วันนี้( 21 พ.ค.63) พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ประชุมหารือในเวลา 11.00 น. โดยมีกำหนดประชุมเพื่อพิจารณาการประกาศใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินตาม ที่ได้มีประกาศในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และขยายเวลาประกาศบังคับใช้จะครบกำหนดวันที่ 31 พ.ค. โดยการพิจารณาของสมช. ยืนยันไม่ได้ใช้โพลเป็นตัวตัดสินแต่ใช้สถานการณ์โควิด-19 ด้านสาธารณสุขเป็นสำคัญ
ทั้งนี้เลขาสมช. ย้ำว่าสถานการณ์โควิด-19 ที่ดีขึ้นในวันนี้มีผลจากมาตรการต่างๆห้วงเดือนที่ผ่านมา ดังนั้นหากจะตัดสินใจทำอะไรเพื่อทำให้อนาคตดีขึ้นต้องดูสถานการณ์ดีหรือไม่ดีวันนี้เป็นตัวตัดสินและพิจารณาประกอบ เป็นหลักการสำคัญรวมถึงมาตรการผ่อนปรนระยะที่ 2 โดยดูหลายอย่างเป็นองค์ประกอบด้วยที่สำคัญต้องสอบถามข้อมูลและการประเมินโดนรวมจากสาธารณาสุขเป็นหลัก
อย่างไรก็ตามการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจวันนี้ จะพิจารณาแนวทางผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยพิจารณาขยาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หรือไม่เพราะจากการพูดคุยกับภาคธุรกิจเอกชนส่วนใหญ่ เห็นว่ารัฐบาลควรจะยกเลิกเพราะที่ผ่านมารัฐใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ก็แค่ในเรื่องของเคอร์ฟิวเท่านั้น เมื่อสถานการณ์คลี่คลายลงไปมากแล้วก็ควรจะเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และใช้เพียง พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อซึ่งน่าจะเพียงพอ
ส่วนกรณีกลุ่มธุรกิจร้านเหล้า ผับบาร์และสถานที่เที่ยวกลางคืนจะถูกปลดล็อกเป็นระยะสุดท้ายเพราะเป็นกิจการที่มีความเสี่ยงสูง ผู้ประกอบการธุรกิจกลางคืน สถานบันเทิงก็เข้าใจในสถานการณ์ดีว่าธุรกิจเหล่านี้เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19ได้ง่าย ที่ผ่านมาสถานบันเทิงเป็น 1 ในแหล่งแพร่กระจายเชื้อ ดังนั้นจึงน่าจะเปิดให้บริการได้เป็นกลุ่มสุดท้าย ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นกลางเดือนหรือสิ้นเดือน มิ.ย. พร้อมย้ำหากเปิดให้บริการแต่ยังไม่สามารถกลับมาเป็นสถานบันเทิงในรูปแบบเดิม คงต้องมีการปรับตัวและปรับร้านให้สอดคล้องกับมาตรการของรัฐด้วย
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ