เชียงราย เปิดประวัติ 2 สาวติดโควิด เร่งตามคนสัมผัส ยันไม่ได้ตระเวนเที่ยว!





จากกรณีพบผู้ป่วยหญิงติดโควิดเพิ่มอีก 2 ราย อายุ 26 ปี และ 23 ปี ซึ่งเดินทางเข้าช่องทางธรรมชาติเข้ามาจากประเทศพม่า โดยทำงานอยู่ในสถานบันเทิงเดียวกันกับสาวอายุ 29 ปี ที่ติดเชื้อโควิดก่อนหน้า

ผู้ป่วยรายใหม่ทั้ง 2 คนนี้คู่มีประวัติลักลอบข้ามชายแดนไทย-เมียนมา ไปทำงานที่สถานบันเทิงใน จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ติดกับ อ.แม่สาย จ.เชียงราย สถานที่เดียวกับเพื่อนผู้หญิงอายุ 29 ปีที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งได้ติดเชื้อไปก่อนหน้านี้แล้ว แต่ทั้ง 2 คนที่ จ.เชียงราย แตกต่างตรงที่หลังจากลักลอบข้ามมาแล้วไม่ได้กลับภูมิลำเนาโดยไปพักอยู่ที่ห้องพักโรงแรมแห่งหนึ่งที่ อ.แม่สาย โดยไม่ออกไปไหนกระทั่งหญิงสาวอายุ 26 ปีทราบข่าวว่าเพื่อนที่ จ.เชียงใหม่ ป่วยและพบเชื้อขณะที่ตัวเองก็เริ่มป่วยจึงเดินทางไปขอตรวจโรคที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในเขต อ.เมืองเชียงราย ก็พบว่าตัวเองก็ติดเชื้อทางเจ้าหน้าที่สอบประวัติแล้วงตามไปตรวจหญิงสาวอายุ 23 ปีที่โรงแรมก็พบติดเชื้อเหมือนกัน

สำหรับเส้นทางการเดินทางของผู้ป่วยทั้งสองรายนั้น นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ยืนยันว่า ขอให้ประชาชนไม่ต้องตื่นกลัวเพราะจำนวนผู้สัมผัสทั้งกลุ่มเสี่ยงสูงและต่ำมีน้อย ดังนั้นการจัดงานกิจกรรมต่างๆ ที่มีผู้คนจำนวนมากในฤดูหนาวซึ่งเป็นฤดูท่องเที่ยวนี้ยังคงสามารถทำได้ตามปกติ แต่จะมีประกาศเน้นย้ำให้ประชาชนได้เข้มงวดตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 เช่น สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างทางสังคม ฯลฯ แต่จะเข้มงวดให้มีการใช้มาตรการอย่างเต็มที่ หากปล่อยปะละเลยก็จะสั่งให้ยกเลิกงาน

นพ.ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย กล่าวว่าจากการตรวจสอบประวัติพบผู้ติดเชื้อทั้ง 2 ราย ข้ามไปทำงานในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.2563 และวันที่ 26-27 พ.ย.ได้ลักลอบข้ามมายังฝั่งไทยพร้อมกันจากนั้นไม่ได้กลับบ้านโดยไปพักที่โรงแรม แต่เมื่อได้ดูข่าวก็พบเพื่อนสาวที่ทำงานด้วยกันติดเชื้อไวรัสโควิด-19 คนที่มีอายุ 26 ปี จึงได้ว่าจ้างรถจักรยานยนต์รับจ้างให้พาไปส่งที่โรงพยาบาลเอกชนใน อ.เมืองเชียงราย เมื่อวันที่ 28 พ.ย.ผลก็ตรวจพบเชื้อจึงถูกส่งไปยังโรงพยาบาลเชียงรายนุเคราะห์ก็พบผลเป็นบวกทั้ง 2 ครั้งๆ

ล่าสุดเมื่อบ่ายวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงตามไปตรวจสอบเพื่อนสาวอายุ 23 ปีที่ยังพักอยู่ที่โรงแรมก็เชื้อครั้ง 2 ครั้งๆ ล่าสุดเมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 30 พ.ย.นี้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพาคนกลุ่มเสียงสูงและต่ำได้รวมกันทั้งหมด 26-30 คน เช่น พนักงานโรงแรม จักรยานยนต์รับจ้าง เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทั้งรัฐและเอกชน ฯลฯ โดยพบเกือบทั้งหมดแล้วและอยู่ในกระบวนการแล้ว

กระนั้นเนื่องจากผู้หญิงอายุ 23 ปียังเคยสั่งอาหารไปที่ห้องไปรับประทานโดยไม่ได้ออกไปไหน จึงคาดว่าจะมีคนส่งอาหารไม่เกิน 5-6 คนและแต่ละคนมีโอกาสเสี่ยงต่ำเพราะสวมใส่หน้ากากอนามัยและแต่งกายมิดชิด อย่างไรก็ตามพบว่ามีบุคคลเสียงสูงมีจำนวน 4 คน เช่น คนขับรถจักรยานยนต์รับจ้าง ฯลฯ จึงอยู่ระหว่างรอผลการตรวจหาเชื้อซึ่งผลจะออกมาในบ่ายวันที่ 30 พ.ย.นี้ต่อไป

นพ.ไชยเวช กล่าวว่าสำหรับอาการของหญิงสาวทั้ง 2 คนพบว่าไม่มีไข้แล้วโดยได้รับน้ำเกลืออ่อนตามปกติ หลังจากในวันแรกที่ไปพบแพทย์มีอาการไข้และน้ำมูกไหลจึงได้ให้ยาปรากฎว่าไข้ได้ลดลงหมดแล้ว ทั้งนี้แนวทางการรักษาผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ใน จ.เชียงราย คือผู้ป่วยทั้งหมดต้องส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ซึ่งมีความพร้อมทั้งห้องรักษาแยกไปเป็นกรณีพิเศษ แพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ฯลฯ และหากมีผู้ป่วยมากเกินก็สามารถส่งไปยังศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ได้อีกด้วย

ข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: