ผบ.ทบ.เปิดใจ “โอกาสปฎิวัติในไทยคือศูนย์ถึงติดลบ” ยันเป็นส.ว.ไม่ใช่แบบหุ่นยนต์ยกมือ





ผบ.ทบ.เปิดใจสื่อครั้งแรก ลั่น ไม่ปฎิวัติรัฐประหาร ยึดมั่น 4 สถาบันหลัก ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน บอกประเทศไทยมีเสรีภาพสูง ต้องไม่ไปก้าวล่วงสิทธิหรือทำผิดกฎหมาย เชื่อคนไทยไม่ชอบความรุนแรง ส่วนการเป็นส.ว. โดยตำแหน่ง รัฐธรรมนูญกำหนดไว้แล้ว ชี้ไม่ใช่หุ่นยนต์ยกมือแบบไม่มีเหตุผล ไม่ขอรับเงินเดือน 2 ทางแน่นอน

เมื่อวันที่ 6 ต.ค. ที่ กองบัญชาการกองทัพบก พลเอกณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก แถลงข่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมหน่วยขึ้นตรง ในระดับผู้บัญชาการและชั้นนายพลครั้งแรก หลังรับตำแหน่ง เพื่อมอบนโยบายให้กับกำลังพลและกล่าวถึงจุดยืนโดยครั้งนี้เป็นการแถลงข่าวกับสื่อมวลชนเป็นครั้งแรก ที่กองบัญชาการกองทัพบก

โดยพลเอกณรงค์พันธ์ กล่าวว่าได้มอบนโยบายให้กองทัพบกปกป้องสถาบันชาติ ศาสน กษัตริย์และประชาชน 4 เสาหลักของประเทศ พร้อมทั้งสานต่องานที่อดีตผู้บัญชาการกองทัพบกทำไว้และปฎิบัติภารกิจงานที่หลากหลายมากขึ้นที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วในโลกโลกาภิวัตน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่เผชิญอยู่ขณะนี้

ตนได้เน้นย้ำการดูแลเรื่องสิทธิกำลังพลให้ชัดเจนถูกต้องมากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาอย่างที่เกิดขึ้นมาต้นปีที่ผ่านมา ผู้บังคับบัญชาต้องเข้าถึงผู้ใต้บังคับบัญชาในการรักษาปัญหาดูแลเรื่องสิทธิสวัสดิการให้กับทั่วถึง

ส่วนการปฏิรูปกองทัพในด้านต่างๆแก้ไขสิ่งที่ไม่ถูกต้องปรับปรุงพัฒนาให้เกิดความเหมาะสมในทุกๆด้าน แต่ทุกอย่างต้องใช้เวลาไม่ใช่ใช้เวลาเพียงระยะสั้นๆ บางเรื่องอาจใช้เวลาเท่าหรือไม่เท่ากันในแต่ละเรื่องแตกต่างกันไป ขอประชาชนให้โอกาสการปฏิรูปเรื่องสวัสดิการที่กองทัพได้ให้มืออาชีพเข้ามาช่วยในการบริหารจัดการ อย่างเช่น สวนสนประดิพัทธ์ที่ให้ผู้มีความเชี่ยวชาญเข้ามาดูแลมากขึ้นโดยส่วนใหญ่ก็เกิดความพึงพอใจ

นอกจากนี้ในภาคประชาชนให้ทุกหน่วยช่วยเหลือประชาชนให้มากที่สุด ที่ประสบปัญหาในด้านต่างๆ โดยเฉพาะโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบกว้างและภัยพิบัติต่างๆที่จะต้องช่วยเหลืออย่างทันท่วงที รวมถึงเรื่องยาเสพติดและแรงงานต่างด้าวที่ยังมีการลักลอบเข้ามาในประเทศไทยตามแนวชายแดนต่างๆในช่วงนี้ เพราะทหารมีหน้าที่ป้องกันภัยต่างๆที่จะเข้ามาในทุกรูปแบบ ทหารมีหน้าที่รับใช้ประชาชนเพื่อประเทศชาติและประชาชน

เมื่อถามว่าวางนโยบายของกองทัพบกต่อเรื่องการเมืองเป็นอย่างไร

ผู้บัญชาการทหารบกกล่าวว่าการเมืองต้องแก้ด้วยการเมือง ต้นเป็นข้าราชการประจำไม่ใช่ข้าราชการการเมืองเพราะฉะนั้นตนจะปฏิบัติตามได้นโยบายของรัฐบาล และรัฐมนตรีกลาโหมรวมถึงผู้บัญชาการทหารสูงสุด

เมื่อถามว่าการรัฐประหารจะให้คำมั่นอย่างไรต่อสังคมว่าจะไม่ให้เกิดขึ้นในยุคของผบ.ทบ.

ผู้บัญชาการทหารบกกล่าวว่าโอกาสทั้งหมดเป็นศูนย์หมด แต่ว่าทุกฝ่ายต้องอย่าสร้างปัญหาที่รุนแรงความขัดแย้งที่กระทบต่อความเดือดร้อน เมื่อวานผู้บัญชาการทหารสูงสุดก็ได้ตอบไปแล้วว่าไม่มีความคิดนี้อยู่ในหัว ตนอยากจะขอทุกคนช่วยกันกำจัดเงื่อนไขต่างๆออกไปให้มันติดลบ ศูนย์ก็ไม่พอ แต่จะติดลบได้ทุกเรื่องต้องช่วยกันทำอย่างไรก็ตาม ขจัดเงื่อนไขต่างๆเหล่านั้นให้หมดไปจากประเทศไทย

ผู้บัญชาการทหารบกกล่าวว่าย้ำว่าแสดงว่าโอกาสที่จะทำการปฏิวัติรัฐประหารนั้นไม่มีอีกแล้ว เพราะประเทศไทยนั้นเป็นประเทศที่ดีที่สุด จากที่ทุกคนเห็นอยู่แล้ว ไทยเป็นประเทศที่เสรีมากที่สุด เป็นประเทศที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุดเป็นประเทศที่เราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ถามว่าประชาชนทุกวันนี้อยู่อย่างมีความสุข มีใครอยากไปอยู่ประเทศไหนบ้าง ใครก็อยากมาอยู่ประเทศไทยโดยเฉพาะในขณะนี้ที่มีการระบาดของโควิด-19 ที่มีการบริหารจัดการอย่างดี จึงขอให้ร่วมแรงร่วมใจกันทำให้ประเทศฟื้นฟูจากสถานการณ์ให้เร็วที่สุด เพราะคนนอกประเทศกำลังมองเข้ามา

ผู้บัญชาการทหารบกกล่าวย้ำว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสิทธิเสรีภาพ แต่สิทธิเสรีภาพทางความคิดเห็นจะต้องมาด้วยกัน2ส่วนคือต้องไม่ก้าวล่วงสิทธิของคนอื่นและต้องมีความรับผิดชอบต่อเสรีภาพ ที่ได้กระทำ หากมีการทำผิดกฎหมายก็ต้องรับผิดชอบ

เมื่อถามว่าเรื่องการปฎิรูป ผู้บัญชาการทหารบกกล่าวว่า ทุกคนควรปฏิรูปตัวเองก่อน ตนนับถือสมเด็จโตในการมองกระจกที่จะต้องมองตนเองก่อนและค่อยไปมองคนอื่นว่าตนเองมีความสมบูรณ์หรือยังก่อนที่จะให้คนอื่นทำหนึ่งอย่างใด

เมื่อถามถึงการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์พลเอกณรงค์พันธ์ กล่าวว่า ในหัวตน มี4อย่างนี้
คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ตนจะทำทุกอย่างเพื่อรักษาความมั่นคงของ 4 อย่างนี้
แต่ทำอย่างไร ตนไม่บอกแต่ยืนยันจะทำทุกอย่างตามอุดมการของกองทัพบกและตามแนวของตนเองที่เป็นนักเรียนในร้อยพระจุลจอมเกล้ามาเป็นสิ่งที่ตนจะยึดมั่น เพื่อทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีที่สุด

เมื่อถามถึงการชุมนุมของกลุ่มนักเรียนนักศึกษาว่าตนได้รับรายงานมาส่วนหนึ่งและพร้อมที่จะปรับปรุงแก้ไขตามที่มีเรียกร้องเพราะสังคมเราอยู่บนพื้นฐานความแตกต่างของความคิดที่ต้องเรียนรู้ปฏิรูปและแก้ไขกันไป

“กำลังพลกองทัพบก มี 3แสนคน มีการทำงานวิธีปฎิบัติไม่เหมือนกัน ยอมรับ ไม่มีใครสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ตรงไหนที่มีความผิดพลาดก็ต้องทบทวนแก้ไขกันใหม่นี่คือการปฏิรูป เราต้องอยู่ในสังคมที่มีความแตกต่างในหลายๆด้านร่วมกันได้ เพราะเป็นทหารแล้วต้องเสียสละ เมื่อเข้ามาทำหน้าที่นี้แล้วต้องอุทิศตัวเพื่อประเทศชาติและประชาชน” ผู้บัญชาการทหารบกกล่าว

เมื่อถามถึงสถานการณ์ขณะนี้มีความห่วงกังวลอย่างไรบ้างหรือไม่ในฐานะเป็นผู้บัญชาการกองทัพบก พลเอกณรงค์พันธ์ กล่าวว่าเป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องดูแล เช่น การชุมนุมเชื่อว่าตำรวจดูแลสถานการณ์ได้ และไม่เชื่อว่าจะเกิดจราจล เพราะคนไทยจะไม่ใช้ความรุนแรง เพราะความรุนแรงไม่มีประโยชน์ต่อใครหรือต่อโลก ส่วนปัญหายาเสพติดทุกคนก็ต้องช่วยกัน

ส่วนเรื่องการทำหน้าที่ ส.ว. นั้น ยืนยันว่าเป็นการทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญก็ต้องไปทำหน้าที่แต่ในเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกอย่างต้องดูข้อเท็จจริงเพราะ เราไม่ใช่หุ่นยนต์ที่จะยกมือหมดทุกอย่าง ต้องดูเหตุผลดูข้อเท็จจริงต่างๆด้วยว่ามีประโยชน์หรือไม่  และจะไม่รับเงินเดือน 2ทางแน่นอน แต่ไม่ทราบว่าจะสามารถลาออกจากส.ว.ตามข้อเรียกร้องได้หรือไม่

พร้อมทิ้งท้ายฝากสื่อมวลชนสายทหารว่า เรื่องที่ติดตามในแง่การเมือง ขอฝากให้ติดตามงานของทหารเพิ่มเติมบ้าง เช่น การที่ทหารเข้าไปทำงานดูแลช่วยเหลือประชาชน หรือประชาชนมีความเดือดร้อนตรงไหน บ้างอย่างไร ให้แจ้งทหารเข้าไปช่วยได้ เพราะทหารมีความพร้อมช่วยเหลือประชาชนตลอดเวลา ก็จะขอบคุณมาก

โดยนักข่าวสายทหารได้สะท้อนการทำงานที่ล่าช้าของทีมงานกองทัพบกในการส่งข้อมูลเพื่อให้กองทัพปรับปรุงเช่นกันด้วย ส่วนสายด่วนของกองทัพบก ในช่วงหลังนั้นไม่ค่อยมีข้อร้องเรียนมาแล้ว

ข่าวจาก มติชนออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: