ฝากขังแล้ว สาวแบงก์ ยักยอกเงิน 5 ล้านบาทของเฮียหมา





นายเอกพัฒ อธิธนัทกุล หรือเฮียหมา อายุ 61 ปี เจ้าของร้านอาหารชื่อดังใน จ.สมุทรปราการ ได้เข้ามารักษาตัวที่โรงพยาบาลเนื่องจากความดันขึ้น เพราะรู้สึกวิกตกกังวลกับเรื่องที่เงินจำนวน 5 ล้านบาท เป็นเงินที่สะสมมาทั้งชีวิตจากการทำร้านอาหารหายออกไปจากบัญชี

โดย นายเอกพัฒกล่าวว่า ก่อนหน้านี้เมื่อปลายปี 61 ตนได้นำเงินกว่า 5 ล้านบาท ไปฝากที่ธนาคารย่านนิคมอุตสาหกรรมบางปู ระหว่างนั้นพนักงานได้แนะนำตนว่าควรฝากเป็นประเภทฝากประจำ 12 เดือน เพื่อที่จะได้ดอกเบี้ยมากว่าฝากแบบออมทรัพย์ธรรมดา ซึ่งตนคิดว่าบัญชีนี้ไม่ได้เบิกออกมาใช้จ่ายอยู่แล้วจึงได้ตอบตกลง กระทั่งเมื่อวานนี้ได้นำสมุดบัญชีไปปรับยอดเพื่อที่จะดูดอกเบี้ยที่ธนาคาร แต่ไม่สามารถปรับได้ ตนจึงลองนำสมุดบัญชีอื่นซึ่งเป็นบัญชีเงินเงินค้ำประกันธุรกิจ ก็ไม่สามารถปรับได้เช่นกัน จึงได้เข้าไปสอบถามทางพนักงานธนาคาร จนทราบว่าสมุดบัญชีทั้ง 2 เล่มถูกยกเลิกการใช้แล้ว และให้ตนไปติดต่อสาขาที่เปิดบัญชีต่อมาเมื่อตนเดินทางไปธนาคารสาขาที่ตนเปิดบัญชีไว้ พนักงานธนาคารจึงได้ตรวจสอบให้เบื้องต้นพบว่าเงิน 5 ล้านบาทที่ตนฝาก ได้ถูกย้ายออกไปใส่ไว้ในบัญชีที่ค้ำประกันธุรกิจ ซึ่งมีเงินในบัญกว่า 1 แสนบาท เป็นบัญชีที่ถูกยกเลิกเช่นกัน และเมื่อตรวจสอบพบว่าได้มีการทำบัญชีใหม่ขึ้นมาและเซ็นถอนเงินออกจากบัญชี 12 เดือน กว่า 2.5 ล้านบาท เมื่อตรวจสอบก็ไม่ใช่ลายเซ็นของตนแต่อย่างใด ทำให้ไม่สบายใจเพราะเงินอยู่ในธนาคารไม่มีความปลอดภัยแล้ว และก็ไม่ทราบว่ายังมีเงินเหลือในบัญทั้ง 2 อีกเท่าไร จึงได้เดินทางมาแจ้งความกับตำรวจ

ขณะที่วันนี้ทางธนาคารกรุงเทพแจ้งว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า มีพนักงานสาวทำการทุจริตยักยอกเงินลูกค้าออกจากบัญชี ซึ่งธนาคารได้ทำตามขั้นตอนการปฏิบัติงาน ด้วยการไล่ออกจากการเป็นพนักงานและดำเนินคดีตามกฎหมายทันที ในส่วนความเสียหายลูกค้านั้น ทางธนาคารพร้อมชดใช้ให้ทั้งหมด คาดว่ากระบวนการจะแล้วเสร็จภายในวันนี้

ล่าสุด ที่สภ.บางปู พนักงานสอบสวนเรียกตัว น.ส.วรรณี (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ผู้ถูกกล่าวหายักยอกเงินนายเอกพัฒเข้าสอบปากคำ โดยมีตัวแทนจากธนาคารนำเอกสารหลักฐานการยักยอกเงินของ น.ส.วรรณีมามอบให้เจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของธนาคารต้นสังกัดได้ตรวจสอบพบบัตรอิเล็กทรอนิกส์หรือบัตรเอทีเอ็มที่สามารถเบิกจ่ายเงินจากบัญชีของนายเอกพัฒอยู่ที่ตัวของน.ส.วรรณี โดยมีการเบิกเงินออกไปวันละไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท และเจ้าตัวยอมรับว่านำไปใช้ส่วนตัว ขณะที่การสอบสวนเบื้องต้น น.ส.วรรณี ให้การปฏิเสธ และขอให้การในชั้นศาล

ทั้งนี้ ตำรวจแจ้งข้อหาปลอมและใช้เอกสารปลอม, เอาไปซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น, ลักทรัพย์นายจ้าง ก่อนนำตัวขึ้นรถไปส่งตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดสมุทรปราการขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจนำตัวน.ส.วรรณีลงมาพิมพ์ลายนิ้วมือ เจ้าตัวเงียบไม่ตอบคำถามใดๆ ด้านแฟนหนุ่มที่มาให้กำลังใจ ตอบเพียงสั้น ๆ ว่าไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง และขอให้เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนต่อไป

ขอบคุณ อมรินทร์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: