“แม่กุ้ง” ยื่นฟ้อง “บิณฑ์” กล่าวหาเอี่ยวโกงเงินน้ำท่วมยโสธร





อัยการฟ้องแล้ว 7 ผู้ต้องหา ร่วมกันฉ้อโกงเงินน้ำท่วมยโสธร ขอยื่นประกันคนละ 5 หมื่นบาท ขณะที่ “แม่กุ้ง” ส่งทนายยื่นฟ้อง “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์-รอง ผกก.-สื่อมวลชน” ฐานหมิ่นประมาท-แจ้งความเท็จ หาว่าหักหัวคิวเงินช่วยเหลือน้ำท่วม

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 28 พ.ย.62 ที่อัยการจังหวัดยโสธร พนักงานอัยการจังหวัดยโสธร นัดฟังคำสั่งคดีที่พนักงานสอบสวน สภ.เมืองยโสธร ได้นำสำนวนการสอบสวนพร้อมพยานหลักฐานและความเห็นในคดีที่นางรุ่งรัชนี หรือแม่กุ้ง ไชยวิชิต อายุ 69 ปี, นางศิริพร หรือคุณนายถิง โคตรสมบัติ อายุ 31 ปี, นายเทพพิทักษ์ โคตรสมบัติ อายุ 48 ปี กำนัน ต.น้ำคำใหญ่, นางมังกร วงค์สุวรรณ อายุ 52 ปี แพทย์ประจำ ต.น้ำคำใหญ่, นายวินัย เศรษฐะ อายุ 42 ปี, นางนภัสวรรณ ศรีข้อ อายุ 60 ปี ประธานชุมชนเปี่ยมสุข และนางสมฤดี เอื้อสามาลย์ อายุ 46 ปี ผู้ใหญ่บ้านห้องพอง ต.น้ำคำใหญ่ ผู้ต้องหาที่ 1-7 ฐานร่วมกันฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 ประกอบมาตรา 83 โดยพนักงานอัยการเจ้าของคดีมีความเห็นควรสั่งฟ้อง ผู้ต้องหาทั้ง 7 รายพร้อมทั้งได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 7 รายไปยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดยโสธร

ต่อมาเมื่อเวลา 10.30 น. พนักงานอัยการจังหวัดยโสธรได้นำสำนวนพร้อมเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นางรุ่งรัชนี หรือแม่กุ้ง ไชยวิชิต อายุ 69 ปี พร้อมพวกรวม 7 รายเป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดยโสธร ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง โดยศาลจังหวัดยโสธรได้ประทับรับฟ้องไว้พิจารณาเป็นคดีหมายเลขดำ ที่ อ.1287/2562 จากนั้นศาลได้สอบคำให้การจำเลย โดยอ่านและอธิบายฟ้องให้พวกจำเลยฟังจนเข้าใจแล้วสอบถามว่า จะให้การรับสารภาพหรือปฏิเสธ ปรากฏว่าพวกจำเลยแถลงให้การปฏิเสธต่อสู้คดี โดยศาลนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 15 ม.ค. 62 เวลา 09.00 น. และนัดพร้อมตรวจพยานหลักฐาน ในวันที่ 27 ม.ค.63 เวลา 09.00 น.

ขณะที่จำเลยที่ 1-7 ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างพิจารณา โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัวไปโดยตีราคาประกันคนละ 50,000 บาท.

นายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ ทนายความนางรัชนี เผยว่า วันนี้ทางอัยการมีคำสั่งฟ้องนางรุ่งรัชนี ไชยวิชิต พร้อมพวกรวม 7 ราย ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงต่อศาลจังหวัดยโสธร โดยจำเลยทั้ง 7 ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยอ้างว่าผู้นำท้องถิ่นเป็นคนที่มาแจ้งสิทธิคือชาวบ้าน น้ำท่วมตั้งแต่เดือน ก.ย.62 แต่มาแจกเงินช่วงเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา ชาวบ้านจะถูกน้ำท่วมหรือไม่กำนันหรือผู้นำท้องถิ่นก็ไม่ทราบ แต่เมื่อเจ้าของบ้านที่ถูกน้ำท่วมเป็นคนยืนยันว่าถูกน้ำท่วมจริง ผู้นำท้องถิ่นส่งเรื่องไปยังทีมงานของคุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์

ส่วนแม่กุ้งที่เป็นจำเลยที่ 1 ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องให้การรวบรวมคัดกรองรายชื่อชาวบ้าน อย่างไรก็ตามที่มีข่าวมีการประโคมว่ามีการหักหัวคิวน้ำท่วม สรุปคือไม่มีการหักหัวคิวชาวบ้านแม้แต่รายเดียว แต่ประเด็นที่ฟ้องร้องกันขณะนี้คือ แม่กุ้งร่วมกับผู้นำท้องถิ่น เสนอรายชื่อผู้ที่เป็นชาวบ้านที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม แต่มารับเงินช่วยเหลือ และในคำฟ้องว่าจำเลยทั้ง 7 เอาเงินไป 340,000 บาท ความจริงแล้วจำเลยทั้ง 7 ไม่ได้รับเงินไปเลยสักบาทเดียว เพราะเงินทั้งหมดไปอยู่ในกระเป๋าของชาวบ้านทั้ง 68 คน ซึ่งมีชื่อชาวบ้านทั้ง 68 คนไม่เข้าข่ายในการรับเงินช่วยเหลือน้ำท่วมรับเงิน จึงเป็นเหตุให้มีการฟ้องคดีนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วันเดียวกันนี้ ที่ศาลจังหวัดยโสธร นางรุ่งรัชนี หรือแม่กุ้ง ไชยวิชิต อายุ 69 ปี พร้อมด้วยนายบุญถาวร ปัญญาสิทธิ์ ทนายความ ได้เดินทางมาเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ อายุ 57 ปี, พ.ต.ท.ศรัณย์พงศ์ จักษุกรรฐ รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.เมืองยโสธร และนายแสงชัย แต้ศิริ อายุ 54 ปี เป็นจำเลยที่ 1-3 ในความผิดฐานหมิ่นประมาทและแจ้งความเท็จ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 83, 84, 90, 91, 137, 172, 173, 174, 326 และ 328

นายบุญถาวร กล่าวว่า ในการยื่นฟ้องในครั้งนี้ นางรุ่งรัชนี มอบหมายให้ตนเป็นทนายโจทก์ให้การยื่นฟ้อง 3 ราย ประกอบด้วยนายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ให้ข้อหาแจ้งความเท็จต่อเจ้าพนักงาน โดยคุณบิณฑ์มีหน้าที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงจากทีมงานมูลนิธิและผู้นำท้องถิ่น จะต้องสอบให้ได้ว่าคนที่รวบรวมรายชื่อคือใคร นางรุ่งรัชนี ไม่ใช่ผู้นำท้องถิ่นเป็นเพียงจิตอาสาคนหนึ่ง วันนี้นางรุ่งรัชนีเป็นผู้ถูกกระทำจึงไปฟ้องต่อศาล ว่า การที่คุณบิณฑ์ไปแจ้งความเท็จต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองยโสธร ทำให้เจ้าพนักงานแจ้งสอบสวนแจ้งข้อหาต่อนางรุ่งรัชนี และถูกพิมพ์ลายนิ้วมือ

และนอกจากนี้ พ.ต.ท.ศรัณย์พงศ์ จักษุกรรฐ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองยโสธร ได้นำภาพถ่ายนางรุ่งรัชนี ไปให้นายบิณฑ์ ชี้ต่อหน้าสาธารณชน ที่เจพีเอ็มเมอรัลด์ ยโสธร โดยมีสื่อมวลชนร่วมทำข่าว อย่าลืมว่านางรุ่งรัชนี ขณะนั้นเป็นเพียงผู้ต้องสงสัย และอยู่ในระหว่างการสอบสวนในชั้นพนักงานสอบสวน นางรุ่งรัชนียังไม่มีความผิดและยังไม่ถูกศาลพิพากษาว่าเป็นผู้กระทำความผิด ดังนั้นถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ตามกฎหมาย ไม่มีกฎหมายฉบับใดให้อำนาจรอง ผกก.นายดังกล่าว นำภาพถ่ายไปชี้ประจาน การประจานดังกล่าวมีการตีข่าวไปทุกช่องทาง จึงเป็นเหตุให้นางรุ่งรัชนีได้รับความเสียหาย

และอีกคนคือนายแสงชัย แต้ศิริ เป็นผู้สื่อข่าว ได้นำภาพถ่ายของนางรุ่งรัชนี ที่ลงตามสื่อต่างๆ มาเขียนในเพจของจังหวัดยโสธร ทำให้นางรุ่งรัชนีเกิดความเสียหายถูกมองว่าเป็นคนร้ายเป็นคนขี้โกง ซึ่งขณะนี้ศาลยังไม่ตัดสินว่านางรุ่งรัชนี มีความผิดจึงถือว่ามีความผิดในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา นอกจากนี้นางรุ่งรัชนีได้มอบให้ตนดำเนินการฟ้องบุคคลที่นำเอาภาพถ่ายนางรุ่งรัชนีพร้อมโพสต์ข้อความที่ใส่ร้ายทำให้เกิดความเสียหายในจังหวัดประมาณอีก 20 รายซึ่งจะมาดำเนินการฟ้องอีกครั้ง อย่างไรก็ตามตนได้ทำตามหน้าที่ ส่วนใครจะผิดถูกอย่างไรขอให้ศาลเป็นผู้ตัดสินชี้ขาด

อย่างไรก็ตามศาลได้รับคำฟ้องคดีไว้พิจารณาเป็นคดีดำ ที่ 1288/2562 พร้อมนัดไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 27 ม.ค.63 เวลา 13.30 น.

ข่าวจาก ไทยรัฐออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: