“อนาคตใหม่” เสียงแตก “งดออกเสียง-โหวตคว่ำ” ปมอนุมัติ พ.ร.ก. เป็น พ.ร.บ. โอนกรมทหารราบ 1-ราบ 11 ไปเป็นของส่วนราชการในพระองค์





แกนนำพรรคอนาคตใหม่ยอมรับว่ามีข้อเสนอภายในพรรคให้ “งดออกเสียง” อนุมัติพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์ พ.ศ. 2562 เนื่องจากไม่เข้าเกณฑ์ “จำเป็นรีบด่วน” ตามรัฐธรรมนูญ แต่ยืนยันพิจารณาในมิติการออกกฎหมายของรัฐบาล ไม่เกี่ยวกับสถาบัน

นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร นัดหมายสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส. ) ประชุมวันที่ 17 ต.ค. นี้ โดยมีเรื่องด่วนวาระแรกคือ การพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติ พ.ร.ก. โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณฯ ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เสนอมา

พ.ร.ก. ฉบับนี้มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายตั้งแต่ 1 ต.ค. 2562 หลังพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเมื่อ 30 ก.ย. 2562

เนื้อหาของ พ.ร.ก. ฉบับนี้มีเพียง 4 มาตรา สาระสำคัญคือการให้โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณบางส่วนของกองทัพบก กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม เฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ และกรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ไปเป็นของหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ ซึ่งเป็นส่วนราชการในพระองค์

ทว่ามีการระบุ “หมายเหตุ” ชี้แจงเหตุผลในการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉบับนี้รวม 21 บรรทัด โดยยืนยันว่า “เป็นกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้ในอันที่จะรักษาความปลอดภัยของประเทศ จึงจำเป็นต้องตรา พ.ร.ก. นี้”

รายงานข่าวจากพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) แจ้งว่า ผู้บริหารของพรรคได้หารือกับ ส.ส. บางส่วน และเห็นควรให้ลงมติ “งดออกเสียง” เพื่อรับรอง พ.ร.ก. โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณฯ ให้เป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) เนื่องจากไม่เห็นเหตุผลความจำเป็นที่รัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องตรากฎหมายในรูปแบบ พ.ร.ก. แทนที่จะออกเป็น พ.ร.บ. ปกติ อย่างไรก็ตามพรรคยังไม่มีมติที่ชัดเจนในเรื่องนี้ โดยได้นัดประชุม ส.ส. เพื่อหาข้อสรุปในวันที่ 16 ต.ค. รวมถึงเตรียมความพร้อมในการอภิปรายงบประมาณปี 2563 ด้วย

นายปิยบุตร แสงกนกกุล ส.ส. บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการ อนค. ปฏิเสธจะให้ความคิดเห็นกับบีบีซีไทยเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยขอให้รอฟังการอภิปรายของเขาในวันที่ 17 ต.ค.

พงศกรชี้รัฐบาลไร้เหตุ “จำเป็นรีบด่วน” ออก พ.ร.ก.

อย่างไรก็ตามกรรมการบริหาร อนค. อย่างน้อย 2 คนยอมรับกับบีบีซีไทยว่าแกนนำพรรคได้หยิบยกเรื่องการ “งดออกเสียง” รับรอง พ.ร.ก. โอนอัตรากำลังพลและงบประมาณฯ มาหารือภายในพรรคจริง แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากสมาชิกมีความคิดเห็นแตกต่างหลากหลายโดยแบ่งเป็น 3 แนวทาง ทั้งให้ลงมติเห็นชอบ ไม่เห็นชอบ และงดออกเสียง

พล.ท. พงศกร รอดชมภู ส.ส. บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้า อนค. กล่าวว่า เท่าที่ศึกษาเนื้อหาใน พ.ร.ก. ฉบับนี้ ยังไม่พบว่าเข้าเงื่อนไข 3-4 ประการตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญคือ มีความจำเป็นรีบด่วนอันมิอาจหลีกเลี่ยงได้เพื่อประโยชน์ในการรักษาความปลอดภัยของประเทศ เพื่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ หรือเพื่อป้องปัดภัยพิบัติสาธารณะ

“ต้องรอฟังเขา (รัฐบาล) ชี้แจงก่อนว่ามีความจำเป็นรีบด่วนอย่างไร ถ้าเร่งด่วนจริง ๆ ก็จะยกมือให้ ถ้าไม่เร่งด่วนก็ต้องซักถามว่าแล้วทำไมคุณต้องมาออกเป็น พ.ร.ก.” รองหัวหน้า อนค. ระบุ

ผู้สื่อข่าวถามว่า การอนุมัติหรือไม่อนุมัติ พ.ร.ก. ฉบับนี้เป็นประเด็นละเอียดอ่อนเพราะเกี่ยวข้องกับส่วนราชการในพระองค์ หากพรรคมีมติ “งดออกเสียง” ประเมินผลกระทบที่ตามมาอย่างไร พล.ท. พงศกรกล่าวว่า “ต้องเข้าใจว่าสถาบันไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อย่าเอาไปโยง นี่เป็นวิธีการออกกฎหมายของรัฐบาลซึ่งน่าสงสัยทำไมต้อง พ.ร.ก. มีความจำเป็นรีบด่วนแค่ไหน”

อนค. เสียงแตก

ด้านนายนิรามาน สุไลมาน ส.ส. บัญชีรายชื่อ และกรรมการบริหารพรรค อนค. กล่าวกับบีบีซีไทยว่า สมาชิกพรรคมีความคิดเห็นที่หลากหลายมาก โดย ส.ส. รุ่นที่อายุเกิน 45 ปีขึ้นไป เกือบ 90% ให้ “งดออกเสียง” ส่วน ส.ส. รุ่นใหม่ที่อายุ 25-40 ปีเห็นว่าควร “โหวตคว่ำ” พ.ร.ก. แต่ในฐานะที่เขาเป็นผู้ใหญ่และเคยมีแนวคิด “ฮาร์ดคอร์” มาก่อน คือเชื่อมั่นว่าความถูกต้องไม่ต้องรอเวลา ต้องแสดงจุดยืนให้ชัดเจน ทว่าในชีวิตจริงมันอาจไม่ได้เป็นอย่างนั้น ดังนั้นก็ต้องพยายามหาข้อสรุปที่ทุกฝ่ายสามารถยอมรับได้ เพราะขณะนี้พรรคก็ได้รับผลกระทบหลายเรื่องแล้วและยอมรับว่าการตัดสินใจกรณี พ.ร.ก. ถือเป็นประเด็นที่อ่อนไหว

“ผมคิดว่าเต็มที่เราก็แค่ ‘งดออกเสียง’ เพื่อหาทางลงอย่างนุ่มนวล ไม่ดูรุนแรงเกินไป เพราะเรารู้ว่าสองพลังขับเคี่ยวกันอยู่ ดังนั้นเราต้องอยู่ให้เป็น และเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจเรา… การเล่นการเมืองต้องเล่นให้เป็น ต้องอยู่ให้ยาว ไม่ใช่แบบนักมวย ทำตามชาวบ้านเชียร์ ๆ สะใจ ถึงเวลาล้มโดนนับก็หมดสภาพ จะไปทำประโยชน์อะไรให้ประชาชนและประเทศชาติก็ไม่ได้แล้ว” นายนิรามานกล่าว

กก.บห.อนค. รายนี้ยังยืนยันด้วยว่า การพิจารณากรณี พ.ร.ก. พรรคได้ถกเถียงกันในมิติด้านกฎหมาย ไม่เกี่ยวกับสถาบัน “สถาบันท่านเป็นของสูง เรายกท่านเอาไว้ แต่มีคนชอบมากล่าวหาว่าเราเป็นปฏิปักษ์ซึ่งไม่ใช่ความจริงเลย”

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: