เอกชนกุมขมับ อสังหาชะลอตัวหนัก คอนโดขายติดลบ22% วอนรัฐช่วยด่วน!





บริษัทเอกชน เผยอสังหาริมทรัพย์ ชะลอตัวหนัก ครึ่งปีกรุงเทพฯและปริมณฑล ยอดขายติดลบ 12.5% โดยคอนโดฯติดลบหนักสุด 22% เชื่อผลกระทบจากมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย วอนรัฐบาลเจรจา ธปท. เลื่อนใช้มาตรการดังกล่าว จนกว่าภาวะเศรษฐกิจจะดีขึ้น

(18 ก.ค.62) นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจพฤกษา เรียลเอสเตท – พรีเมียม บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อยู่ในภาวะชะลอตัว และยังมีแนวโน้มชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยในครึ่งปีแรกยอดขายของตลาดที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ติดลบ 12.5% เมื่อแยกตามประเภทที่อยู่อาศัยพบว่าคอนโดมิเนียมยอดขายติดลบ 22% ขณะที่บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ทรงตัว 0% ซึ่งเชื่อว่าผลกระทบมาจากมาตรการกำกับดูแลสินเชื่อที่อยู่อาศัย (Loan to Value : LTV ) และหากมาตรการนี้มีผลบังคับใช้ต่อเนื่อง ก็เชื่อว่าตลาดจะชะลอตัวลงไปอีก

ทั้งนี้ ภาคธุรกิจอสังหาฯ คิดเป็น 12-14% ของจีดีพีประเทศ มีการจ้างงานถึง 1 ล้านอัตรา ใช้วัตถุดิบในประเทศถึง 90% นั้นหมายความว่า มูลค่าเพิ่มตกอยู่ที่คนไทยโดยตรง และทุกการซื้อขายบ้านจะมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ได้รับผลประโยชน์ไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นวัสดุตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ สินเชื่อ ทำให้ธุรกิจอสังหาเป็นเหมือนเครื่องจักรในการผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโตขึ้นมาได้ ดังนั้น เพื่อไม่ให้ธุรกิจอสังหาฯทรุดหนักไปกว่านี้จึงต้องการให้รัฐบาลเจรจาธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ในการเลื่อนใช้ LTV ออกไปอีก 1-2 ปี หรือจนกว่าภาวะเศรษฐกิจที่ดีกว่านี้ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบมากต่อธุรกิจ ซึ่งสถาบันการเงินมีวิธีการในการกำกับดูแลความเสี่ยงสินเชื่อที่อยู่อาศัยหลายวิธีอยู่แล้ว การเลื่อนใช้ LTV ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ง่ายที่สุดและไม่ต้องเสียงบประมาณ การที่ผู้บริโภคซื้อบ้านหลังที่ 2 ในปัจจุบันถือเป็นเรื่องปกติ เพราะการคมนาคมเปลี่ยนไป การมีเส้นทางใหม่ ๆ มีรถไฟฟ้า ทำให้คนในปัจจุบันไม่ได้มีบ้านหลังเดียวแต่มีทั้งบ้านนอกเมือง ในเมือง หรือต่างจังหวัด

ด้านดร.อาภา อรรถบูรณ์วงศ์ นายกสมาคมอาคารชุดไทย ระบุว่า ต้องการให้รัฐบาลนำเรื่องของอสังหาริมทรัพย์เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อจะได้แก้ไขปัญหาอย่างบูรณาการ เพราะที่อยู่อาศัยถือเป็นสิ่งสำคัญในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และยังเป็นอุตสาหกรรมที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี ซึ่งรัฐบาลสามารถช่วยได้ คือ 1. การลดภาษีอสังหาฯ จัดเก็บภาษีการซื้อบ้านเป็นขั้นบันได โดยผู้ที่มีรายได้น้อยที่ซื้อบ้านให้เสียภาษีน้อยที่สุดหรือไม่เสียเลย และเก็บภาษีอัตราเพิ่มขึ้นตามราคาบ้าน เพื่อทำให้ประชาชนสามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้ถูกลง 2.เป็นตัวกลางในการเจรจาสถาบันการเงินในการคิดดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านในอัตราต่ำเพื่อกระตุ้นการซื้อ

สำหรับส่วนกรณีของมาตรการ LTV ของธปท.นั้น ถือเป็นปัญหาใหญ่ ที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อธุรกิจ ซึ่งหน่วยงานภาครัฐ ควรมีการเจรจาใกล้ชิด มีการออกมาตรการให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ในอันที่จะก่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ที่ผ่านมาธปท.มักออกมาตรการมาสวนทางกับนโยบายของรัฐมาตลอด

โดยที่ผ่านมา ตลาดอสังหาฯชะลอตัวจากปัจจัยลบหลายประการ คนซื้อบ้านหายไปประมาณ 10-20% อย่างไรก็ตามเชื่อว่าในช่วงครึ่งปีหลังตลาดจะกลับมาฟื้นตัว จากการมีรัฐบาลใหม่ที่เป็นรัฐบาลชุดเดิม ที่จะสานต่อนโยบายเดิมที่ทำค้างเอาไว้ให้แล้วเสร็จ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภคและภาคเอกชน ให้กล้าเดินหน้าลงทุนต่อ นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยยังมีแนวโน้มทรงตัวและอยู่ในช่วงขากลง จากท่าทีของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา และภาวะเศรษฐกิจไทยที่ยังไม่ฟื้นตัว สหรัฐฯและจีนยืดระยะเวลาการขึ้นภาษีออกไปลดความกังวลของสงครามการค้าออกไป

นายวสันต์ เคียงศิริ นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร กล่าวว่า ขอให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา ด้วยการเร่งฟื้นเศรษฐกิจ สานต่อโครงการต่าง ๆ ที่ได้ดำเนินการมาก่อนหน้านี้ ระบบโครงสร้างพื้นฐาน โครงการรถไฟฟ้าสายต่าง ระบบสาธารณูปโภค โครงการอีอีซี ทั้งที่อยู่ระหว่างดำเนินการและกำลังจะดำเนินการ ด้วยการสานต่อให้แล้วเสร็จ ซึ่งจะช่วยฟื้นเศรษฐกิจและเรียกความเชื่อมั่นกลับมาได้

นอกจากนี้ ในภาวะที่เศรษฐกิจถดถอย ตลาดอสังหาฯชะลอตัว รัฐบาลควรชะลอมาตรการ กฎหมายหรือข้อบังคับต่างๆที่จะออกมาบังคับหรือเป็นข้อจำกัดต่อธุรกิจ หรือเป็นภาระให้แก่ผู้บริโภคที่ต้องการซื้อบ้าน เนื่องจากบ้านถือเป็นปัจจัยสำคัญของการดำรงค์ชีวิตของมนุษย์ อาทิ ภาษีที่ดินหากมีผลบังคับใช้ในปี 2563 จะต้องเสียภาษีเพิ่ม ต้นทุนของผู้ประกอบกี่ปรับขึ้นตามเพราะที่ดินถือเห็นต้นทุนหลักของการสร้างบ้าน

ส่วนมาตรการ LTV ถือเป็นภาระผู้บริโภค ซึ่งบ้านแนวราบไม่มีการเก็งกำไร แต่ก็โดนหางเลขไปด้วย ทำให้ตลาดลดลงอย่างชัดเจนและลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่หากรัฐบาลเร่งสร้างความเชื่อมั่นก็เชื่อว่าตัวเลขต่างๆน่าจะกลับมาดีขึ้น

นายมีศักดิ์ ชุนหรักษ์โชติ สมาคมอสังหาริมทรัพย์ชลบุรี เปิดเผยว่า แม้ว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดชลบุรี ซึ่งอยู่ในกรอบการลงทุนของโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี จะชะลอตัว แต่นโยบายจากอีอีซีแล้ว ก็มีส่วนขับเคลื่อนจีดีพีต่อเศรษฐกิจชลบุรีคิดเป็นสัดส่วน 20-25% แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทางสมาคมฯคาดหวังต่อรัฐบาลชุดใหม่ คือ เรื่องการผ่อนปรนบังคับใช้ LTV เนื่องจากขณะนี้โครงการคอนโดฯเข้าสู่ภาวะสินค้าล้นตลาด ขณะที่ตลาดแนวราบ ยังมีความต้องการซื้อของผู้อยู่อาศัยจริง เก็งกำไรน้อยมาก

นอกจากเรื่องของอีอีซีแล้ว ทางสมาคมฯหวังรัฐบาลจะเปิดกว้างให้เอกชนในกรอบพื้นที่อีอีซี ได้มีการหารือพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด แทนจะบังคับใช้นโยบายจากส่วนกลาง เช่นเดียวกับเรื่องผังเมือง การรับฟังจากพื้นที่มีไม่มาก

นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) หรือ PF ระบุว่า ในความเห็นส่วนตัว ภาคเอกชนตอนนี้เหนื่อย และเมื่อรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการ หลังจากในช่วงครึ่งปีแรก ภาคเอกชนต้องรอความชัดเจนในการเลือกตั้ง คือ ต้องเร่งออกแพกเกจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วนและต้องดำเนินการภายในปีนี้ ทั้งการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศผ่านมาตรการภาษี การซื้อสินทรัพย์มั่นคง รวมถึงการดูแลค่าเงิน หลังจากแข็งค่าขึ้นไปแล้วกว่า 10% ส่งผลกระทบภาคการส่งออกและการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นภาคที่สร้างรายได้เข้าประเทศ

โดยในส่วนของภาคอสังหาริมทรัพย์ หากฟื้นตัวจะมีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ โดยตนขอเสนอในเรื่องการปลดล็อคการบังคับใช้ LTV กับผู้ซื้อคนไทย ในเรื่องการซื้อที่อยู่อาศัยโครงการบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ เนื่องจากกลุ่มนี้ ต้องการซื้ออยู่อาศัยจริงไม่ใช่เก็งกำไร มาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง ที่รัฐบาลใช้เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศได้ผลสำเร็จ หากมีมาตรการดังกล่าว จะมีส่วนช่วยต่อภาคธุรกิจอสังหาฯ โดยให้ครอบคลุมบ้านหลักแรกทั้งประเภทบ้านเดี่ยวและคอนโดฯ ราคาไม่เกิน 4 ล้านบาท

สำหรับเรื่องการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำตามนโยบายที่รัฐบาลหาเสียงนั้น ความเห็นของตนแล้ว เป็นเรื่องที่ดี แต่อาจจะเลือรายอาชีพที่จะเป็นประโยชน์ต่อคนไทย ไม่ใช่ประกาศขึ้นทั้งหมด ซึ่งจะไม่เป็นผลดี เพราะแรงงานต่างด้าวจะใช้เป็นข้ออ้างในการปรับขึ้นค่าแรงเหมือนคนไทย

นายวิทการ จันทวิมล รองกรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เชื่อว่ารัฐบาลมีเป้าหมายที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าไปอยู่แล้ว อสังหาริมทรัพย์ก็ถือเป็นหนึ่งในกลไกช่วยขับเคลื่อนประเทศ โดยเชื่อว่าทีมเศรษฐกิจคงทยอยออกนโยบายที่มีประโยชน์มาสนับสนุนทั้งภาคเอกชนและคนไทย ในส่วนของเอพีนั้นยังคงดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ โดยมั่นใจว่าทุกธุรกิจที่เราขยับขยายออกไป และกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังจะช่วยส่งเสริมให้เอพีสามารถส่งมอบคุณภาพการอยู่อาศัย และการใช้ชีวิตให้กับผู้บริโภคชาวไทยได้อย่างยั่งยืน

ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ หรือ วสท. กล่าวว่า วันนี้และอนาคต เราต้องการรัฐบาลที่มี “ทีมอเวนเจอร์ไทยแลนด์” ที่แข็งแกร่ง ก้าวข้ามประโยชน์ส่วนตนมาเป็นกัปตันทีมให้ประเทศ ใช้ความรู้ความสามารถและเทคโนโลยีสามารถนำประเทศสู่อนาคตที่แข่งขันได้ยั่งยืน และในการบริหารโครงการเมกะโปรเจกต์ แต่ละกระทรวงควรเน้นการมีส่วนร่วมของภาคส่วนต่างๆ ไม่ใช่มองในมุมราชการเท่านั้น รัฐบาลต้องเป็นหัวหอกผลักดันให้เกิดการนำงานวิจัยนวัตกรรม ไปใช้ในเชิงพาณิชย์ให้มากขึ้น ปฏิรูปกฎระเบียบจัดซื้อและกฎหมายที่เป็นอุปสรรค หนุนคนรุ่นใหม่ให้สามารถต่อยอดความรู้สร้างนวัตกรรมอย่างไร้รอยต่อ

ขณะที่ ภาคอุตสาหกรรมอสังหาฯ ก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง ทำรายได้ให้ประเทศปีละกว่า 1.3 ล้านล้านบาท รัฐต้องกระตุ้นให้ใช้ R&D มากยิ่งขึ้น เพื่อส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมและวัสดุใหม่ๆเพื่อตอบโจทย์ตลาดอาเซียนและตลาดโลกด้านคุณภาพ ความคุ้มค่า สิ่งแวดล้อม การประหยัดพลังงาน ความปลอดภัย ระเบียบการค้าและกติกาของโลกมากยิ่งขึ้น ในด้านการส่งเสริมการลงทุน รัฐบาลควรคำนึงถึงโอกาสที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กับคนไทย โดยเฉพาะเทคโนโลยีระดับสูง รวมทั้งเลือกสรรการลงทุนธุรกิจอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่สร้างมลพิษและภาระให้คนไทยต้องแบกรับภายหลัง

นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI กล่าวว่า บริษัทเตรียมทบทวนแผนการดำเนินงานในปี 2562 ใหม่อีกครั้ง ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว รวมถึงการบังคับใช้มาตรการ LTV ส่งผลกระทบตลาดอสังหาฯให้เกิดการชะลอตัวตาม และกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัท ทำให้บริษัทเตรียมชะลอแผนการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลัง เพื่อรอดูสถานการณ์ตลาด รวมถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลชุดใหม่ว่าจะเป็นอย่างไร

นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด ระบุว่า แม้ว่ารัฐบาลจะมาจากหลายพรรคที่มาดูด้านเศรษฐกิจ แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะแต่ละฝ่ายต้องการให้ประเทศชาติเดินหน้า ดังนั้นโครงการที่รัฐบาลก่อนหน้าผลักดันไว้ ก็เชื่อว่าก็จะยังเดินหน้าต่อ อีกทั้งช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านเกิดสุญญากาศเศรษฐกิจทำให้เกิดการชะลอตัว ดังนั้นจึงต้องเดินหน้าโครงการเพื่อไม่ให้เศรษฐกิจแย่ไปกว่านี้ และผลักดันสิ่งต่างๆที่ทำไว้ให้เร็วที่สุด เพื่อให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่น มีการจ้างงาน และกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ให้ถดถอย นอกจากนี้ยังต้องการให้รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ ด้วยการลดค่าธรรมเนียมการโอน การจดจำนอง ภาษีธุรกิจเฉพาะใหักับทุกเซกเตอร์ เพราะหากอสังหาริมทรัพย์ไปได้ ก็จะผลักดันธุรกิจเกี่ยวเนื่องให้เดินหน้าต่อไป รวมทั้งขอเรียกร้องให้ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย ยกเลิกมาตรการ LTV เพราะทำให้อสังหาฯชะลอตัวไปค่อนข้างมาก

ข่าวจาก PPTVHD36

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: