กางเอกสารชัด! หนี้1.2พันล้าน “บริษัททหารRTA” กองทัพบก ให้กู้ตั้งแต่ปี45-ไร้ดอกเบี้ย!!





“…สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบงบการเงิน บริษัท อาร์ทีเอ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบข้อมูลเกี่ยวกับที่มาเงินกู้ยืมระยะยาว 1,236,800,000 บาท ว่า เป็นเงินที่ บริษัท อาร์ทีเอ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) กู้ยืมมาจากกองทัพบก ผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก โดยได้รับมอบหมายจาก ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้ให้กู้…”

1. บริษัท อาร์ทีเอ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) แห่งนี้ มีตัวตนอยู่จริง จดทะเบียนจัดตั้ง เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2546 ทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท ทำธุรกิจเข้าถือหุ้นในกิจการต่างๆดำเนินธุรกิจด้านกิจการสื่อสารโทรคมนาคมแบบครบวงจร ปรากฎชื่อ พลเอกกิตติเชษฐ์ ศรดิษฐพันธ์ พลเอกกิจพันธ์ ธัญชวนิช พลตรีบุญญฤทธิ์ วิสมล พลตรีสกล โชติปัทมนนท์ พลเอกณัฐเทพ สมคะเน พลเอกพีรพร ศรีพันธุ์วงศ์ พลโทไกรสร ศรีสุข เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ ณ 30 เมษายน 2562 กองทัพบกถือหุ้นใหญ่สุด 50.0004% มูลค่า 5,000,040 บาท

นำส่งข้อมูลงบการเงินล่าสุด ณ 31 ธันวาคม 2561 แจ้งว่า มีรายได้รวม 88,057,555.80 บาท รวมรายจ่าย 83,638,589.68 บาท กำไรสุทธิ 2,872,277.18 บาท ในส่วนหนี้สิน แจ้งว่า มีเจ้าหนี้การค้า 2,064,176.47 บาท เจ้าหนี้อื่นๆ 3,584,416.86 บาท มีเงินกู้ยืมระยะยาว 1,236,800,000 บาท รวมหนี้สิน 1,243,206,329.07 บาท

2. ตั้งแต่ ปี 2554 – ปัจจุบัน บริษัท อาร์ทีเอ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ปรากฎชื่อเป็นคู่สัญญา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน สำนักงานเลขานุการกองทัพบก และหน่วยงานในสังกัดกทม. จำนวน 17 สัญญา รวมวงเงินกว่า 528,358,581 บาท

3. ในช่วงปี 2547 ยุคสมัยรัฐบาล นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บริษัท อาร์ทีเอ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ เคยปรากฎชื่อถูกคณะรัฐมนตรี (ครม.) สั่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง จากกรณีปัญหาการโอนการบริหารเวลาการออกอากาศและผังรายการของสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ให้กับบริษัท อาร์ทีเอ เอ็นเตอร์เทนเมนต์ โดยมีเอกชนเข้าร่วมถือหุ้นด้วยเพื่อดำเนินการนำสถานีโทรทัศน์เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เนื่องจากมีการท้วงติงว่า เป็นการดำเนินการที่ไม่เหมาะสม ทำให้รัฐเสียประโยชน์และเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญ

คือ ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ บริษัท อาร์ทีเอ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำมาเสนอให้สาธารณชน ได้รับทราบไปแล้ว ภายหลังจากที่ นาย ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ออกมาเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทฯ แห่งนี้ ว่า เป็นบริษัทที่กองทัพปล่อยกู้ 1 พันล้าน ไปลงทุนหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ 

พร้อมระบุว่า “สุดท้ายเงินหลายร้อย หลายพัน หลายหมื่นล้านในกองทัพ ที่เราแทบจะตรวจสอบอะไรไม่ได้เลยนี้ ก็คือเงินภาษีที่มาจากพวกคุณ ประชาชนคนไทยทั้งนั้น เงินภาษีที่เราสามารถนำมาพัฒนาคุณภาพโรงเรียนสำหรับบุตรหลานของเราทุกคน เงินภาษีที่เราสามารถนำมาสร้างโรงพยาบาลที่ดีสำหรับประชาชนทุกคน” 

ล่าสุดสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบงบการเงิน บริษัท อาร์ทีเอ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)ที่แจ้งไว้กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พบข้อมูลเกี่ยวกับที่มาเงินกู้ยืมระยะยาว 1,236,800,000 บาท ว่า เป็นเงินที่ บริษัท อาร์ทีเอ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) กู้ยืมมาจากกองทัพบก ผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก โดยได้รับมอบหมายจาก ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้ให้กู้

โดยข้อมูลงบการเงิน ณ วันที่ 31 ธ.ค.2546 ซึ่งเป็นงบการเงินปีแรกที่จัดส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้ารับทราบ หลังจากบริษัทแห่งนี้ ยังใช้ชื่อเดิมว่า บริษัท ททบ.5 จำกัด แปรสภาพบริษัทเป็นมหาชนจำกัด เมื่อวันที่ 19 ส.ค.2546

ระบุรายละเอียดเรื่องเงินกู้ยืมระยะยาวจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกัน ว่า ณ วันที่ 31 ธ.ค.2546 และ 2545 ได้เงินกู้ยืมจากกองทัพบกโดยสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก โดยผู้อำนวยการสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ผู้ได้รับมอบอำนาจจากกองทัพบก และทำการโดยได้รับมอบหมายจาก ผู้บัญชาการทหารบก (ผู้ให้กู้) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายหนึ่งของบริษัท ในปี 2545

รวมวงเงินทั้งหมด 1,400,274,940 บาท

แบ่งออกเป็น 2 ก้อน

1. ก้อนแรก วงเงิน 32,500,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 5 % วันครบกำหนด 31 ธ.ค.2555

2. ก้อนสอง วงเงิน 1,367,774,940 บาท ไม่มีอัตราดอกเบี้ย วันครบกำหนด 18 ม.ค.2553

แต่ในปี 2546 เงินกู้ก้อนสอง 1,367,774,940 บาท ปรับลดลงไป 80,000,000 บาท เหลือ 1,287,774,940 บาท

ทำให้ยอดวงเงินกู้ทั้งสองก้อนเหลืออยู่ 1,320,274,940 บาท

อย่างไรก็ดี บริษัทฯ  ได้แจ้งข้อมูลในส่วนเงินให้กู้ยืมระยะยาว ว่า บริษัทฯ ได้ให้ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก กู้ยืมไปเป็นจำนวน 1,536,298,000 บาท

พร้อมระบุว่า ยอดเงินกู้ ทั้งเงินกู้ยืมระยะยาว กับเงินให้กู้ยืมระยะยาว บริษัทฯ และ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ได้ทำสัญญาเพื่อหักกลบลบหนี้ระหว่างกันด้วย

เมื่อตามไปตรวจสอบข้อมูลเงินกู้ระยะยาว และเงินให้กู้ยืมระยะยาว ในงบการเงิน ณ 31 ธ.ค.2561 ซึ่งเป็นงบการเงินปีล่าสุดที่บริษัทนำส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้ารับทราบ พบว่ามีการแจ้งข้อมูลความเปลี่ยนแปลงเงินกู้ทั้งสองส่วนไว้ดังนี้

เงินกู้ยืมระยะยาวจากกิจการที่เกี่ยวข้องกัน มีการแจ้งยอดคงเหลือต้นปี อยู่ที่ 1,246,800,000 บาท แต่มีหักจ่ายชำระระหว่างปี 10,000,000 บาท ทำให้เหลือตัวเลข 1,236,800,000 บาท

ระบุรายละเอียดเงินกู้ทั้งสองก้อน ว่า ก้อนแรก วงเงินจำนวน 32.5 ล้านบาท กู้เต็มจำนวนแล้ว โดยมีกำหนดชำระคืนเงินต้นทั้งหมดภายในวันที่ 31 ธ.ค.2555 และชำระดอกเบี้ยเป็นรายปี อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี

ก้อนสอง วงเงินจำนวน 1,287.7 ล้านบาท กู้เต็มจำนวนแล้ว โดยมีกำหนดชำระคืนเงินต้นทั้งหมดภายในวันที่ 18 ม.ค.2553 โดยไม่คิดดอกเบี้ยระหว่างกัน ในปี 2553 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ขยายเวลาการจ่ายคืนเงินต้นใหม่ โดยมีการจ่ายชำระคืนเงินต้นทั้งหมดภายในวันที่ 18 ม.ค.2558

ส่วนข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับเงินให้กู้ยืมระยะยาว แก่ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ระบุตัวเลขอยู่ที่ 159,387,367.46 บาท แต่หักรับชำระระหว่างปีไปหมดแล้ว พร้อมระบุว่า เงินกู้ส่วนนี้ เกิดจากการที่บริษัทเข้าทำสัญญาสนับสนุนทางการเงินกับธนาคารในประเทศแห่งหนึ่งแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกัน ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกันดังกล่าวได้รับเงินสนับสนุนดังกล่าวแล้ว 

ขณะที่ในรายงานการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2562 ณ วันที่ 30 เม.ย.2562 บริษัทฯ ระบุข้อมูลเรื่องการกู้ยืมเงินจากธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 1,615,298,000 บาท เพื่อนำมาลงทุนในธุรกิจของบริษัทฯ ตั้งแต่ปี 2541 ว่า เมื่อวันที่ 30 พ.ค.2561 บริษัทฯ มียอดค้างชำระจำนวน 111,013,174.88 บาท จึงได้ชำระเงินให้กับธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) เต็มจำนวนไปเมื่อวันที่ 31 พ.ค.2561 บริษัทฯ จึงได้หมดภาระหนี้สินกับธนาคารทหารไทย เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

เท่ากับว่า ณ ปัจจุบัน สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก ไม่ได้เป็นหนี้กับ บริษัทฯ แล้ว 

แต่บริษัทฯ ยังเหลือภาระชำระเงินกู้ยืมระยะยาวให้กับ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก 1,236,800,000 บาท และเลยกำหนดการจ่ายชำระคืนเงินต้นทั้งหมดภายในวันที่ 18 ม.ค.2558 มานานหลายปีแล้ว? 

ข่าวจาก สำนักข่าวอิศรา

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: