ต์ หากมีแค่ 2 คนนี้ก็ถือว่าทำบุญทำทานไปเถอะ เขาอาจไม่ได้กินอะไรมาทั้งอาทิตย์ คิดแบบนี้จะได้ไม่เครียด
ล่าสุด ทางร้านดังกล่าวได้ข้อสรุปว่า
1.ทางร้านตัดสินใจที่จะไม่ตั้งกฏกำหนดเวลาเหมือนเดิม เพราะสิ่งนี้เรียกลูกค้าได้มาก
2.การบริการ เสริฟอาหารให้ ลูกค้าไม่ต้องลุกไปตักเองยังคงเหมือนเดิม เพราะหากลูกค้าไปยืนรุมแย่งกันตัก คงเป็นภาพที่ไม่น่าดูรวมถึงสถานการณ์โรคระบาดตอนนี้ หากต้องหยิบที่หนีบอาหารต่อกันหลายๆคน ก็ไม่ปลอดภัยเช่นกัน
3.ราคา139บาท ตั้งเพื่อให้ทุกคนที่งบน้อยได้กินทั่วถึงกัน หากปรับราคาเพิ่มขึ้นลูกค้าก็ต้องลดลง เอาที่สบายใจทั้งสองฝ่ายค่ะ
4.ร้านได้สั่งทำป้ายใหญ่ๆ "ห้ามเดินออกนอกร้านและเข้ามากินใหม่"
5.สำหรับลูกค้า 2 คนนั้น มีปฎิกิริยาเล็กน้อยเมื่อเห็นป้าย มีงอแงขอไปห้องน้ำ ไปเดินเล่นค่อยกลับมาได้ไหม ซึ่งทางร้านพูดดีๆ ว่าไม่ได้จริงๆ ค่ะ ต้องขอโทษด้วยนะคะ สรุปนั่งกิน 2 ชั่วโมงจ่ายเงินจบ ก่อนกลับบ่นนิดๆ ไม่ได้เดินย่อยกินไม่คุ้มเลย แม่ค้าได้แต่ไหว้ขอบคุณงามๆ
6.ทางร้านมีห้องน้ำแยกชาย-หญิง พร้อมความสะอาดเรียบร้อย ไม่จำเป็นต้องออกไปเข้าห้องน้ำข้างนอก
ขอบคุณสมาชิกเว็บไซต์พันทิป หมายเลข 6134974
