แม่หน่อยควง “น้องจินนี่” ลุยมอบถุงยังชีพให้ชาวดอนเมือง





เมื่อวันที่ 26 เมษายน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) พร้อมน.ส.ยศสุดา ลีลาปัญญาเลิศ บุตรสาว นายการุณ โหสกุล ส.ส.กทม.พรรคพท. และคณะทำงาน มอบถุงยังชีพให้กับประชาชน ที่หมู่บ้านปิ่นเจริญ 4 เขตดอนเมือง กทม. โดยมีการสอบถามชีวิตความเป็นอยู่ การดำรงชีพ ปัญหาตกงาน และเรื่องเงินเยียวยาสถานการณ์โควิด-19

คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า ผู้มีอำนาจควรคิดถึงการเปิดเมืองอย่างปลอดภัยมากกว่าต่ออายุ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แม้ว่าโควิด -​19 จะยังอยู่กับสังคมไทยและสังคมโลก แต่บริบทความมั่นคงของชาติเปลี่ยนไป ที่ปัจจุบันต้องต่อสู้กับเชื้อโรค ผู้ทำหน้าที่สู้รบคือบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ใช่การทหารที่ต้องรบราฆ่าฟันกับศัตรู ดังนั้น การจะต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯหรือไม่ ต้องฟังแพทย์ไม่ใช่หน่วยงานความมั่นคง และมุ่งสร้างสมดุลระหว่างการควบคุมโรคกับการให้ธุรกิจดำเนินการได้ พร้อมเสนอ 5 ข้อสำหรับการเปิดเมือง คือ 1.Reopening แบบมีข้อบังคับด้านสาธารณสุข อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในจังหวัดที่ไม่มีผู้ป่วยและไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นกลุ่มแรก เมื่อเปิดเมืองต้องทำความสะอาดฆ่าเชื้อในที่สาธารณะและขนส่งสาธารณะสม่ำเสมอ 2.สนับสนุนทุกจังหวัดที่จะเปิดเมืองให้มีความสามารถในการตรวจหาเชื้อและนำตัวผู้ติดเชื้อมาเข้าระบบแยกตัวรวมทั้งเอ็กเรย์พื้นที่สม่ำเสมอ ไม่ให้มีการกลับมาระบาดใหม่ 3.ยังต้องเข้มงวดในการป้องกันผู้ติดเชื้อใหม่ไม่ให้เดินทางเข้าประเทศด้วยมาตรการ State Quarantine 14 วัน อย่างต่อเนื่อง 4.สนับสนุนงบประมาณให้โรงพยาบาลมีเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างเพียงพอ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือ หากมีการระบาดในรอบใหม่ และ 5.สำหรับประชาชนต้องปรับตัวให้เข้ากับปรากฎการณ์สิ่งใหม่ที่อาจะเกิดขึ้นโดยให้ความร่วมมือในการสวมหน้ากาก Social Distancing และรักษาสุขภาพอนามัย ขณะที่รัฐบาลต้องสนับสนุนให้ทำงานที่บ้าน หรือการเรียนออนไลน์ อีกสักระยะ

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวอีกว่า พรรคพท.ต้องการให้เปิดประชุมสภาฯ ซึ่งห้องประชุมใหญ่สร้างเสร็จแล้ว สามารถใช้มาตรการ Social distancing ได้ เพื่อจะได้นำปัญหาการเยียวยาและความเดือนร้อนของประชาชนเข้าพิจารณาร่วมกันทุกฝ่าย และพรรคพท. กังวลใจกับเงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท ที่ควรนำมาพิจารณาเปรียบเทียบกับการตัดงบประมาณปี 63-64 ที่ไม่จำเป็นออกมาใช้ จะได้ลดจำนวนเงินที่จะกู้ได้ เพราะจัดงบฯในช่วงที่ไม่มีวิกฤต แต่เมื่อมีวิกฤติที่เปรียบเหมือนไฟไหม้บ้าน หัวหน้าครอบครัวมีเงินจำนวนหนึ่งสามารถที่จะซื้อรถใหม่ แต่ไฟไหม้บ้านพอดี จึงต้องจัดลำดับความสำคัญการใช้เงิน

ด้านนางพรทิพย์ เขียนนุกูล ประธานชุมชน ระบุว่า ที่ผ่านมาชาวชุมชนเหลือตัวเองและดีใจที่มีพรรคการเมืองเข้าให้ความช่วยเหลือ เพราะยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐเลย ขณะที่ชาวชุมชนที่ลงทะเบียนรับเงินเยียวยาส่วนใหญ่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ จำนวนมากรอทบทวนสิทธิ์และยื่นอุทธรณ์ โดยหมู่บ้านมีทั้งหมด 451 ครัวเรือน ประชากรราว 15,000 คน ส่วนใหญ่ทำอาชีพค้าขาย ทั้งเสื้อผ้า สิ่งของอุปโภคและอาหารตามที่ต่างๆ รวมถึงในตลาดนัด ขณะที่โซน 2 ของหมู่บ้านกำลังจะมีการทำตลาดนัดออนไลน์ เพื่อให้ค้าขายได้ในช่วงนี้

อ่านเพิ่มเติม : https://www.matichon.co.th/politics/news_2158064

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: