พระมหากรุณาธิคุณ ร.10 ทรงรับ น้องฟา นักกีฬายกน้ำหนัก เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์





พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ รับ น้องฟา นักกีฬายกน้ำหนัก เป็นคนไข้ในพระบรมรามชานุเคราะห์ หลังบาดเจ็บขณะฝึกซ้อม จนร่างกายท่อนล่างชา ไร้ความรู้สึก เสี่ยงพิการตลอดชีวิต

เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2562 เวิร์คพอยท์นิวส์ รายงานว่า ระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับ น.ส.ณัฏฐธิดา สุชาติพงศ์ หรือ น้องฟา อายุ 15 ปี นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนกีฬาจังหวัดนครศรีธรรมราช อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ หลังจากประสบอุบัติเหตุขณะฝึกซ้อมกีฬายกน้ำหนัก จนได้รับบาดเจ็บสาหัส สร้างความปลาบปลื้มยินดีกับน้องฟา และครอบครัวอย่างหาที่สุดมิได้

ในวันที่ 27 พฤษภาคม น.ส.ณัฏฐธิดา หรือ น้องฟา ผู้เป็นนักกีฬายกน้ำหนักของโรงเรียน ได้ฝึกซ้อมยกลูกเหล็กน้ำหนัก 165 กิโลกรัม และเกิดอาการเข่าทรุดลง เพื่อน ๆ ได้เข้าช่วยเหลือ ผลักร่างออกให้พ้นจากลูกเหล็ก เพื่อไม่ให้เหล็กทับคอ แต่ลูกเหล็กก็ตกใส่กลางหลังน้องฟา จนร่างทรุดลงกับพื้น ก่อนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลทุ่งสง ขณะนี้พบว่าร่างกายท่อนล่างมีอาการชา ไม่มีความรู้สึกใด ๆ และไม่สามารถขยับได้

นางสุภาภรณ์ สุชาติพงศ์ อายุ 40 ปี และ นายนุกูล สุชาติพงศ์ อายุ 42 ปี พ่อแม่ของน้องฟา ได้เร่งเดินทางไปดูอาการลูกสาว โดยนางสุภาภรณ์ เล่าว่า น้องฟารับการผ่าตัดเบื้องต้นแล้ว แพทย์ได้แจ้งให้ครอบครัวทำใจว่าน้องฟาแทบจะไม่สามารถกลับมาเดินได้เหมือนคนปกติอีกแล้ว โอกาสที่จะกลายเป็นคนพิการสูงถึง 99.99 เปอร์เซ็นต์ ส่วนโอกาสที่จะกลับมาเดินได้ มีแค่ 0.01 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น และได้แนะนำให้ครอบครัวเตรียมทำรั้วหรือราวสำหรับทำกายภาพ 

หลังได้รับแจ้งจากแพทย์ ตน สามีและญาติ ๆ ได้ปรึกษากันเพื่อหาช่องทางช่วยรักษาลูก และทราบว่าที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรุงเทพมหานคร มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ ตนจึงประสานสมาคมยกน้ำหนักแห่งประเทศไทยให้ช่วยติดต่อและส่งประวัติการรักษาไปให้

ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแจ้งกลับมาว่า เคสของน้องฟาเป็นเคสที่ค่อนข้างหนักและรุนแรงมาก ทั้งในส่วนของกระดูก กล้ามเนื้อ เอ็น เส้นเลือด รวมทั้งระบบที่เกี่ยวข้องกับประสาท หากส่งตัวมารักษาที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า อาจมีความเสี่ยงขั้นสูงสุด เพราะถ้าหากผิดพลาดในการเคลื่อนย้ายเพียงเล็กน้อย ก็สามารถหมดโอกาสรักษา

นอกกจากนี้แล้ว จากการปรึกษาทางโรงพยาบาลทุ่งสง พบว่ารถพยาบาลของโรงพยาบาลทุ่งสงไม่เคยขนย้ายผู้ป่วยออกนอกเขตจังหวัด หากจะย้ายน้องฟาไปรักษาที่อื่น ผู้ปกครองต้องพาไปเอง และแนะนำให้ทำการบล็อกหลังก่อนเคลื่อนย้าย แต่ก็เสี่ยงต่อการเกิดกระดูกเคลื่อนหรือแตกเพิ่ม หากเกิดการผิดพลาดขึ้น ก็จะทำให้ฟ้องฟาหมดโอกาสหรือไม่มีโอกาสกลับมาเดินได้อีก ช่องทางเคลื่อนย้ายที่ปลอดภัยที่สุดคือการเคลื่อนย้ายโดยเครื่องบินทางอากาศ

นางสุภาภรณ์ กล่าวต่อว่า ตนและครอบครัวได้ติดต่อไปยังบริษัทที่ให้บริการเครื่องบินขนย้ายผู้ป่วยทางอากาศ พบว่ามีค่าใช้จ่ายสูงมาก อัตราค่าบริการอยู่ที่หลักหลายแสนถึงหลักล้านบาท ทำให้ตนและครอบครัวจนปัญญา

ตนทำงานเป็นพนักงานธุรการ สํานักงานองค์การบริหารส่วนตําบลตำบลปริก อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ส่วนสามีเป็นบุรุษไปรษณีย์ ไม่ได้มีเงินมากมาย ตนจึงขอวิงวอนไปถึงบริษัทผู้ประกอบการอากาศยานเคลื่อนย้ายผู้ป่วย ผู้มีจิตเมตตา โปรดให้ความอนุเคราะห์ช่วยเหลือเคลื่อนย้ายลูกสาว ตนและครอบครัวจะจารึกจดจำบุญคุณในครั้งนี้ไปชั่วชีวิต

ในเวลาต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พ.อ. โสรัตน์ สมุทวานิช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ายเทพสตรีศรีสุนทร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช เป็นผู้แทนพระองค์ ไปเยี่ยมให้กำลังใจ น้องฟา ที่โรงพยาบาลทุ่งสง พร้อมกับมอบพระบรมฉายาลักษณ์พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวให้กับน้องฟา และครอบครัวด้วย

พ.อ. โสรัตน์ กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงทรงทราบเรื่องที่เกิดขึ้นและทรงมีความห่วงใย จึงมีรับสั่งให้รับ น้องฟา เป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ 

ทั้งนี้ ในวันที่ 4 มิถุนายน จะมีการเคลื่อนย้าย น้องฟา จากโรงพยาบาลทุ่งสง ไปยังกองบิน 7 จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อขึ้นเครื่องบินไปทำการรักษาที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า กรุงเทพมหานคร ตามความประสงค์ของครอบครัวน้องฟา

ข่าวจาก : workpointnews

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: