จากกรณี เมื่อวันที่ 29 ธ.ค. เกิดเหตุรถกระบะทับหนูน้อยวัย 3 ขวบ เสียชีวิตเหตุเกิด บริเวณตลาดนกฮูก 2 ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ผู้เสียชีวิตชื่อ ด.ญ.ชนินทร์ทิพย์ ตั้งพิพัฒน์ไพบูลย์ หรือ น้องมะลิ อายุ 3 ขวบ 4 เดือน ส่วน น.ส.อัมพรรัตน์ สุขสำราญ อายุ 31 ปี คนขับรถกระบะนั่งเหม่อลอยเหมือนคนจะเป็นลมอยู่ที่เบาะคนขับ
คืบหน้า วันที่ 30 ธ.ค. 62 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังวัดเทียนถวาย ต.บางกะดี อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ของ ด.ญ.ชนินทร์ทิพย์ ตั้งพิพัฒน์ไพบูลย์ หรือ น้องมะลิ อายุ 3 ขวบ 4 เดือน โดยมีญาติพี่น้องเดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจ ระหว่างที่ทีมข่าวลงพื้นที่ พ่อกับแม่ของเด็ก ได้พาร่างผู้เสียชีวิตมาตั้งพิธีบำเพ็ญกุศลศพที่วัด ซึ่งพ่อกับแม่ของเด็กได้ร้องไห้อยู่ตลอดเวลายังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
นายเกรียงไกร เรืองทอง อายุ 53 ปี ลุงของเด็กผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุการณ์ขึ้นทุกคนในครอบครัวยังทำใจไม่ได้ เพราะคู่กรณีอ้างว่าสาเหตุเกิดจากพื้นลาดชัน ทางครอบครัวรู้สึกไม่พอใจที่คู่กรณีไม่เข้ามาพูดคุยด้วย หรือเจรจาเรื่องค่าเยียวยา โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนทราบมาว่า น้องมะลิมาตลาดกับพ่อแม่ โดยพ่อของน้องมะลิเป็นคนขับรถและน้องมะลิกับแม่นั่งอยู่เบาะหน้ารถ เมื่อมาถึงตลาดได้จอดรถให้แม่ของน้องมะลิเดินไปกดเงินที่หน้าตลาดก่อน หลังจากนั้นได้ขับรถมาจอดไว้ที่ลานจอดรถของตลาด เมื่อจอดรถเสร็จน้องมะลิได้เดินข้ามมาลงที่ฝั่งคนขับและลงจากรถพร้อมพ่อ ขณะนั้นน้องมะลิเดินนำอยู่ข้างหน้า ส่วนนพ่อของน้องมะลิเดินตามหลังมาติด ๆ แต่ถนนที่เกิดเหตุเป็นทางลาดชัน ทำให้น้องมะลิที่เดินนำหน้าไป
กระทั่งรถกระบะคันที่ก่อหตุ ได้ขับมาด้วยความเร็วประมาณ 15-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยที่ไม่ได้เปิดไฟหน้ารถ ทำให้ไม่เห็นน้องมะลิและทับร่างขอน้อง ในลักษณะล้อหน้าฝั่งคนขับชนเข้ากับศรีษะของน้องมะลิ 1 ครั้ง และล้อหลังคนขับทับศรีษะน้องมะลิซ้ำอีก 1 ครั้ง ทั้งที่ควรจะเบรกรถและลงมาดูตั้งแต่แรก เพราะขณะที่ชนครั้งแรก พ่อของเด็กได้วิ่งไปทุบกระจกรถฝั่งคนขับอยู่หลายครั้ง แต่คนขับกระบะไม่มีทีท่าว่าจะยอมจอดรถ อีกทั้งแม่ของคนขับรถได้เดินมาบอกกับครอบครัว ลูกขับรถไม่ค่อยชำนาญ จึงเชื่อว่าอาจจะเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ตกใจเบรกรถไม่ทัน
ในขณะที่นายวัชรพงศ์ ตั้งพิพัฒน์ไพบูลย์ พ่อของเด็กก็เปิดเผยกับไทยรัฐทีวีว่า กระบะน่าจะเบรคทัน แต่ก็ไม่ยอมเบรค ยังขับ ๆ ถอย ๆ อยู่ได้ ตนเคาะกระจกจนมือแทบแตกก็ไม่ฟัง
น.ส.อัมพรรัตน์ คู่กรณีได้เดินทางมามอบตัวและสอบปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ปากคลองรังสิต โดยน.ส.อัมพรรัตน์ เปิดเผยว่า หลังตนกับแฟนทำธุระเสร็จได้เดินกลับมาที่รถกระบะ เพื่อจะขับรถกลับบ้าน โดยที่ตนเป็นคนขับรถกระบะ ส่วนแฟนของตนโดยสารมาด้วยนั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับรถ ขณะที่สตาร์ทรถและกำลังเดินหน้ารถ กระทั่งเดินหน้ารถมาได้ประมาณ 10 เมตร เกิดได้ยินเสียงดัง “ตุ๊บ” เพียงครั้งเดียว เหมือนรถตกหลุม และได้ยินเสียง “ปัง ๆ” แถวกระจกดังตามมา พบว่าเป็นเสียงเคาะกระจก กระทั่งเห็นเด็กนอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ที่ล้อหลังฝั่งคนขับ
ทั้งนี้ ยืนยันว่าตนไม่ได้ตั้งใจจริง ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเหตุสุดวิสัยไม่มีใครอยากให้เกิด หลังจากนี้จะรับผิดชอบกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดและอยากขออโหสิกรรม นอกจากนี้อยากจะฝากเตือนภัยพ่อแม่ของเด็กให้เอาใจใส่ดูแลลูกหลานที่ยังเล็กอยู่ด้วย
ข่าวจาก อมรินทร์ทีวี, ไทยรัฐทีวี
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ