อสม.แสบ ลวงเด็กกำพร้าถอนเงินบริจาคกว่าครึ่งล้าน เอาไปใช้หนี้รายวัน เหลือติดบัญชีให้แค่2พัน ญาติเด็กตามเอาเรื่องด่วน กลัวเด็กไม่มีเงินเรียนหนังสือ





อสม.แสบ ลวงเด็กกำพร้าถอนเงินในบัญชีที่มีคนบริจาคให้เป็นทุนการศึกษา หลังพ่อแม่ตายกว่าครึ่งล้าน เหลือติดคาบัญชีแค่ 2,000 สารภาพเอาไปใช้หนี้รายวัน ขอผ่อนจ่าย แต่ญาติไม่ยอม ห่วงเด็กไม่มีทุนไว้เรียนหนังสือ

เมื่อวันที่ 26 เม.ย. นางต้อย แววโคกสูง อายุ 52 ปี อยู่บ้านตูม หมู่ที่ 8 ต.ทองหลวง อ.จักราช จ.นครราชสีมา นำเอกสารเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.จักราช หลังพบว่าบัญชีเงินฝากของ นายปกรณ์ แววโคกสูง อายุ 15 ปี ถูกถอนออกไปเป็นจำนวนเงิน 5 แสนบาท โดยไม่มีใครรู้ ซึ่งนำเอกสารเข้าสอบถามกับทางธนาคารทำให้ทราบว่า เงินในบัญชีมีลายมือชื่อของนายปกรณ์ แววโคกสูง เจ้าของบัญชีถูกถอนออกไปจริง

เมื่อสอบถามไปที่นายปกรณ์ ก็บอกว่า นางอ้อซึ่งเป็นเพื่อนบ้านและเป็นอสม.ประจำหมู่บ้าน หลอกล่อให้นายปกรณ์นำสมุดบัญชีที่ฝากไว้กับครูประจำชั้นมาให้ โดยอ้างว่าจะเอาไปซื้ออุปกรณ์การเรียนให้กับนายปกรณ์ ทางครูประจำชั้นจึงนำสมุดบัญชีมอบให้

ส่วนตัวนายปกรณ์เองก็หลงเชื่อ เพราะเห็นว่าเป็นเพื่อนบ้านและเป็นอสม.ประจำหมู่บ้าน จึงไว้ใจยอมพาไปเบิกเงิน แต่ก็ไม่ทราบว่า เงินถูกถอนออกไปจากบัญชีจำนวนเท่าไร กระทั่งเวลาผ่านไปหลายเดือน ใกล้ถึงวันเปิดเทอม ป้าของนายปกรณ์จะเบิกเงินไปจ่ายค่าเทอมและไปซื้อชุดนักเรียน จึงทราบว่าเงินในบัญชีถูกถอนออกไปทั้งหมด

ซึ่งจำนวนเงินดังกล่าว เป็นเงินที่คนไทยทั้งประเทศร่วมใจกันบริจาคให้กับนายปกรณ์ หลังจากพ่อแม่เสียชีวิตลงทั้งคู่ ทำให้นายปกรณ์หรือเด็กชายปกรณ์ในขณะนั้น ต้องอาศัยอยู่กับป้าซึ่งมีฐานะยากจน สื่อมวลชนจึงนำเสนอข่าว แล้วมีผู้ใจบุญบริจาคเงินช่วยเหลือเป็นทุนการศึกษาให้กับนายปกรณ์ จำนวน 5 แสนบาท โดยมีครูประจำชั้นและป้าของนายปกรณ์เป็นผู้ดูแลบัญชี

แต่เมื่อมาทราบว่า นางอ้อหลอกล่อพานายปกรณ์ไปเบิกเงินในบัญชีจนหมด ป้าของนายปกรณ์จึงรีบไปสอบถามนางอ้อทันที ซึ่งได้อ้างว่า จะเอาไปใช้หนี้เงินรายวัน แต่ป้านายปกรณ์ยังไม่ปักใจเชื่อ เพราะก่อนหน้านี้ ได้พยายามสอบถามสมุดบัญชีเงินฝากกับนางอ้อมาครั้งหนึ่งแล้ว แต่นางอ้อบอกว่า มีชายไม่ทราบชื่อโทรศัพท์มาอ้างตัวว่าเป็นนายอำเภอจักราชแล้วบอกว่า สมุดบัญชีอยู่กับนายอำเภอจักราชจะปลอดภัยไม่ต้องห่วง จึงนำสมุดบัญชีฝากให้นายอำเภอจักราชเก็บไว้

กระทั่งเวลาผ่านไปหลายวัน รู้สึกสงสัยพฤติกรรมแปลกๆของเพื่อนบ้านคนดังกล่าว จึงเดินทางเข้าไปพบนายอำเภอจักราชด้วยตัวเอง จนทราบว่าถูกนางอ้อหลอกมาตลอด จึงตัดสินใจพาน้องเข้าแจ้งความดำเนินคดี

เบื้องต้น นางอ้อบอกว่าจะนำเงินมาคืนให้ภายในสิ้นเดือนหน้า จำนวน 2 แสนบาท และเงินส่วนที่เหลือก็จะทยอยคืนให้ แต่ทางป้าของนายปกรณ์ไม่ยอม โดยยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะไม่คิดว่าคนกันเองที่เป็นเพื่อนบ้านใกล้ตัวจะหลอกลวงกันได้ จึงต้องการให้เป็นกรณีตัวอย่าง และที่สำคัญขณะนี้นายปกรณ์รู้สึกกังวลใจอย่างมาก เกรงว่าจะไม่ได้เรียนหนังสือ เนื่องจากยังไม่มีเงินจ่ายค่าเทอม เพราะมีเงินบริจาคในบัญชีเหลือเพียงแค่ 2,000 บาทเท่านั้น

ข่าวจาก : ข่าวสดออนไลน์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ๆ
- ไม่สามารถ copy ข้อความจากที่อื่น แล้วนำมา paste ในช่องแสดงความคิดเห็น
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ
error: