ยอดติดโควิดทั่วโลกทะลุล้าน! สิงคโปร์อนุมัติมาตรการ “ห้ามออกจากบ้านทั่วประเทศ”





ในช่วงค่ำวันที่ 2  เม.ย.2563 เว็บไซต์ World Meters รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วโลก ว่า ปัจจุบันมียอดรวมทั้งสิ้น 1,013,028 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่  77,832 ราย มีผู้เสียชีวิต 52,975 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 5,783 ศพ

โดยมีรายงานล่าสุดจากสำนักข่าว Channel News Asia ของสิงคโปร์ว่า เมื่อเวลา 15.00น. นายลี เซียน ลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ได้ออกมาแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊กถึงสถานการณ์โรคโควิด 19 ว่ารัฐบาลว่าที่ผ่านมานั้นประเทศสิงคโปร์มีมาตรการรับมือกับสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 ที่เหมาะสมอยู่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม จะมีการเพิ่มมาตรการที่เข้มข้นมากขึ้นเพื่อแก้ไขสถานการณ์ต่อไป โดยขอยืนยันว่าตอนนี้อาหารนั้นมีเพียงพอสำหรับประชาชนในประเทศสิงคโปร์และไม่มีความจำเป็นต้องกักตุนแต่อย่างใด

นายลีกล่าวต่อไปว่ามาตรการที่เข้าข้นขึ้นนั้นจะเป็นการห้ามการรวมกลุ่มของผู้คนจำนวนมาก และหลีกเลี่ยงการไปเยี่ยมญาติที่ไม่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกัน โดยเฉพาะการงดเว้นการเยี่ยมคนแก่ และในส่วนของการออกไปข้างนอกนั้นรัฐบาลจะอนุญาตได้เฉพาะเรื่องสำคัญเช่นการออกไปทำงานที่มีความสำคัญกับภาคบริการหรือภาคเศรษฐกิจของประเทศ หรือการไปซื้ออาหาร หรือการออกไปออกกำลังกายในย่านที่ตัวเองอยู่อาศัยเท่านั้น

นายลีกล่าวว่ามาตรการที่ว่ามานั้นจะมีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยระหว่างนั้นสถานที่สำคัญเช่นโรงพยาบาล สถานีคมนาคม ตลาด ร้านขายอาหารจะยังคงเปิดทำการอยู่ ส่วนโรงเรียนในชั้นอนุบาลนั้นจะปิดทำการเรียนการสอน และจะให้มีการเรียนการสอนทางไกลในระดับชั้นเรียนที่สูงขึ้นจากที่บ้านแทน

ทั้งนี้สำหรับสถานการณ์การระบาดในประเทศสิงคโปร์นั้นตอนนี้มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 1,049 ราย และเสียชีวิตรวมแล้วทั้งสิ้น 5 ศพ

สำหรับสถานการณ์ในประเทศอื่นๆนั้น ประเทศที่มีผู้ติดเชื้ออันดับ 1 ยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 243,298 ราย ผู้ติดเชื้อใหม่ 28,295ราย ผู้เสียชีวิต 5,883 ศพ ผู้เสียชีวิตรายใหม่ 781 ศพ ทำให้สหรัฐฯ กลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสม และผู้ติดเชื้อรายวันสูงที่สุดในโลก

ขณะที่ในช่วงเวลา 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาที่มีการระบาดครั้งใหญ่ในสหรัฐฯ มีผู้ตกงานไปแล้วจำนวนมากกว่า 10 ล้านราย

ที่ทำเนียบขาว นางเดบราห์ เบิร์กซ์ เจ้าหน้ารับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในฐานะเจ้าหน้าที่ประสานงานหน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่อต้านโรคติดต่อ กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังหารือกันว่าจะออกแนวทางให้ชาวอเมริกันใส่หน้ากากทุกคนเพื่อป้องกันการติดต่อหรือไม่ แต่มีความเป็นกังวลว่าถ้าหากอนุญาตให้ใส่หน้ากากด้วยความเข้าใจผิดว่าแค่หน้ากากเพียงพอแล้ว อาจจะส่งผลทำให้มีคนติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาอีกได้ เพราะมาตรการการป้องกันที่สำคัญยิ่งกว่าการใส่หน้ากาก คือ การเว้นระยะห่างทางสังคม อยู่ห่างกันเกิน 2 เมตร และล้างมืออย่างสม่ำเสมอ ซึ่งการใส่หน้ากากจึงไม่ได้อยู่ในมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่รัฐบาลออกมาขณะนี้  

แต่อย่างไรก็ดี ขณะนี้ที่รัฐนิวยอร์กและลอส แองเจลิส มีการออกมาตรการบังคับให้ผู้ที่ออกนอกเคหสถานต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา 

 

ส่วนสถานการณ์ทั่วไปในประเทศสหรัฐอเมริกานั้น รัฐนิวยอร์กยังคงเป็นรัฐที่มีผู้ป่วยสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา โดยมีผู้ป่วยเป็นจำนวนทั้งสิ้น 92,381 ราย  มีผู้เสียชีวิต 2,468 ศพ

ทั้งนี้ มีรายงานเพิ่มเติมว่า ในรัฐนิวยอร์ก เนื่องจากสถานการณ์เครื่องช่วยหายใจที่มีไม่เพียงพอ ดังนั้น นายแพทย์ที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จะต้องเลือกว่าจะให้ใครใช้เครื่องช่วยหายใจก่อน  

ขณะที่ นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก ได้ออกมายอมรับว่า ขณะนี้จำนวนเครื่องช่วยหายใจมีเพียงพอ ในรัฐนิวยอร์กใช้ได้แค่ 6 วันเท่านั้น  

นอกจากนี้ยังมีรายงานการขาดแคลนยาแก้ปวดซึ่งมีฤทธิ์เป็นยาเสพติดที่มีความจำเป็นต้องใช้ในหมู่ผู้ป่วยโรคโควิด 19 ที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ  ซึ่งทางด้านนายแพทย์ที่ทำหน้าที่รักษาผู้ป่วยได้ส่งจดหมายเรียกร้องไปยังรัฐบาลกลางสหรัฐฯเพื่อให้ยกเลิกจำนวนขั้นต่ำที่บริษัทยาจะสามารถผลิตได้ เพื่อจะรับมือความต้องการในการใช้ยาแก้ปวดเพื่อรักษาผู้ป่วยโรคโควิด 19 ต่อไป 

และมีรายงานข่าวว่า กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯได้ออกคำสั่งปลดนาวาเอกเบรท โครซิเออร์ ผู้บังคับการเรือบรรทุกเครื่องบิน ธีโอดอร์ รูสเวลท์ เนื่องจากนาวาเอกเบรทออกมาให้ร้ายกองทัพเรือและรัฐบาลว่าทำหน้าที่ไม่เพียงพอในการควบคุมสถานการณ์ผู้ติดเชื้อบนเรือธีโอดอร์ที่ขณะนี้ทอดสมออยู่ที่เกาะกวมเพื่อกักกันโรค

แต่เลขาธิการของทัพเรือสหรัฐฯ ออกมายืนยันว่าข้อกล่าวหาของนาวาเอกเบรทนั้น ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด  

ส่วนสถานการณ์ในประเทศอื่นๆนั้น ที่อิตาลี มีรายงานยอดผู้ติดเชื้อสะสมทั้งสิ้น 115,242 ราย เป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 4,668ราย มีผู้เสียชีวิต 13,915 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 760  ศพ จึงทำให้อิตาลี ยังคงมีผู้เสียชีวิตสะสม จากโคโรน่าไวรัสสูงเป็นอันดับ 1 ของโลก

แต่ตัวเลขผู้ติดเชื้อของอิตาลีเริ่มจะอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น จากเมื่อวันที่ 1 เม.ย. ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มใหม่ 4,782 ราย

ส่วนที่สเปน มีรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อสะสม 112,065 ราย ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7,947 ราย ผู้เสียชีวิตสะสม 10,348 ศพ และผู้เสียชีวิตรายใหม่ 961 ศพ จึงทำให้สเปนเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตรายวันสูงที่สุดในโลก

ที่เยอรมนีมีผู้ติดเชื้อสะสม 84,794ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 6,813ราย มีผู้เสียชีวิต 1,107 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 176 ศพ  จึงทำให้ขณะนี้เยอรมนีมีผู้ติดเชื้อสะสมมากกว่าประเทศจีนที่มีผู้ติดเชื้อสะสมอยู่ทั้งสิ้น 81,589 ราย

สำหรับสถานการณ์ในฝรั่งเศส มีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 59,105 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2,116ราย มีผู้เสียชีวิต 5,387 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 1,355 ศพ

ขณะที่อังกฤษนั้นมีรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 33,718 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,244ราย มีผู้เสียชีวิต2,921ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 569 ศพ และมีรายงานข่าวจากทางกระทรวงสาธารณสุขอังกฤษออกมาว่า ณ ตอนนี้ได้ตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าภายในสิ้นเดือน เม.ย.นี้ อังกฤษจะต้องตรวจผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงสำหรับการติดโรคให้ได้ 100,000 รายต่อวัน 

ส่วนที่รัสเซียนั้นมีการออกมาตรการปิดเมืองออกไปจนถึงวันที่ 1 พ.ค. และขยายเวลาสำหรัยมาตรการหยุดงานแต่ยังให้เงินเดือนแก่ผู้ใช้แรงงานไปจนถึงวันที่ 30 เม.ย. 

โดยสถานการณ์ของประเทศรัสเซียนั้นขณะนี้มีผู้ติดเชื้อสะสม 3,548 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 771 ราย มีผู้เสียชีวิต 30 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 6 ศพ

สำหรับความเคลื่อนไหวของธนาคารโลก ได้มีการอนุมัติเงินช่วยเหลือ 1.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (62,567,000,000 บาท) เพื่อช่วยเหลือ 25 ประเทศที่ต้องรับมือกับการระบาดของโคโรน่าไวรัส โดยจะเริ่มจากอินเดียที่ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อสะสม 2,543ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 545 ราย มีผู้เสียชีวิต 72 ศพ เป็นผู้เสียชีวิตรายใหม่ 14 ศพ

ข่าวจาก สำนักข่าวอิศรา

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: