“สิระ”ยุติสอบ คดีบอส เหตุซ้ำซ้อนและสรุปยากใครพูดจริง





เป็นเวลา 28 วัน ที่คณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ ที่มีนายสิระ เจนจาคะ เป็นประธาน เดินหน้าตรวจสอบคดี บอส วรยุทธ และตามกำหนดการ ช่วงบ่ายวันนี้ จะมีการเรียกสอบ รศ.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม และ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ในประเด็นกดดัน พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น ให้กลับความเห็นเรื่องความเร็วรถ แต่ก่อนถึงกำหนดเริ่มประชุมเพียง 30 นาที นายสิระ ได้แถลงยุติการตรวจสอบคดี บอส วรยุทธ โดยให้เหตุผลว่า บรรลุเป้าหมายแล้ว

26 ส.ค. 2563 นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน เพื่อแจ้งต่อสื่อมวลชนว่า จะยุติการตรวจสอบคดีบอส วรยุทธ

ส่วนสาเหตุที่ต้องยุติกะทันหัน ก่อนถึงกำหนดเริ่มการประชุมเพียง 30 นาที ทั้งที่เมื่อช่วงเช้า นายสิระ ยังให้สัมภาษณ์ว่าวันนี้จะให้ รศ.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม สาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสภาว่าข้อมูลที่ให้ต่อกรรมาธิการเป็นเรื่องจริง และให้ชี้แจงว่าสรุปแล้วใครคือคนที่พา รศ.สายประสิทธิ์ มาพบ พ.ต.อ.ธนสิทธิ แตงจั่น ในวันที่ 26 ก.พ. 2559 ก่อนที่ พ.ต.อ.ธนสิทธิ จะกลับคำให้การเรื่องความเร็วรถจาก 177 กม./ชม. เป็น 79 กม./ชม. รวมถึงให้สัมภาษณ์ว่าเตรียมออก พ.ร.บ.คำสั่งเรียกเชิญ พล.ต.อ.สมยศ มาให้ข้อมูล หากวันนี้ พล.ต.อ.สมยศ ไม่ยอมเดินทางมาชี้แจงต่อกรรมาธิการ

ข้อสงสัยดังกล่าว นายสิระ ชี้แจงว่าเนื่องจากมีการหารือกันในที่ประชุม แล้วทุกคนมีความเห็นตรงกันว่านอกจากบรรลุเป้าหมายแล้ว ยังเห็นว่าคดีนี้มีความสำคัญน้อยลง อีกทั้งยังมีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ชุดของ ศ.(พิเศษ) วิชา มหาคุณ ติดตามอย่างใกล้ชิด จึงนำมาสู่การลงมติเห็นชอบให้ยุติการตรวจสอบคดีบอส วรยุทธ และกรรมาธิการจะรอรวบรวมรายงานผลการตรวจสอบ ชุดของ ศ.พิเศษวิชา และตำรวจ เพื่อนำไปเสนอต่อสภาฯ และให้มีความเห็นเกี่ยวกับการปฎิรูปกระบวนการยุติธรรม พร้อมยืนยันว่า การยุติการตรวจสอบคดีบอส วรยุทธ เกิดขึ้นจากมติในที่ประชุม ไม่ได้เกิดจากการถูกกดดันจากใคร และยอมรับว่าที่ผ่านมาการเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล ก็ไม่รู้ว่าใครพูดความจริง และตอนนี้ก็ไม่ได้ติดใจในตัว พล.ต.อ.สมยศ แล้ว แต่ยอมรับว่า หาก พล.ต.อ.สมยศ มาจริง ก็ไม่รู้ว่าจะพูดความจริงหรือไม่ ซึ่งถือว่าเป็นการเสียเวลา

นอกจากนี้ นายสิระ ยังยอมรับว่าคดีนี้มีช่องโหว่หลายจุด ซึ่งหากนำมาสู้กันในศาล เชื่อว่า ทนายฝ่ายของบอส วรยุทธ น่าจะเป็นฝ่ายชนะคดี เพราะคดีนี้มีความซับซ้อน และไม่มีใครรู้ความจริง ว่าเป็นอย่างไร รู้เพียงว่ามีคนขับรถชนตำรวจตายเท่านั้น

ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมาธิการกฎหมายฯ วันนี้ให้สัมภาษณ์พิเศษทีมข่าวพีพีทีวี ว่า ได้เตรียมนำข้อมูลที่ปรากฏในเอกสารบันทึกการประชุมลับ ของคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯชุดของสภานิติบัญญัติ ที่รับเรื่องร้องขอความเป็นธรรมของบอส วรยุทธ ในวันที่ 16 ธ.ค. 2559 ก่อนที่กรรมาธิการชุดนี้จะส่งเรื่องต่อไปยังอัยการ

โดยพบว่า พล.ต.อ.สมยศ ซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมาธิการชุดนั้น เคยให้ข้อมูลต่อที่ประชุมในลักษณะที่คล้ายกับยอมรับว่ามีการหารือเรื่องความเร็วรถกับ พ.ต.อ.ธนสิทธิ  จนนำมาสู่การกลับความเร็วรถจาก 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 79 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีการพาอาจารย์จากมหาวิทยาลัย 2 แห่งไปพบ ก่อนที่ พ.ต.อ.ธนสิทธิ จะยอมรับว่าคำนวณความเร็วครั้งแรกผิดพลาด

ดังนั้นจึงอยากให้ พล.ต.อ.สมยศ ชี้แจงเรื่องนี้ให้กระจ่าง เพราะกรรมาธิการพร้อมให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย แต่ต้องยอมรับว่า ตอนนี้ข้อมูลที่ได้จาก พ.ต.อ.ธนสิทธิ มีน้ำหนักมากกว่า พล.ต.อ.สมยศ ที่พยายามหลีกเลี่ยงเข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการฯ

อีกหนึ่งประเด็นที่ นายรังสิมันต์ ตั้งข้อสังเกต คือข้อมูลที่ได้จาก พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก และ พ.ต.อ.วิรดล ทับทิมดี ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในเหตการณ์วันที่ 26 ก.พ. 2559 ระบุว่า มีลักษณะคล้ายกับกำลังปกป้องใครบางคนอยู่ เนื่องจากทั้งสองคนให้ข้อมูลในลักษณะที่พยายามบอกว่า รศ.สายประสิทธิ์ เดินทางไปพบ พ.ต.อ.ธนสิทธิ ในห้องของ พล.ต.อ.มนู เอง ซึ่งในความเป็นจริง ถือว่าเป็นเรื่องที่เชื่อได้ยาก

ข่าวจาก PPTVHD36

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: