‘ปารีณา-กรณ์’รอดหุ้นสื่อ อีก32 ส.ส. ศาล รธน.รับไว้ไต่สวนแต่ทำงานต่อได้





วันที่ 26 มิ.ย. ศาลรัฐธรรมนูญได้ประชุมปรึกษาพิจารณาคดี กรณีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 82 โดยขอให้วินิจฉัยว่า สมาชิกภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 41 คน สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบกับมาตรา 98 (3) จากกรณีถือหุ้นสื่อหรือไม่ ซึ่งสรุปใจความสำคัญของคำวินิจฉัยได้ว่า

ศาลประชุมปรึกษาแล้วเห็นว่า รัฐธรรมนูญ มาตรา 98 (3) ที่บัญญัติลักษณะต้องห้ามของบุคคลที่จะใช้สิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ไว้ว่า “เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ” มิใช่เพียงมีเจตนาหรือความประสงค์จะทำกิจการดังกล่าวเท่านั้น แต่ต้องดูว่าผู้ถูกร้องประกอบธุรกิจใด

จากการตรวจสอบวัตถุประสงค์ของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทที่มีวัตถุประสงค์จะประกอบธุรกิจ ตามคำร้องพบว่ามี 9 ราย ที่ระบุวัตถุประสงค์ ประกอบกิจการค้า กระดาษ เครื่องเขียน แบบเรียน หนังสือฯ แต่ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใดๆ ที่จะเข้าข่ายให้สมาชิกภาพ ส.ส.สิ้นสุดลง จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องในส่วนของผู้ถูกร้อง 9 คนประกอบด้วย นายศาสตรา ศรีปาน, นายสุรศักดิ์ ชิงนวรรณ์, น.ส.ภริม พูลเจริญ, น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์, นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์, นายจักรพันธ์ พรนิมิต, นายกรณ์ จาติกวณิช, นายประมวล พงศ์ถาวราเดช และนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ 

ส่วนผู้ถูกร้องอีก 32 คน ศาลรับคำร้องไว้วินิจฉัย เพราะเข้าหลักเกณฑ์การพิจารณา โดยจะแจ้งให้ผู้ถูกร้องทั้ง 32 คนยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับสำเนาคำร้อง

สำหรับคำร้องขอให้ผู้ถูกร้องทั้ง 32 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่ รัฐธรรมนูญ มาตรา 82 วรรคสอง บัญญัติเงื่อนไขไว้ว่า จะต้อง “ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่าสมาชิกผู้ถูกร้องมีกรณีตามที่ถูกร้อง” แต่คดีนี้ผู้ร้องไม่ได้ตั้งคณะกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง มีเพียงเอกสารประกอบคำร้องเพียงหนังสือรับรองห้างหุ้นส่วนเท่านั้น ไม่ปรากฏแบบแสดงรายการเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของห้างหุ้นส่วนบริษัทฯ (แบบ สสช.1) และแบบนำส่งงบการเงินของห้างหุ้นส่วนหรือบริษัทว่ามีรายได้จากการประกอบกิจการใด จึงยังไม่มีความชัดเจนว่า ผู้ถูกร้องประกอบธุรกิจใด ศาลจะต้องดำเนินการไต่สวนเพื่อหาข้อเท็จจริงให้ยุติต่อไป ยังไม่เข้าเงื่อนไขที่ผู้ถูกร้องทั้ง 32 คนหยุดปฏิบัติหน้าที่

ศาลรัฐธรรมนูญให้เหตุผลของความแตกต่างกับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ว่า เพราะกรณีนายธนาธร ผ่านการสอบสวนของ กกต.มีเอกสารประกอบชัดเจนว่าประกอบกิจการสื่อมวลชนจริงตามที่ถูกร้อง (ส่วน ส.ส.32 คนต้องไต่สวนหาข้อเท็จจริงก่อน)

ข่าวจาก workpointnewsTHE STANDARD

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: