กนอ.จัดหนัก! ชูโปรผ่อนค่าจองเช่าที่ดิน ฟรีค่าเช่า3ปีแรก “นิคมฯสงขลา” ดึงลงทุนพื้นที่ชายแดน





10 มิ.ย.63 น.ส.สมจิณณ์ พิลึก ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า กนอ. มีมติเห็นชอบมาตรการส่งเสริมการจองเช่าที่ดินและการเช่าที่ดินในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสงขลา แบ่งเป็น 2 ช่วง โดยช่วงแรก ภายในวันที่ 31 ส.ค. 2563 ผู้สนใจจองเช่าที่ดินสามารถชำระค่าจองเช่าที่ดินเพียง 10,000 บาทต่อพื้นที่ไม่เกิน 10 ไร่ หรือชำระ 50% ของค่าจองเช่าที่ดินในอัตราปกติตามประกาศ กนอ. ในวันที่ทำสัญญาจองฯ (แล้วแต่อย่างใดอย่างหนึ่งที่ต่ำกว่า) ส่วนที่เหลือสามารถ แบ่งชำระได้ไม่เกิน 3 งวด ภายในระยะเวลา 1 ปีนับตั้งแต่วันที่ทำสัญญาจองโดยไม่มีดอกเบี้ย

สำหรับช่วงที่สอง ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2563-31 มี.ค. 2564 งวดแรกชำระ 50% ของค่าจองเช่าที่ดินในอัตราปกติตามประกาศ กนอ. ในวันที่ทำสัญญาจองฯ โดยส่วนที่เหลือสามารถแบ่งชำระได้ไม่เกิน 3 งวด ภายในระยะเวลา 1 ปี นับตั้งแต่วันทำสัญญาจองฯ โดยไม่มีดอกเบี้ย เพื่อช่วยเหลือนักลงทุนที่กำลังตัดสินใจมาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมที่อาจประสบปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบันและจูงใจให้ผู้ประกอบการ มาลงทุนหรือขยายการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม

ทั้งนี้ หากนักลงทุนสามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขดังกล่าวได้อย่างครบถ้วนจะได้รับมาตรการส่งเสริมการเช่าที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมสงขลาเพิ่มเติมโดยได้รับยกเว้นค่าเช่า 3 ปีแรก นับจากวันที่ทำสัญญาเช่าที่ดิน ได้รับส่วนลดค่าเช่าที่ดิน 25% ในปีที่ 4 ของค่าเช่าในปีนั้น และยกเว้นค่าบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวก เป็นระยะเวลา 3 ปี นับตั้งแต่วันที่ได้รับอนุญาตใช้ที่ดินเพื่อประกอบกิจการ หลักเกณฑ์ เงื่อนไขอื่นๆ จะเป็นไปตามที่ กนอ. กำหนด

ที่ผ่านมามีนักลงทุนจากประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ แสดงความสนใจเข้ามาลงทุนในพื้นที่หลายราย โดยจุดเด่นของนิคมอุตสาหกรรมสงขลา คือ มีจุดกระจายสินค้าหลายแห่ง เช่น ด่านศุลกากรสะเดา และท่าเรือน้ำลึกสงขลา ที่สามารถเชื่อมโยงการขนส่งสินค้าได้สะดวก ขณะเดียวกันที่นิคมอุตสาหกรรมสงขลายังเป็นศูนย์อุตสาหกรรมแปรรูปเพื่อการส่งออกและการขนส่งสินค้าต่อเนื่องหลายรูปแบบได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม กนอ. เตรียมแผนส่งเสริมการลงทุนเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจหลังจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 กำลังจะผ่านพ้นไป โดยเฉพาะในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน (Special Economic Zone : SEZ) พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมสงขลา อ.สะเดา จ.สงขลา ซึ่งถือเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการลงทุนสูง เนื่องจากมีที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ด้านชายแดนไทย-มาเลเซีย ระบบโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจร สามารถเชื่อมโยงกับระบบคมนาคมขนส่ง ทั้งท่าเรือ สนามบิน รถไฟ และยังอยู่ใกล้กับด่านศุลกากรทั้ง 2 แห่ง คือ ด่านสะเดา และด่านปาดังเบซาร์ ที่สำคัญอยู่ใกล้แหล่งอุตสาหกรรมพลังงานและธุรกิจพลังงานของภาคใต้ ที่สามารถรองรับการค้าบริเวณชายแดนได้

ข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: