ทรัมป์ทุ่มเงิน7.9หมื่นล้านบาท สู้โควิด-19 กว้านซื้อหน้ากากอนามัยกว่า500ล้านชิ้น
ทั่วไป, บทความทั่วไป




ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเตรียมตั้งกองทุนเพื่อสู้กับไวรัสระบาดครั้งนี้ด้วยงบประมาณสูงถึง 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 7.9 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาพัฒนาวัคซีน เป็นทุนเพื่อมาตรการกักกันโรค และจัดหาอุปกรณ์การแพทย์ที่จะทำให้ประชาชนปลอดภัยได้อย่างเพียงพอ หนึ่งในนั้นก็คือ หน้ากากอนามัย

โดยรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข Alex M. Azar II (อดีตผู้บริหารบริษัทผลิตยา) กล่าวว่า ขณะนี้ สหรัฐฯ มีหน้ากากอนามัย แบบ N95 อยู่ในมือราว 30 ล้านชิ้น รัฐบาลยังต้องการหน้ากากอนามัยอีกกว่า 300 ล้านชิ้นเพื่อบุคลากรทางการแพทย์ หรือคนทำงานที่เกี่ยวข้องกับด้านสาธารณสุขจะสามารถนำมาใช้งานขณะปฏิบัติงานได้

โดย Alex M. Azar II รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข สหรัฐอเมริกา เพิ่งจะแถลงเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี่เอง เขาออกมาแถลงเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ว่าขณะนี้สถานการณ์ไวรัส SARS-CoV-2 ในปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง และเล่าว่าคนอเมริกันติดเชื้อนี้มาจากสาเหตุที่เดินทางไปจีน ใกล้ชิดกับนักท่องเที่ยวจีน รวมถึงมาจากผู้โดยสารชาวอเมริกันที่ติดเชื้อจากบนเรือ Diamond Princess ด้วย

 

ปัจจุบัน รัฐบาลได้พยายามจำกัดการเดินทางที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ รวมทั้งเตรียมขอให้สภาคองเกรสตั้งกองทุนมูลค่า 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 7.9 หมื่นล้านบาทเพื่อเตรียมพร้อมและรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยห้าเรื่องหลักๆ ที่รัฐบาลกำลังให้ความสำคัญคือ

ประการแรก เราจำเป็นต้องขยายการสอดส่องดูแล และสร้างระบบดังกล่าวนี้ภายใต้การดูแลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC: Centers for Disease Control and Prevention)

ประการที่สอง เราต้องการเงินทุนสนับสนุนการเตรียมพร้อมและการรับมือด้านสาธารณสุขทั้งในระดับรัฐและระดับท้องถิ่น ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่ใหญ่มาก

ประการที่สาม เราต้องการความสนับสนุนเพื่อการรักษาโรค

ประการที่สี่ เราต้องการความสนับสนุนเพื่อจะพัฒนาวัคซีนที่สามารถรักษาโรคโควิดได้

ประการที่ห้า เราต้องการเงินทุนเพื่อซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อป้องกันโรคโควิด

Donald J. Trump ✔@realDonaldTrump
 

The Coronavirus is very much under control in the USA. We are in contact with everyone and all relevant countries. CDC & World Health have been working hard and very smart. Stock Market starting to look very good to me!

138K
Twitter Ads info and privacy
54.7K people are talking about this
 
 

*หมายเหตุ*

รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐฯ เรียกไวรัสที่ทำให้เกิดโรคโควิด-19 ว่า China coronavirus (ซึ่งองค์การอนามัยโลก: WHO เคยประกาศแล้วว่าไวรัสชื่อ SARS-CoV-2 และโรคที่เกิดจากไวรัสนี้คือ โรค COVID-19 ซึ่ง WHO เคยบอกว่าจะไม่ตั้งชื่อไวรัสโดยระบุพื้นที่ เหมือนที่ก่อนหน้านี้ เคยมีชื่อลำลองเรียกชื่อไวรัส+สถานที่อยู่บ่อยครั้ง รวมถึงล่าสุดที่บรรดาสื่อมวลชนเรียกว่า Wuhan virus/ ไวรัสอู่ฮั่น)

ที่มา – Quartz (1), (2), Newsweek, Doucumentcloud, HHS, brandinside.asia

Tag ที่เกี่ยวข้อง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ

เรื่องที่คุณอาจสนใจ

แจก 3,000 บาทให้ลูกหลานที่เลี้ยงคนแก่ เริ่มจ่าย พ.ค. 67

Advertisement จากกรณีที่มีการประกาศระเบียบกรมกิจการผู้สูงอายุ ว่าด้วยการคุ้มครองผู้สูงอายุแบบครอบครัวอุปถัมป์ พ.ศ. 2566 โดยมีการจำกัดความ ครอบครัวอุปถัมป์ไว้ว่า เป็นบุคคลหรือครอบครัวที่ได้รับอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี ให้เป็นครอบครัวอุปถัมป์ผู้สูงอายุที่มีฐานะยากจน และไม่มีผู้ดูแลหรือมี แต่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้ สำหรับระเบียบการคุ้มครองครอบครัวอุปถัมป์ผู้สูงอายุ มีรายละเอียดดังนี้ เงื่อนไขการขอคุ้มครอง การขอคุ้มครองสามารถขอได้เพียงคราวละ 1 คน หากจะรับมากกว่านั้น ให้ระบุเหตุผลและความจำเป็นที่จะต้องรับผู้สูงอายุไว้คุ้มครองดูแลมากกว่า 1 คน คุณสมบัติการขอเป็นครอบครัวอุปถัมป์ มีดังนี้ 1. มีสัญชาติไทย 2. มีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์ หรือถ้ามีอายุต่ำกว่า 18 ปี แต่มีความพร้อมในการดูแลผู้สูงอายุ อาจได้รับการอนุมัติเป็นราย ๆ ไป 3. มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง และอยู่ในอาณาบริเวณเดียวกับผู้สูงอายุ 4. ได้รับความยินยอมจากสมาชิกทุกคนในครอบครัวว่า มีความพร้อมในการคุ้มครองผู้สูงอายยุ 5. ไม่เป็นผู้ต้องหากระทำผิดอาญา และอยู่ระหว่างการสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรืออยู่ระหว่างการพิจารณาคดีของศาล สถานที่การยื่นขอเป็นครอบครัวอุปถัมป์ 1. กรุงเทพฯ ให้ยื่นที่กรมกิจการผู้สูงอายุหรือศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบางแค หรือหน่วยงานที่อธิบดีประกาศกำหนด 2. จังหวัดอื่น ยื่นคำขอได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด […]

admin111 admin111

17 April 2567

กระทรวงแรงงานจัดงบ 80 ล้าน ตั้งกองทุนปล่อยกู้ให้ผู้ใช้แรงงาน-ลูกจ้าง

Advertisement นายภูมิพัฒน์ เหมือนจันทร์ โฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานจัดเตรียมงบประมาณกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน 80 ล้านบาท เพื่อเป็นเงินทุนให้ผู้ใช้แรงงานหรือลูกจ้างได้กู้ยืม มีรายได้หรือใช้ปลดเปลื้องหนี้สินจากการกู้ยืมเงินนอกระบบ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่สามารถหาหลักทรัพย์ค้ำประกันการกู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์ทั่วไปได้ ภายใต้โครงการเงินกู้กองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน Micro Finance ลดหนี้ เติมทุน สร้างสุขแรงงาน เป็นไปตามนโยบายของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ต้องการดูแลผู้ใช้แรงงานและครอบครัวให้มีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและมีคุณภาพชีวิตที่ดี สำหรับผู้ใช้แรงงานหรือลูกจ้างที่ประสงค์จะขอกู้ให้ติดต่อที่สหกรณ์ออมทรัพย์หรือเครดิตยูเนี่ยนในสถานประกอบกิจการหรือรัฐวิสาหกิจที่ตนเป็นสมาชิก โดย เงินกู้ระยะสั้นกรณีปกติ อัตราดอกเบี้ย 2.75% ต่อปี กำหนดชำระคืนไม่เกิน 1 ปี เงินกู้ระยะยาวกรณีปกติ อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี กำหนดชำระคืน 1 – 5 ปี นอกจากนี้ยังมีเงินกู้เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติ อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี และเงินกู้สร้างสุข ปลดทุกข์หนี้นอกระบบ อัตราดอกเบี้ย 0.5 – 1.5% ต่อปี พิเศษดอกเบี้ย 0% ในช่วง 3 […]

admin111 admin111

17 April 2567

อุตสาหกรรม สมุทรสาครแจ้ง บก.ปทส.เอาผิดผู้ครอบครองแคดเมียม ชาวตากประท้วงไม่รับคืน

Advertisement น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 16 เมษายน คณะกรรมการอำนวยการขนย้ายกากแคดเมียม และสังกะสี ได้ชี้แจงรายละเอียดแผนการขนย้ายกากแคดเมียมของ บมจ.เบาว์แอนด์บียอนด์ ให้กับสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั้ง 3 พื้นที่ ได้แก่ ตาก สมุทรสาคร และชลบุรี ทราบเพื่อเตรียมการในส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงการชี้แจงประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เพื่อให้เข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน เบื้องต้น ทราบจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดว่า ผู้ประกอบการที่ครอบครองกากแคดเมียมทุกรายยินยอมที่จะให้นำกากที่ถูกอายัดไว้ กลับไปฝังกลบที่จังหวัดตาก รมว.อุตสาหกรรมกล่าวอีกว่า สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร จะไปร้องทุกข์กล่าวโทษการกระทำผิดของผู้ครอบครองกากแคดเมียมทั้งหมด กับ บก.ปทส. ในวันที่ 17 เมษายน พร้อมประเมินปริมาณของกลางก่อนที่จะโอนให้ บก.ปทส.ต่อไป และในวันเดียวกัน กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ จะส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปร่วมตรวจสอบความแข็งแรงของหลุมฝังกลบของบริษัทที่จังหวัดตาก คาดว่าจะรู้ผลในวันเดียวกัน น.ส.พิมพ์ภัทรากล่าวด้วยว่า สำหรับความเห็นของประชาชนในพื้นที่ต้นทางเคลื่อนย้ายกาก คือ สมุทรสาคร ชลบุรี และกรุงเทพมหานคร อยากให้การขนย้ายขึ้นรถบรรทุกไม่เกิดการรั่วไหล หรือฟุ้งกระจายของกากแคดเมียม ส่วนประชาชนในพื้นที่ปลายทางที่จังหวัดตาก โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่ 6 ต.หนองบัวใต้ อยากให้ตรวจสอบความแข็งแรงของหลุมฝังกลบ การเคลื่อนย้ายกากลงหลุมฝังกลบต้องปลอดภัย ไม่ฟุ้งกระจาย […]

admin111 admin111

17 April 2567
error: