“หมู่อาร์ม” สวน “บิ๊กแดง” ร้องเรียนสายตรงไป4ครั้ง เรื่องไม่คืบ หนำซ้ำย้อนกลับมาหน่วย สุดท้ายถูกขู่





เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน จากกรณี ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือ “หมู่อาร์ม” เสมียนงบประมาณแผนกโครงการและงบประมาณกองแผน โครงการศูนย์ซ่อมสร้างสิ่งอุปกรณ์ กรมสรรพาวุธทหารบก ร้องเรียนถูกผู้บังคับบัญชาข่มขู่ คุกคาม อันเนื่องมาจากออกมาเปิดเผยปัญหาทุจริตเบี้ยเลี้ยงภายในกรมสรรพาวุธทหารบก และมีการร้องเรียนไปในหลายครั้ง สุดท้ายต้องตัดสินใจหนีจากราชการทหารมาร้องเรียนต่อ กมธ.ป.ป.ช.สภาผู้แทนฯ ทั้งยังมีข่าวเบื้องต้นกองทัพเตรียมเอาผิดฐานหนีราชการทหาร

ต่อมา พล.อ.อภิรัชต์ คมสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า หมู่อาร์มไม่เคยร้องเรียนผ่านช่องทางสายตรง ทั้งนี้ ทหารบกมีสายบังคับบัญชาจึงต้องทำเรื่องสอบสวนผ่านหน่วยนั้น ขั้นตอนถัดมาผ่านจเรทหารบกแล้วจึงค่อยมายังตนเพื่อหาข้อเท็จจริง ผบ.ทบ.รับผิดชอบทุกเรื่องอยู่แล้ว แต่ผู้บัญชาการโดยตรงต้องรับผิดชอบด้วย ถ้าไม่ได้รับความเป็นธรรม หรือไม่ยอมรับผลสอบสวนก็ร้องเรียนได้ ซึ่งก็ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ถ้าพบว่ามีหลักฐานประพฤติมิชอบก็ต้องดำเนินการ

ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยัง ส.อ.ณรงค์ชัยเปิดเผยว่า ขอชี้แจงว่าตนเองร้องเรียนไปถึง 4 ครั้ง มีการบันทึกเป็นหลักฐานไว้ ทั้งการแคปหน้าจอช่วงเวลาการร้องเรียน หรือบันทึกหลักฐานการสนทนาที่พร้อมเปิดเผย โดยการร้องเรียนครั้งแรก วันที่ 13 มีนาคม 2563 ครั้งที่ 2 วันที่ 17 มีนาคม 2563 ครั้งที่ 3 วันที่ 19 มีนาคม 2563 และครั้งที่ 4 วันที่ 14 เมษายน 2563

ส.อ.ณรงค์ชัยเล่าว่า ได้โทรไปหาคอลเซ็นเตอร์ที่ ผบ.ทบ.เปิดช่องทางไว้ และทางคอลเซ็นเตอร์จะพิมพ์ตามที่ตนพูดร้องเรียน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือ แทนที่เรื่องราวจะถูกส่งต่อให้ ผบ.ทบ.พิจารณา หรือมีทีมสอบสวนจากส่วนกลางมาตรวจสอบ สุดท้ายเรื่องการร้องเรียนกลับถูกส่งมายังผู้บังคับบัญชาของหน่วยจนมีการข่มขู่ มีความพยายามปิดปาก ตนเองรู้สึกไม่ปลอดภัย

ส.อ.ณรงค์ชัยระบุอีกว่า ทั้งนี้ คลิปเหตุการณ์ที่ผู้บังคับบัญชาเปิด มีการแชร์ในโลกโซเชียล ที่จริงเป็นการขอขมา และคาดว่าจะมีการถ่ายทำจากทางผู้บังคับบัญชา และมีการตัดต่อเอาแต่ส่วนสั่งสอนมาออก เรื่องที่ตนร้องเรียน ชี้แจง ถูกตัดออกไป ยืนยันว่าตนเองร้องเรียนผ่านขั้นตอนของกองทัพและกลไกทางกฎหมายตลอดมา เคยไปร้องเรียนผู้ตรวจการแผ่นดินตั้งแต่วันที่ 5 กันยายน 2562 พอทางหน่วยทราบ ตนก็ถูกผู้บังคับบัญชากลั่นแกล้ง ผู้บังคับบัญชาพูดจาข่มขู่ กล่าวหาจะเอาผิดตนเองว่าท้าต่อยผู้บังคับบัญชา เมื่อรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงตัดสินใจหนีในปลายเดือนมีนาคม โดยการโทรศัพท์ร้องเรียนคอลเซ็นเตอร์ ผบ.ทบ.วันที่ 14 เมษายน 2563 ก็เป็นการร้องเรียนหลังจากหนีออกจากค่าย

“เท่าที่รู้มาจากเพื่อน ปัจจุบันก็ยังมีความพยายามในการคุกคามติดตามอยู่ ตอนนี้ผมไม่มีเงิน หลังจากนี้ก็จะมีปัญหาการถูกฟ้องร้องอีกมาก จึงรู้สึกประหลาดใจว่าไปร้องเรียน ป.ป.ช.ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม ในเรื่องการคุ้มครองพยาน ในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่เปิดเผยข้อมูลการทุจริต ซึ่งล่าสุดคณะสอบสวนของกองทัพ ยืนยันแล้วว่ามีมูล แต่ร้องขอขั้นตอนการคุ้มครองพยานก็ยังไม่คืบหน้า เราจะยอมให้ประเทศนี้ใช้มาตรฐานแบบนี้ไปตลอดหรือ?” ส.อ.ณรงค์ชัยกล่าว

วันเดียวกัน ส.อ.ณรงค์ชัย ยังโพสต์ข้อความ ระบายความในใจในเฟสบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า

“สาเหตุของจ่าจักรพันธ์ที่คลั่ง ก็เพราะผู้บังคับบัญชาเป็นเช่นนี้ ท่าน ผบ.ทบ. ท่านเคยถามความจริงจากผมหรือไม่ ก่อนที่ท่านจะพูดอะไรออกมา ท่านเพียงรับฟังมาจากรุ่นน้องท่าน หรือเพื่อนท่าน เท่านั้นเอง ผมมันแค่ผู้น้อยครับ ถ้าไม่มีประชาชนให้การสนับสนุนเสียงผมคงไม่ดัง ท่านมีอำนาจระดับ พลเอก ท่านยังให้ร้ายผมได้ขนาดนี้ แทนที่ท่านจะช่วยเหลือผม แต่กลับมาทำลายผม นี่แหละการไม่รับฟังความเดือดร้อนของนายทหารชั้นผู้น้อย ความอึดอัดของทหารหลายๆคน และนี่คือพลังประชาชนครับท่าน #ปฏิรูปกองทัพ #คุ้มครองพยาน #ภาษีประชาชนเพื่อประชาชนไม่ใช่คนของตน”

“ผมพร้อมแล้วครับท่าน ผบ.ทบ. รอหมายจับจากศาลทหารอยู่ ผมจะไปมอบตัวต่อสู้คดี จะได้ไม่ยืดเยื้อ ให้จบๆไปสักที ผมเองก็เป็นผู้เสียหายจากการถูกบังคับกดขี่ข่มเหง และละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยการเอาชื่อผมไปร่วมทุจริตด้วยเป็นเวลาหลายปีทั้งที่ผมไม่ได้ยินยอม หากไม่ยอมก็มีการกลั่นแกล้งทางวินัยตลอดมา ส่วนยศฐาบรรดาศักดิ์นั้นหากท่านอยากถอดยศผมมาก ผมคืนให้ท่านได้ครับ แล้วท่านคืนความยุติธรรมให้ผมได้หรือไม่…วันนี้ผมหนีทหารไม่มีเงินเดือนไม่มีงานไม่มีที่อยู่ แถมโดนดำเนินคดี ส่วนคนที่ทุจริตยังได้สวมใส่เครื่องแบบข้าราชการรับเงินเดือนจากภาษีประชาชน ได้เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง #นี่หรือการปฏิรูป #คุ้มครองพยาน

 

ข่าวจาก มติชนออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: