เมื่อวันที่ 7 เมษายน น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.อนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 801 ล้านบาท เพื่อการบริหารจัดการหน้ากากอนามัยให้สอดคล้องกับมติที่ประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ ศบค. โดยจะให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการจัดซื้อหน้ากากอนามัยโดยตรงจากโรงงานผู้ผลิตตามกำลังผลิตที่มีอย่างเหมาะสม และการกระจายหน้ากากอนามัยให้บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นผู้จัดส่งหน้ากากอนามัยจากโรงงานผู้ผลิตไปให้กระทรวงมหาดไทย เพื่อกระจายต่อไปยังประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ตามความเหมาะสม โดยมีระยะเวลาดำเนินการเมษายน-ตุลาคม 2563 อย่างไรก็ตาม สำหรับตัวเลขกำลังการผลิตหน้ากากอนามัยในปัจจุบัน อยู่ที่ 2.3 ล้านชิ้นต่อวัน และคาดว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตได้เป็น 2.8 ล้านชิ้นต่อวัน ในเดือนพฤษภาคมนี้
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
รัฐบาล เชิญชวนปชช. ร่วมสัปดาห์ให้บริการฯ ‘เพื่อคนหางาน’ กว่า 1,000 อัตรา รอยู่
Advertisement 29 มีนาคม นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาล โดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน กำหนดจัดกิจกรรมการให้บริการใน “สัปดาห์การให้บริการประชาชน” รวม 9 วัน ภายในงานมีกิจกรรมการให้บริการรับสมัครงาน สัมภาษณ์งานกับบริษัทชั้นนำกว่า 20 บริษัท มีตำแหน่งงานว่างกว่า 1,000 อัตรา อาทิ ตำแหน่งผู้จัดการร้าน บัญชี การเงิน สินเชื่อ ช่างเทคนิค ธุรการ พนักงานขาย พนักงานบริการลูกค้า พนักงานรักษาความปลอดภัย แม่บ้าน บริการรับขึ้นทะเบียนและรายงานตัวผู้ประกันตนกรณีว่างงาน บริการแนะแนวอาชีพ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน นายคารม กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีการสาธิต และทดลองปฏิบัติอาชีพอิสระที่กำลังเป็นที่นิยมในวันเสาร์และวันอาทิตย์ วันละ 2 อาชีพ ได้แก่ งานไม้กระถางเป็นรูปหน้าสุนัขและแมว สร้อยข้อมือถักจากเชือกเทียน สานกระเป๋าจากเชือกพลาสติก สร้อยคอถักจากเชือกเทียน พวงมาลัยมะลิจากกระดาษทิชชู่ ตกแต่งกระเป๋ากระจูดด้วยไม้ประดิษฐ์ เทียนหอมแฟนซีจากต้นโสนหางไก่ บริการทดสอบความพร้อมทางอาชีพ รวมถึงบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ บริการรับสมัครงานเพื่อเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ โดยกรมการจัดหางานเป็นผู้จัดส่ง […]
admin111 admin111
29 March 2567เปิดสาเหตุ “รถไฟฟ้าสายสีเหลือง” ขัดข้อง ชาวบ้านพบน็อตร่วงหล่นจากราง
Advertisement เผยสาเหตุ รถไฟฟ้าสายสีเหลืองขัดข้อง ชาวบ้านได้ยินเสียงดังสนั่น พบชิ้นน็อต เศษพลาสติก ชิ้นส่วนต่าง ๆ ร่วงหล่นจากราง ด้านแอปฯ THE SKYTRAINs รายงาน เกิดจากกระแสไฟฟ้าขัดข้อง หลังจากที่มีรายงาน รถไฟฟ้ามหานคร สายสีเหลือง เกิดขัดข้อง และประกาศปิดให้บริการทุกสถานีเป็นเวลาชั่วคราว เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 28 มี.ค. 67 โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า เริ่มขัดข้องในเวลา 08.30 น. ก่อนที่จะประกาศปิดให้บริการเวลาประมาณ 08.52 น. จนต่อมาเวลา 10.00 น. พบรถไฟฟ้าสายสีเหลือง จอดนิ่งสงบกลางทาง ด้านล่างมีเจ้าหน้าที่คอยตามเก็บชิ้นส่วนที่ตกหล่นตลอดทาง เป็นระยะทางนับกิโลเมตรนั้น Advertisement ล่าสุด ผู้อยู่อาศัยใกล้เคียง เล่าว่า เมื่อเวลา 8:00 น ตนได้ยินเสียงระเบิดดังมากตลอดทาง แต่ไม่คิดว่าเป็นอันตรายอะไร จนต่อมาได้รู้จากคนขับรถผ่านไปมา บนเส้นทางบริเวณก่อนถึงศรีนครินทร์ 39 มุ่งหน้าซีคอน ศรีนครินทร์ ว่ามีชิ้นน็อต เศษพลาสติก และชิ้นส่วนต่าง ๆ […]
admin111 admin111
28 March 2567ประเทศที่มี “สมรสเท่าเทียม” คือที่ไหนบ้าง? ไทยเป็นชาติที่ 37 ของโลก
Advertisement 27 มี.ค. 2024 ถือเป็นวันสำคัญของประวัติศาสตร์ชาติไทย เมื่อสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมของกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศในที่สุด หลังมีการเรียกร้องและต่อสู้มานานหลายสิบปี ความเคลื่อนไหวที่จะยกระดับสิทธิมนุษยชนในบ้านเรานี้ ทำให้ประเทศไทยกลายเป็นชาติแรกของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) เป็นแห่งที่ 2 ของทวีปเอเชีย และแห่งที่ 37 ของโลก ที่จะมีกฎหมายสมรสเท่าเทียม ส่วนประเทศที่ผ่านร่างและบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวไปแล้วมีที่ไหนบ้างนั้น วันนี้ นิวมีเดีย พีพีทีวี รวบรวมมาให้แล้ว 1. เนเธอร์แลนด์ ประเทศแรกในโลกที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม โดยรัฐสภาผ่านร่างกฎหมายตั้งแต่เดือน ธ.ค. 2000 หรือมากกว่า 20 ปีก่อน และมีผลบังคับใช้ในเดือน เม.ย. ปีถัดมา ถือเป็นผู้บุกเบิกการตั้งกฎหมายสมรสเท่าเทียมขึ้นมา 2. เบลเยียม เพื่อนบ้านของเนเธอร์แลนด์ตามมาติด ๆ ในปี 2003 หลังมติในรัฐสภาได้รับคะแนนโหวตท่วมท้นเห็นชอบผ่านร่างกฎหมาย และบังคับใช้ในปีเดียวกันนั้น โดยให้สิทธิเทียบเท่าคู๋รักเพศตรงข้ามทุกประการ 3. สเปน การผลักดันให้มีกฎหมายสมรสเท่าเทียมเริ่มขึ้นในปี 2004 จนปีถัดมารัฐสภาของได้ผ่านร่างกฎหมายในปลายเดือน มิ.ย. 2005 แลมีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการในต้นเดือน ก.ค. 4. แคนาดา […]
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ