ชาวนาเฮส่งท้ายปี! “ผู้ปลูกข้าว 4 ชนิดนี้” จะได้รับเงินชดเชย





เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม นางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว รายงานเอกสารถึงนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่า

สถานการณ์ราคาข้าวในรอบปัจจุบันนี้ ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว 4 ชนิดได้รับเงินชดเชยส่วนต่างจากโครงการประกันรายได้เกษตรกร โดยมีเพียงข้าวเปลือกเหนียวไม่ได้เหมือนเดิมเพราะราคาตลาดสูงกว่าราคาประกันรายได้

นางมัลลิกากล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2562 คณะอนุกรรมการฯ ได้พิจารณาการชดเชยส่วนต่างระหว่างราคาประกันรายได้กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง โดยมีมติให้จ่ายเงินส่วนต่างงวดที่ 8 ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวจำนวน 4 ชนิดคือ ข้าวเปลือกเจ้า ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ข้าวเปลือกหอมมะลิ และข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ส่วนข้าวเปลือกเหนียว ไม่จ่ายชดเชยส่วนต่าง เพราะราคายังสูงกว่าราคาประกัน ตัวเอกสารนี้เป็นประกาศให้สาธารณชนทราบโดยทั่วกัน

สำหรับการชดเชยส่วนต่าง เกษตรกรที่แจ้งเก็บเกี่ยวระหว่างวันที่ 22-28 ธ.ค.2562 จะได้รับการชดเชย โดยมีรายละเอียด ได้แก่

ซึ่งผลจากการคำนวณส่วนต่างงวดที่ 8 นี้จะทำให้เกษตรกรบางรายได้รับเงินชดเชยสูงสุด คือ ข้าวเปลือกเจ้า จะได้รับเงินสูงสุดรวม 66,836 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมได้เงินสูงสุดรวม 37,087 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลิ ได้เงินสูงสุดรวม 5,198 บาท และข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ได้เงินสูงสุดรวม 4,243 บาท

นางมัลลิกากล่าวว่า โครงการประกันรายได้เกษตรกรโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้รับคำชื่นชมจากประชาชนโดยการสำรวจจากโพลต่างๆ ว่าเป็นนโยบายที่สามารถทำให้เกิดรูปธรรมได้เร็วที่สุด

เพราะนายจุรินทร์สามารถผลักดันตั้งแต่เป็นนโยบายในการร่วมรัฐบาลและลงมือทำจนเกิดผลเป็นรูปธรรมเสริมเศรษฐกิจฐานรากโดยการโอนเงินส่วนต่างให้ถึงมือประชาชนอย่างแท้จริงด้วยบัญชีธนาคารของเกษตรกรโดยตรง ขณะนี้ดำเนินการครบทั้ง 5 ชนิดพืชที่อยู่ในโครงการ และยังเดินหน้าต่อเนื่อง

ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์กล่าวว่า นายจุรินทร์นั้นรู้สึกขอบคุณนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เสมอที่ให้ความร่วมมือเต็มที่ โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ประกันรายได้ข้าวเปลือกจำนวน 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 15,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 14,000 บาท ครัวเรือนละ 16 ตัน

ข้าวเปลือกเจ้า 10,000 บาท ครัวเรือนละ 30 ตัน ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 11,000 บาท ครัวเรือนละ 25 ตัน และข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,000 บาท ครัวเรือนละ 16 ตัน แต่ถ้าเกษตรกรปลูกข้าวมากกว่า 1 ชนิด จะได้สิทธิไม่เกินจำนวนขั้นสูงของข้าวแต่ละชนิด และเมื่อรวมกันต้องไม่เกินขั้นสูงของข้าวชนิดที่กำหนดไว้สูงสุด

และในปี 2563 รัฐบาลยังคงเดินหน้าโครงการประกันรายได้เกษตรกร ทั้งข้าว ปาล์ม ยางพารา มันสำปะหลัง และข้าวโพด ร่วมกับมาตรการเสริมเพื่อผลักดันราคาผลผลิตเกษตรกรให้สูงขึ้นและจะทำให้จำนวนงบประมาณที่ต้องใช้สำหรับโครงการนี้ลดลง

และขณะนี้นายจุรินทร์ยังมีแผนเดินหน้าการผลักดันตัวเลขการส่งออกโดยเฉพาะพืชผลการเกษตรในปี 2563 ไปทั่วโลกและวางแผนด้านมาตรการเสริมสำหรับการช่วยเหลือพืชผักผลไม้ชนิดอื่นๆ นอกเหนือจากโครงการประกันรายได้อย่างเต็มที่ต่อไป

ข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: