ครอบครัว “จุ๋ม นุสรา” ฟ้องคิงเพาเวอร์300ล้าน โอดไร้เยียวยา หลังลูกสาวฮ.ตก พร้อม “เจ้าสัววิชัย”





เมื่อเวลา 9.00 น. วันที่ 23 ก.ย.62 ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก นายวิโรจน์ และ นางสำเริง สุขหน้าไม้ บิดา-มารดาของ น.ส.นุสรา สุขหน้าไม้ อดีตนางงามและนักแสดง หนึ่งในผู้โดยสารที่อยู่บนเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ลำเดียวกับที่นายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์โดยสาร ตกและเสียชีวิตที่บริเวณลานจอดรถข้างสนามฟุตบอล คิง เพาเวอร์ สเตเดียม เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ เดินทางมาพร้อมกับทีมทนายความ ยื่นฟ้อง ผู้จัดการมรดกของนายวิชัย

และบริษัทคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี ในฐานะเจ้าของสิทธิเครื่องบิน เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดเรื่องละเมิดจากการไม่ได้รับความช่วยเหลือเยียวยาตามกฎหมาย เรียกค่าเสียหาย 300 ล้านบาทซึ่งเป็นค่าขาดไร้อุปการะของบิดามารดา น.ส.นุสรา , ค่าความเสียหายด้านจิตใจและอนามัย พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยศาลประทับรับฟ้องไว้เป็นคดีหมายเลขดำ พ.5169/2562

โดยทีมทนายความแจกเอกสารข่าวสรุปประเด็นว่า กรณีการเสียชีวิตของ น.ส.นุสรา เนื่องจากการไปทำงานกับนายวิชัย ประธานกรรมการ บริษัทคิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด และประธานกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ ตามคำสั่งของนายวิชัย ซึ่งเป็นผู้แทนของบริษัทฯ ที่เมืองเลสเตอร์ ประเทศอังกฤษ วันที่ 27 ต.ค.61 เวลา 20.30 น.(เวลาท้องถิ่น)

โดยเครื่องบินเฮลิคอปเตอร์รุ่น AW 16 ทะเบียนหมายเลข G-VSKP ซึ่งเป็นยานพาหนะที่เดินด้วยกำลังเครื่องจักรกล โดยวันดังกล่าวนายวิชัย เป็นผู้ว่าจ้างนายเอริก สวาฟเฟอร์ และ น.ส.อิซาเบลา โรซาเลโคววิช ให้เป็นผู้ควบคุมดูแลและขันที่เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว ที่วันเกิดเหตุเครื่องยนต์ได้เกิดขัดข้องเสียการควบคุมจนทำให้เครื่องตก

ซึ่ง น.ส.นุสรา เป็นหนึ่งในผู้โดยสารคนหนึ่งที่อยู่บนเครื่องได้เสียชีวิตตามที่เป็นข่าวและเป็นที่รู้กันทั่วไป ขณะที่ปรากฏว่าผู้จัดการมรดกของนายวิชัย รวมถึงกลุ่มบริษัทคิงเพาเวอร์ ไม่ได้ทำการชดใช้เยียวยาค่าเสียหายให้แก่ทายาทของ น.ส.นุสรา จึงต้องมายื่นฟ้องให้ร่วมกันรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่ทายาทผู้เสียชีวิต

ซึ่งนับตั้งแต่เกิดเหตุถึงปัจจุบันทายาทของ น.ส.นุสราได้รับการการช่วยเหลือจากบริษัทคิง เพาเวอร์ฯ เรื่องการจัดงานศพวันละ 15,000 บาทเป็นเวลา 5 วัน และ เงินใส่ซองถวายพระ 5 คืนที่ไม่ทราบจำนวน ส่วนที่ทายาทได้ยื่นขอรับการช่วยเหลือตามกฎหมายจากกองทุนเงินทดแทนก็ได้รับการปฏิเสธจากกองทุนดังกล่าว

ทั้งนี้นายพินิจ ลักษณวิศิษฎ์ หนึ่งในทีมทนายความ กล่าวถึงเหตุฟ้องที่ต้องมายื่นฟ้องว่า คดีกำลังจะครบอายุ 1 ปีในวันที่ 27 ต.ค.นี้ โดยก่อนหน้านี้พ่อแม่ของ น.ส.นุสรา ก็พยายามพูดคุยกันจนถึงที่สุดแล้ว ซึ่งนายวิชัย เป็นทั้งนายจ้างและตามหลักกฎหมายผู้ครอบครองยานพาหนะที่เดินด้วยเครื่องจักรกล คดีนี้คือเฮลิคอปเตอร์ ถ้าเกิดเหตุเกิดความเสียหายกับผู้หนึ่งผู้ใด เจ้าของยานพาหนะนั้นต้องรับผิดชอบ

เมื่อเจ้าสัววิชัย เป็นเจ้าของเฮลิคอปเตอร์และเกี่ยวข้องกับกลุ่มบริษัทคิง เพาเวอร์ฯ ที่ใช้ชื่อติดอยู่ที่เครื่องบินทำนองทำให้ทุกคนเข้าใจว่าเครื่องบินนั้นเป็นส่วนหนึ่งของบริษัทคิง เพาเวอร์ฯ ความรับผิดจึงตกอยู่ที่นายวิชัยและบริษัท แต่เมื่อนายวิชัย เสียชีวิตแล้วผู้ที่ต้องรับผิดชอบ คือ กองมรดก ซึ่งมีภรรยาของเจ้าสัววิชัยเป็นผู้จัดการมรดก เรายื่นฟ้องเป็นจำเลยที่ 1 และบริษัท เป็นจำเลยที่ 2 โดยก่อนจะตัดสินฟ้อง ก็เคยได้พูดคุยกัน 2-3 ครั้งแต่เขาส่งมาแค่ระดับเจ้าหน้าที่ และพยายามจะมัดมือชกส่งเอกสารเป็นภาษาอังกฤษมาให้โดยพ่อแม่ก็อ่านไม่ได้อยู่แล้วซึ่งเสนอชดใช้ค่าเสียหาย 25,000 เหรียญสหรัฐฯ

แล้วล่าสุดเสนอให้ 50,000 เหรียญสหรัฐฯพร้อมกับมีข้อความว่าให้สละสิทธิที่จะเรียกร้องสิทธิใดทั้งหมดด้วยซึ่งก็ไม่เป็นธรรมกับครอบครัวจึงยังไม่ได้เซ็นอะไร ส่วนกองมรดกหรือญาติของนายวิชัยไม่เคยสนใจเข้ามาเจรจาด้วยสักครั้ง คล้ายกับจะถ่วงเวลาให้ขาดอายุความ ทั้งนี้เชิงลึกเรารู้ว่ามีกรมธรรม์แน่แต่เราไปขอ เขาก็บ่ายเบี่ยงให้ติดต่อให้ทีมทนายความที่ประเทศสิงคโปร์ ทั้งนี้ศาลนัดพิจารณาคดีวันที่ 25 พ.ย.นี้ เวลา 13.00 น.

ข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: