ศาลสั่งจำคุก3ปี ปรับ1แสน เสี่ยเบนซ์ เมาขับชนรองตี๋และภรรยา ญาติไม่ติดใจเอาความ ยอมรับเสี่ยเบนซ์รับผิดชอบดี





ศาลสั่งจำคุก 3 ปี ปรับ 1 แสน เสี่ยเบนซ์ เมาขับชน “รองตี๋-เมีย” เสียชีวิตสลด เผยพร้อมเลี้ยงดูเหยื่อ 2 ราย เป็นระยะเวลา 8 ปี ญาติเผยไม่ติดใจเอาความ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 31 ก.ค. ศาลจังหวัดตลิ่งชัน ได้อ่านฟังคำพิพากษาคดีที่ นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ อายุ 56 ปี เจ้าของบริษัทไทยคาร์บอนแอนด์กราไฟต์ จำกัด ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอะไหล่รถยนต์ เมาขับรถยนต์เมอร์เซเดส เบนซ์ อี250 สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ษฮ789 กรุงเทพมหานคร พุ่งชนรถยนต์ซูซูกิ สวิฟท์ สีขาว ทะเบียน 2กก3653 กรุงเทพมหานคร บนสะพานคลองตาปุ้น ถนนทวีวัฒนา-กาญจนาภิเษก พังยับเยิน วัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดได้ถึง 260 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์

เป็นเหตุให้ พ.ต.ท.จตุพร หรือ ตี๋ งามสุวิชชากุล อายุ 48 ปี รอง ผกก.(สอบสวน) กก.2 บก.ป. และนางนุชนาถ งามสุวิชชากุล อายุ 44 ปี ภรรยาเสียชีวิต ส่วน ด.ญ.พิชญาภา หรือ น้องแพร งามสุวิชชากุลอายุ 12 ปี ลูกสาวบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดเวลา 01.00 น.ของวันที่ 12 เม.ย.ที่ผ่านมา

โดยคดีดังกล่าวทางพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี 5 ได้ยื่นฟ้อง นายสมชาย ต่อศาลจังหวัดตลิ่งชัน ใน 3 ความผิด คือ 1.ขับรถด้วยความเร็วเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด 2.ขับรถในขณะเมาสุราหรือของมึนเมาอย่างอื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายได้รับอันตรายสาหัสและทรัพย์สินเสียหาย และ 3.ขับรถโดยประมาทอันอาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและได้รับอันตรายสาหัส

ซึ่งศาลได้พิพากษาตัดสิน ว่าจำเลยกระทำความผิดกรรมเดียวแต่หลายความผิด จึงลงโทษหนักที่สุดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก สั่งจำคุก 6 ปี ปรับ 200,000 บาท แต่จำเลยได้ให้การเป็นประโยชน์ สำนึกผิดและไม่เคยมีประวัติต้องโทษมาก่อน ศาลจึงให้โอกาสกลับตนเป็นคนดีของสังคม จึงลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 3 ปี ปรับ 1 แสนบาท และโทษจำคุกรอลงอาญา 3 ปี โดยระหว่างนี้ให้ไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ 8 ครั้งใน 2 ปี รวมทั้งบริการสังคมและสาธารณประโยชน์ 48 ชั่วโมงในเวลา 1 ปี พร้อมทั้งห้ามดื่มสุรา

ด้าน นายสมชาย กล่าวว่า ตนอยากขอบคุณครอบครัวผู้เสียหาย ที่สำคัญอย่างยิ่งเลยคือการที่ท่านให้อภัยตนตั้งวันแรกในการกระทำของตน และอนุญาตให้ไปรดน้ำศพตั้งแต่คืนแรก จนถึงการบวชหน้าไฟในวันสุดท้าย การให้อภัยคือบุญที่ประเสริฐ ตนก็บอกกับตัวเองว่าจะต้องตอบแทนให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จึงเหตุที่ตนได้เยียวยา หลังจากที่มีการเยียวยาเงินส่วนใหญ่ทั้งหมดก็จะตกอยู่กับลูกสาวทั้งสองคนของพ.ต.ท.จตุพร

นายสมชาย กล่าวต่อว่า เท่าที่ตนได้พูดคุยกับทางครอบครัวของผู้เสียหายที่ต้องรับภาระเลี้ยงดูลูกสาวสองคนของพ.ต.ท.จตุพร ซึ่งรวมทั้งหมด 7 ชีวิต ตนคิดว่าเงินที่ใช้จ่ายอยู่คงไม่พอสำหรับ 7 ชีวิตแน่นอน ดังนั้น เพื่อเป็นการตอบแทนที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้อโหสิกรรมและให้อภัย ตนจึงอยากมอบเงินให้กับน้องทั้งสองคนคนละ 10,000 บาท และค่าใช้จ่ายในครอบครัวเดือนละ 20,000 บาท เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 40,000 บาททุกเดือนเป็นระยะเวลา 8 ปี

ข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: