สำนักปลัดนายกฯ แจงเงินบริจาคแก้ปัญหาโควิด-19 นำไปซื้ออุปกรณ์-เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ ไม่ได้แจกปชช.





นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาจากการระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 และการแก้ไขปัญหาบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นทางเศรษฐกิจอย่างเป็นระบบในภาพรวม โดยเฉพาะเกี่ยวกับการป้องกันการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 รัฐบาลมีนโยบายและแนวทางการแก้ไขปัญหา ดังนี้

  1. นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้ทุกส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดเตรียมมาตรการและแนวทางต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาไว้ล่วงหน้าอย่างเป็นระบบตั้งแต่ก่อนการระบาดช่วงแรก ทำให้สถานการณ์การระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทยไม่สูงมากเหมือนหลายประเทศในปัจจุบัน
  2. การจัดเตรียมแผนงานและงบประมาณด้านการสาธารณสุข คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา เห็นชอบจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับกระทรวงสาธารณสุข เป็นเงิน 1,233.27 ล้านบาทเพื่อนำไปใช้เตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด-19 ระยะระบาดในวงจำกัด (ระยะที่ 2) และจัดสรรให้กระทรวงมหาดไทย จำนวน 225 ล้านบาท เป็นค่าวัสดุอุปกรณ์ในการจัดทำหน้ากากอนามัยไว้ใช้ป้องกันตัวเองในโครงการพลังคนไทยร่วมใจป้องกันไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับอุดหนุนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวน 7,774 แห่ง ทั้งเทศบาลและองค์การบริหารส่วนตำบลทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถผลิตหน้ากากอนามัยไว้ใช้ป้องกันโรคด้วยตัวเองและเป็นการสร้างอาชีพเสริมในอนาคตได้
  3. การรับบริจาคเงินที่คณะรัฐมนตรีมีความประสงค์จะสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เตรียมการเปิดบัญชีเพื่อรับเงินบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จากคณะรัฐมนตรี โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อช่วยเหลือสนับสนุน อุปกรณ์ เวชภัณฑ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น รวมไปถึงการสนับสนุนการปฏิบัติงานพิเศษของเจ้าหน้าที่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ทำงานอย่างหนักในการป้องกันการแพร่ระบาด และรักษาผู้ป่วยโรคดังกล่าว ซึ่งเงินส่วนนี้ จะสนับสนุนในส่วนที่เบิกจ่ายจากทางราชการไม่ได้หรือถ้าใช้ระบบปกติอาจไม่ทันสถานการณ์ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายสำหรับดูแลคนที่อาจป่วยเป็นโรคดังกล่าว โดยที่ไม่มีส่วนเกี่ยวกับการเดินทางไปหรือกลับจากต่างประเทศ และที่ไม่ได้อยู่ในหลักเกณฑ์ที่ทางราชการจะจ่ายให้ได้ ซึ่งไม่ใช่นำเงินบริจาคไปใช้ดูแลแรงงานไทยที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายและที่เพิ่งเดินทางกลับ แต่อย่างใด และจะไม่ได้นำไปแจกให้ประชาชนทั่วไปตามที่เป็นข่าวด้วย ซึ่งหากมีผู้ประสงค์จะสนับสนุนเพิ่มเติมในระยะต่อไปก็สามารถใช้ช่องทางนี้ได้ด้วย ขณะนี้อยู่ในระหว่างเตรียมการ ยังไม่เปิดรับการบริจาคทั่วไป

สำหรับเรื่องแนวทางการบรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจที่มีข่าวออกมานั้น เป็นเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องการรับบริจาค ซึ่งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับมาตรการทางเศรษฐกิจนั้น ต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีก่อน

ช่วงนี้มีข่าวหลายประเด็นออกมาในช่วงเวลาเดียวกัน ดังนั้น จึงขอความร่วมมือสื่อมวลชน

ข่าวจาก มติชนออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: