สำนักงบประมาณเตรียมแจ้ง ครม.รับทราบ “งบกลาง9.6หมื่นล้านหมดแล้ว” หลังใช้แก้ภัยแล้ง-โควิด เตรียมเสนอรัฐบาลออก พ.ร.บ.โอนงบ





สำนักงบประมาณเตรียมแจ้ง ครม.รับทราบงบกลาง 9.6 หมื่นล้านหมด หลังใช้แก้วิกฤติแล้ง-โควิดจำนวนมาก ชี้ งบปี 2563 วงเงิน 3.2ล้านล้าน มีแผนใช้จ่ายหมดแล้ว เสนอรัฐบาลออก พ.ร.บ.โอนเงินงบประมาณปรับการใช้เงิน

30 มี.ค.63 นายเดชาภิวัฒน์ ณ สงขลา ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 31 มี.ค.นี้ จะรายงานสถานการณ์งบประมาณปี 2563  หลังจากงบกลางรายการสำรองจ่ายกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นปี 2563 ขณะนี้มีรายจ่ายที่ผูกพันไว้ใกล้ครบ 96,000 ล้านบาทแล้ว หากรัฐบาลไม่ตัดสินใจใดอาจไม่มีงบใช้จ่ายในมาตรการใหม่เพื่อแก้ภัยแล้งและโควิด-19

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ครม.อนุมัติงบกลางเป็นระยะ โดยได้อนุมัติงบกลางช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และภัยแล้ง 18,000 ล้านบาท และงบอีกส่วน  45,000 ล้านบาท เพื่อแจกประชาชนคนละ 5,000 บาท รวม 3 เดือน เป็นเงินคนละ 15,000 บาท และยังมีเงินสนับสนุนเพื่อชดเชยดอกเบี้ยให้ผู้ซื้อบ้านธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) 2,000 ล้านบาท

สำหรับการแก้ไขกรณีดังกล่าวมี 2 แนวทาง คือ 1.กระทรวงการคลังออก พ.ร.ก.กู้เงิน แต่มีหลายประเด็นต้องตีความ เช่น รัฐธรรมนูญ 2560 ให้อำนาจรัฐบาลออก พ.ร.ก.กู้เงินได้หรือไม่ โดยมาตรการ 140 กำหนดว่า การออก พ.ร.ก.กู้เงินจะทำได้เฉพาะรายจ่ายที่อนุญาตตามงบประมาณเท่านั้น ซึ่งหมายความว่าไม่สามารถทำได้เพราะเป็นรายจ่ายฉุกเฉิน

ขณะที่มาตรา 172 ของรัฐธรรมนูญ ระบุว่า ดำเนินการได้ทันทีกรณีที่เหตุฉุกเฉินหรือจำเป็น ซึ่งเรื่องนี้อาจใช้เวลาพิจารณานาน เพราะต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ

2.สำนักงบประมาณมีแผนสำรอง โดยขอให้ ครม.เสนอออกกฎหมาย พ.ร.บ.โอนเงินงบประมาณจากส่วนราชการที่ไม่ได้ใช้ หรือใช้ไม่ทันมาไว้ที่งบกลาง ซึ่งปีที่ผ่านมาสำนักงบประมาณเสนอรัฐบาลชุดแล้วใช้วิธีการนี้ เพราะทำได้รวดเร็วจึงขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ ครม.ว่า จะเลือกแผนใดเพื่อเติมงบกลาง

ส่วนมติ ครม.วันที่ 10 มี.ค.2563 คำสั่งให้ส่วนราชการบริหารงบประมาณกรณีที่ไม่ได้ใช้จ่ายและให้ตัดออกเพราะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 เช่น งดเดินทางประชุมในต่างประเทศ โดยขอตัดงบ 10% และย้ายงบมาที่งบกลาง แต่ขณะนี้ยังไม่มีส่วนราชการใดระบุว่าได้ตัดงบบริหารได้แม้แต่หน่วยงานเดียว

ข่าวจาก กรุงเทพธุรกิจ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: