แม่ใจสลาย ลูกสาวจากบ้านมาเรียนได้2วัน ถูกรถไม่มีประกันชนโคม่า ค่ารักษาเกือบ3แสน





วันที่ 7 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นางพิลัยพร แสนศรีเชาว์พันธ์ อายุ 39 ปี ชาว ต.ป่ากลาง อ.ปัว จ.น่าน มารดาของ น.ส.อรจิรา แสนศรีเชาว์พันธ์ หรือ น้องอร อายุ 19 ปี ซึ่งมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ แต่ระหว่างมาอยู่ที่เชียงใหม่ได้เพียง 2 วัน ได้ประสบอุบัติเหตุรถชน เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.63 ที่ผ่านมา บริเวณถนนสายเชียงใหม่-พร้าว ซึ่งเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุได้มีรถยนต์เก๋งฟอร์ด สีดำ ชนรถจักรยานยนต์จนล้มลง แล้วถูกรถกระบะที่ขับตามมาอีกคันทับ จนเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลเทพปัญญา และถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลนครพิงค์

ขณะนี้ ค่ารักษาพยาบาลพุ่งสูงไปเกือบ 300,000 บาท และเจ้าตัวอาการยังโคม่า แม้จะรู้สึกตัวแต่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ในส่วนของคดีก็ยังไม่ได้มีการพูดคุยกับทางคู่กรณี ทำให้ญาติและผู้ปกครองต้องขอความเห็นใจ เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน จึงไม่รู้ว่าจะนำเงินที่ไหนมาเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษา

นางพิลัยพร มารดาของ น้องอร เปิดเผยว่า ขณะนี้อาการของลูกสาวยังโคม่า จากการสอบถามหมอบอกว่า ลูกสาวมีกระดูกหักและแตกหลายจุด ทั้งบริเวณต้นคอ สันหลัง รวมไปถึงช่วงล่างของน้องไม่รู้สึกอะไรเลย ตอนนี้น้องฟื้นแล้ว แต่ยังคงต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ และในส่วนของค่าใช้จ่ายก่อนหน้านี้ที่ได้เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเทพปัญญา ซึ่งขณะนั้นได้เข้ารักษาตัวแบบฉุกเฉิน 72 ชั่วโมง มีค่ารักษาและค่าใช้จ่ายประมาณ 200,000 กว่าบาท ซึ่งตนกับครอบครัวได้แจ้งกับทางโรงพยาบาลว่าฐานะยากจน ไม่สามารถหาเงินมาจ่ายค่ารักษาได้ทันที จึงมีการส่งตัวน้องเพื่อย้ายมาโรงพยาบาลของรัฐ และใช้สิทธิ์บัตรทอง แต่หมอก็แจ้งว่าอาจจะมีค่าส่วนต่างในการรักษา

ขณะที่คู่กรณีนั้น หลังเกิดเหตุวันแรกจนถึงตอนเช้า ไม่มีคู่กรณีมาเยี่ยมหาเลย จนต้องโทรหา ซึ่งในเรื่องของคดีใครผิดใครถูกก็ค่อยว่ากัน แต่อยากให้มาดูแลเยียวยาช่วยเหลือลูกสาวบ้าง

ล่าสุด เมื่อวานนี้ทางคู่กรณีที่ขับรถเก๋งได้มาเยี่ยม และได้นำอาหาร นม และขนมมาให้ ส่วนคู่กรณีที่เป็นรถกระบะนั้น ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 1,000 บาท

นางพิลัยพร กล่าวอีกว่า ปัจจุบันตนกับสามีมีอาชีพเพียงรับจ้างกรีดยางตามสวนยางใน จ.น่าน ทางบ้านยากจน มีลูกที่ต้องเลี้ยงดูหลายคน และแม่ตนทราบเรื่องที่หลานสาวประสบอุบัติเหตุ ทำให้ล้มป่วยเข้าโรงพยาบาลไปอีกคน ซึ่ง “น้องอร” นั้นเรียนจบ และมาเตรียมเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยในจังหวัดเชียงใหม่ แต่ยังไม่ทันที่จะได้เรียนก็กลับต้องมาประสบอุบัติเหตุเสียก่อน และที่ผ่านมาลูกสาวคนนี้ก็เป็นเสาหลักของบ้านในการช่วยเหลือครอบครัวแทบทุกอย่าง ขยันทำงาน แต่จากเหตุการณ์นี้อาจทำให้น้องต้องหมดอนาคต สูญเสียความฝันที่ตั้งใจไว้ เพราะโอกาสที่น้องจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมนั้นมีน้อยมาก เนื่องจากทางหมอวินิจฉัยว่าน้องมีอาการกระดูกสันหลังหัก และไปทับเส้นประสาท ช่วงล่างไม่สามารถขยับได้และไม่มีความรู้สึก ทำให้น้องมีความเสี่ยงที่อาจจะพิการได้ ขณะที่ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการรักษา ต่อจากนี้ก็ยังไม่ทราบว่าจะต้องเสียอีกเท่าไร และน้องก็ยังอยู่ในอาการโคม่า ซึ่งคาดว่าน่าจะมีค่าใช้จ่ายในการรักษาอีกหลายเท่าตัวหลังจากนี้และในอนาคตด้วย

 

 

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: