10 มี.ค.63 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติมาตรการด้านการงบประมาณเพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธ์ใหม่ หรือโควิด-19 (COVID 19) และสถานการณ์ภัยแล้ง ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ โดยให้ทุกส่วนราชการพิจารณาปรับลดงบประมาณ ปรับเปลี่ยนวิธีดำเนินงาน ให้ได้ประมาณ 10% ของงบประมาณรายจ่ายประจำ เพื่อไปดำเนินการที่ก่อให้เกิดการจัดซื้อจัดจ้างจากผู้ประกอบการ ผู้ผลิตรายย่อย การจ้างแรงงาน ระยะสั้น
รวมทั้งให้พิจารณาปรับแผนการเดินทางไปราชการต่างประเทศ ที่ตั้งไว้สำหรับศึกษาดูงาน ประชุม สัมมนา อบรม ณ ต่างประเทศให้นำ มาดำเนินการภายในประเทศที่ก่อให้เกิดการจัดซื้อจัดจ้างจากผู้ประกอบการ ผู้ผลิตรายย่อย การจ้างแรงงาน กรณีการเดินทางไปยังประเทศกลุ่มเสี่ยง ที่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หากสามารถระงับ เลื่อนการเดินทางได้ ให้หน่วยรับงบประมาณพิจารณาดำเนินการด้วย
การปรับลดงบประมาณรายจ่ายประจำ 10% จะทำให้มีวงเงินที่นำมาแก้ปัญหาได้ราว 2 แสนล้านบาท จากวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำในปี 2563 จำนวน 2.39 ล้านล้านบาท
นอกจากนี้ครม.ยังมีมติให้ปรับลดงบลงทุนในส่วนของค่าครุภัณฑ์ที่มีวงเงินต่ำกว่า 1 ล้านบาท หรือสิ่งก่อสร้างที่มีวงเงินต่ำกว่า 10 ล้านบาท ที่แน่ชัดว่าไม่สามารถจัดซื้อจัดจ้างได้ภายในเดือนมีนาคม 2563 โดยให้หน่วยรับงบประมาณพิจารณาโอน เปลี่ยนแปลงเงินจัดสรรไปดาเนินการจัดหาครุภัณฑ์ สิ่งก่อสร้างอย่างอื่น ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019หรือสถานการณ์ภัยแล้ง
ขณะเดียวกันให้พิจารณาทบทวนมาดำเนินการจัดหาครุภัณฑ์จากผู้ผลิตภายในประเทศเว้นแต่กรณีที่มีความจาเป็นอย่างแท้จริง
ครม.ยังเห็นชอบให้ชะลอการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นที่ส่วนราชการได้รับอนุมัติไปก่อนหน้านี้แต่ยังไม่ได้รับการจัดสรรจากสำนักงบประมาณ หรือกรณีที่ได้รัยบการจัดสรรแล้วแต่ไม่สามารถดำเนินการก่อหนี้ผูกพัน บันทึกใบสั่งซื้อ (PO) ได้ทันภายในวันที่ 10 มี ค 63 เห็นสมควรให้ยกเลิกโครงการรายการและแจ้งสำนักงบประมาณภายในวันที่ 13 มี.ค.63
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ