ลูกสาวลุงอะแกวเผย 6ปีผ่านไปไม่มีแม้คำ “ขอโทษ” ถามหาสำนึกผิดจาก “เหมี่ยว-ท็อป”เอาไปล้อเลียนสนุกในม็อบ

จากเหตุการณ์ม้า อรนภา พิธีกรยุติการจัดรายการทางสถานีโทรทัศน์ หลังจากกระแสโซเชียลมีเดียต่อต้านหนัก กรณีที่ ‘ม้า อรนภา’ โพสต์ข้อความในเชิงดูถูกนักเรียนที่ออกมาชุมนุมเพื่อเรียกร้องสิทธิด้านการศึกษาในเชิงเหยียด จนถูกผู้ใช้ทวิตเตอร์หลายรายออกมากดดันทำให้เจ้าตัวต้องยุติบทบาทพิธีกรไป

ล่าสุดในทวิตเตอร์มีการขุดคลิปวิดีโอการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ปี 2557 ที่มีเหมี่ยว-ปวันรัตน์ นาคสุริยะ กับท็อป-ดารณีนุช โพธิปิติ พูดล้อเลียนเหตุยิงปะทะกันที่แยกหลักสี่ กรุงเทพมหานคร จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย เนื้อหาในคลิปที่เผยแพร่กันในขณะนี้ เป็นช่วงที่นักแสดงทั้ง 2 คนแสดงบทบาทสมมติรายงานข่าวประจำวัน ช่วงหนึ่งมีพูดถึงเหตุยิงกันด้วยความสะใจ แถมมีประโยคหนึ่งด้วยว่า “สะใจวะ…ยิงแม่งกระเจิงเลย” และ “เดี๋ยวก่อน…มันนึกว่ามันมีอาวุธฝ่ายเดียวหรือไงวะ?” เรียกเสียงเชียร์และเสียงนกหวีดจากผู้ร่วมชุมนุมได้เป็นอย่างดี

‘อะแกว แซ่ลิ้ว’ ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ยิงปะทะที่แยกหลักสี่

จากเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่ม กปปส. กับกลุ่มที่พยายามชิงหีบเลือกตั้งกลับคืนที่หลักสี่ เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2557 หลังเกิดเหตุเป็นเวลา 4 วัน มีคลิปภาพของกองกำลังติดอาวุธสงคราม มือปืนป๊อปคอร์น มือปืนถุงกีตาร์ ที่มีทั้งเสียงยกย่องว่าเป็นฮีโร่และเสียงประณาม พร้อมกับมีภาพชายชราคนหนึ่งถูกยิงนอนแน่นิ่งพร้อมกับชายคนหนึ่งนั่งอยู่ด้วย ซึ่งต่อมาสืบทราบว่า คือ ‘อะแกว แซ่ลิ้ว’ ชายวัย 72 ปี ตามรายงานของประชาไท เปิดเผยว่า ‘เอื้องฟ้า แซ่ลิ้ว’ บุตรสาวของอะแกว ยืนยันว่าพ่อของตัวเองไม่ใช่ กปปส. ไม่ใช่กลุ่มโกตี๋ และไม่ใช่กองกำลังลับฮุนเซน ตามที่หลากหลายกลุ่มในขณะนั้นกล่าวอ้าง แต่พ่อเป็นเพียงพ่อค้าขายน้ำ ที่ต้องการเลือกตั้ง 

หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ‘อะแกว’ ต้องกลายเป็นอัมพาต นอนรักษาตัวอยู่เป็นเวลากว่า 8 เดือน และเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 25 ก.ย. 2557 

ข่าวสดรายงาน จากเหตุการณ์นั้นจึงเกิดชื่อของ ‘มือปืนป๊อปคอร์น’ ที่ต่อมาจากการสอบสวนทราบว่า ชื่อ ‘วิวัฒน์ ยอดประสิทธิ์’ และศาลอาญาออกหมายจับเมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2557 ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และสามารถจับกุมวิวัฒน์ ได้ที่ อ.คีรีรัฐนิคม จ.สุราษฎร์ธานี ในวันที่ 19 มี.ค. 2557 โดยในวันต่อมา (20 มี.ค. 2557) พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทุ่งสองห้องควบคุมตัวมือปืนป๊อปคอร์น มาทำแผนประกอบคำรับสภาพ วิวัฒน์รับสารภาพว่า ได้เข้าร่วมเป็นการ์ด กปปส. ใน ‘กลุ่มองค์ดำ’ จากการเชิญชวนของเพื่อน โดยได้รับค่าจ้างวันละ 300 บาท ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุได้มาจากการ์ด กปปส. เวทีแจ้งวัฒนะ ก่อนที่ในวันก่อเหตุจะได้รับสัญญาณวิทยุสื่อสารจากการ์ดให้ออกมาช่วยพระพุทธะอิสระที่เกรงว่าจะถูกยึดพื้นที่ จึงไม่รู้ว่าใครเป็นผู้ว่าจ้าง โดยเขาได้ยิงปืนประมาณ 20 นัด

โดยจากกระแสดังกล่าว ทำให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์ผุดแฮชแท็ก #แบนเหมี่ยวปวันรัตน์ โดยบางคนแสดงความคิดเห็นว่า ดารานักแสดงที่มีชื่อเสียงแต่กลับไม่มีความเมตตาสงสาร มีแต่เสียงหัวเราะ และท่าทีสนุกสนานกับการพูดถึงเหตุปะทะที่มีผู้เสียชีวิต ไร้สามัญสำนึก และขอให้รายการข่าวใส่ไข่ ปลดเหมี่ยว-ปวันรัตน์ ออกจากการเป็นพิธีกรเป็นลำดับถัดไป เพราะสังคมไม่ควรหยิบยื่นโอกาสให้กับคนที่เอาความสูญเสียของคนอื่นมาล้อเล่นเป็นเรื่องสนุกอีกต่อไป

ทั้งนี้ อีกหนึ่งคนที่แสดงความคิดเห็นถึงคลิปแสดงความสะใจของ เหมี่ยว-ปวันรัตน์ กับ ท็อป-ดารณีนุช คือลูกสาวของลุงอะแกว ‘เอื้องฟ้า แซ่ลิ้ว’ ที่โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวระบุว่า เคสของม้า อรนภา นั้นถือว่าแค่หยาบคาย ส่วนที่น่ารังเกียจและควรปลดออกจากรายการโทรทัศน์ต่างๆ คือ เคสเหมี่ยว และท็อป เพราะนี่คือการเหยียดหยามความเป็นมนุษย์ แสดงถึงความสะใจในการใช้อาวุธเข่นฆ่าผู้เห็นต่างทางการเมือง สะใจที่พ่อถูกยิง ที่ทั้งสองคนพูดว่า “โครตสะใจ” นั้นไม่เคยลืม พ่อเป็นอัมพาตและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุการณ์ผ่านมาหลายปี ยังไม่เห็นสองคนนี้ออกมาแสดงความรับผิดชอบ หรือขอโทษอย่างสำนึกผิดแต่อย่างใด โดยย้ำอีกครั้งว่า “พฤติกรรมที่เกิดขึ้นของสองคนนี้ ต่ำช้า และน่ารังเกียจ 6 ปีผ่านไป ที่พ่อจากไป แม้แต่คำขอโทษ สำนึกผิดไม่มีสักนิด”