เมื่อเวลา 17.45 น. วันที่ 2 เม.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชน ภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยยกมือพร้อมกล่าวคำว่า “บ๊ายบาย เหนื่อย ไปแล้วนะ” ก่อนจะฮัมเป็นเนื้อเพลง “ซาโยนาระ” ก่อนขึ้นรถยนต์กลับออกไปทันที
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ มอบหมายให้ พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้ตอบคำถามสื่อมวลชนแทน
พล.ท.วีรชน ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุผลของการออกสารของนายกฯ 2 ครั้งที่ผ่านมาว่า เป็นช่องทางการสื่อสารของนายกฯ ในการแสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ ความจริงไม่อยากใช้คำว่าเตือนสติ แต่อยากให้ทุกคนได้ใช้วิจารณญาณในการรับและเชื่อข้อมูลต่างๆ เนื่องจากขณะนี้มีข้อมูลออกมามากมายผ่านทางโซเชียลมีเดีย จึงได้ออกสารมาในลักษณะของความห่วงใย อยากให้ทุกคนใช้สติ เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ที่จะตัดสินข้อมูลต่างๆ
เมื่อถามว่าการออกสารดังกล่าวเกี่ยวข้องกับท่าทีของผู้บัญชาการทหารบก(ผบ.ทบ.) หรือไม่ พล.ท.วีรชนกล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน เพราะในช่วงนั้น นายกฯไม่ทราบว่าผบ.ทบ.พูดอะไร เนื้อหาต่างๆ ที่ออกมาในสารทั้ง 2 ฉบับ เป็นท่าทีและความรู้สึกโดยส่วนตัวของท่านเองที่ห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงอยากให้ทุกคนใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์
ส่วนการตอบโต้ต่างๆ ที่มีการใช้คำว่า “ฝ่ายซ้าย” ของผบ.ทบ. จะทำให้สังคมย้อนกลับไปสู่ความขัดแย้งเหมือนในอดีตหรือไม่นั้น นายกฯ คิดว่าคงไม่ได้หมายความตามนั้นทั้งหมด แต่การที่ผบ.ทบ.ออกมาพูดแบบนั้น ทุกคนก็ทราบกันดีว่ามีสาเหตุ ขบวนการและความพยายามในการจะบ่อนทำลายอยู่บ้าง จึงได้ออกมาพูดในลักษณะดังกล่าว แต่คงไม่ได้ไปเหมารวมว่าขณะนี้สถานการณ์จะรุนแรงถึงขั้นนั้น เป็นแค่การเตือนสติสังคมกันบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่าในสภาวะที่สังคมมีความแตกต่างมากขึ้น นายกฯ จะแก้ปัญหาอย่างไร เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งเหมือนในอดีต พล.ท.วีรชนกล่าวว่า วันนี้ประเทศไทยเดินมาสู่จุดที่มีการเลือกตั้ง และกำลังเดินหน้าไปสู่ประเทศที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เราอยู่ในขั้นตอนระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ขึ้น สิ่งที่อยากจะเห็นคือทุกคนต้องมองไปข้างหน้า เดินหน้าและต้องไม่สร้่างเงื่อนไขทำให้เราถอยหลังกลับมาอีก
ทั้งนี้ นายกฯมีความเชื่อมั่นว่า สิ่งที่หลายคนกังวลจะไม่เกิดเหตุการณ์ขึ้นมาอีก ถ้าประชาชนใช้สติ เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ไม่หลงเชื่อการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร อย่างไรก็ตาม ข้อมูลต่างๆที่ออกมาในลักษณะบิดเบือน ทำให้คนหลงเชื่อ เพราะเรากำลังอยู่ในช่วงที่ทำให้คนใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผล จุดนี้ถือเป็นอันตรายต่อประเทศชาติและประชาชนเอง แต่ใครจะคิดหรือทำอะไร รัฐบาลบังคับไม่ได้ ทำได้เพียงขอร้องว่าการที่จะคิดหรือตัดสินใจอะไร ขอให้ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์
เมื่อถามว่านายกฯ อ่านสถานการณ์ความเคลื่อนไหวทางการเมืองหลังการเลือกตั้งอย่างไร โดยเฉพาะกรณีที่มีความพยายามปลุกกลุ่มนักศึกษาให้ออกมาเคลื่อนไหวกดดัน กกต. และมีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ พล.ท.วีรชนกล่าว ว่า วันนี้ทุกคนก็เห็นอยู่แล้วว่ามีความพยายามจากฝ่ายไหนบ้าง เพราะทุกคนเห็นอยู่แล้วว่าการเมืองในปัจจุบัน ฝ่ายไหนดำเนินการอย่างไร มีความพยายามทำให้สถานการณ์ไปสู่จุดไหนอย่างไร สื่อทุกแขนงและเจ้าตัวที่ทำก็รู้อยู่แล้วว่าใครบ้างเป็นคนทำ สื่อทุกคนมีข้อมูลเชิงลึกอยู่ น่าจะช่วยให้คำตอบต่อคำถามดังกล่าวได้ ในส่วนของรัฐบาล ไม่อยากปรักปรำอะไรกับใคร
“เราก็รู้อยู่แล้วว่าใคร กลุ่มไหนเป็นคนทำ เพราะไม่ได้มีกลุ่มหน้าใหม่อะไรมากนักที่เคลื่อนไหวอยู่ในขณะนี้ เป็นกลุ่มเดิมๆ มีการเรียกร้องมาตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง ว่าการเลือกตั้งต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ หลังเลือกตั้งเสร็จก็จะมีเรื่องอื่นเรียกร้องตามมา ยืนยันว่าไม่ได้มีกลุ่มอื่น เป็นเรื่องของคนกลุ่มเดิมที่เคลื่อนไหว” พล.ท.วีรชนกล่าว
เมื่อถามว่าการไม่เปิดเผยหรือชี้แจงสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อของ กกต. จะทำให้สังคมเกิดความเคลือบแคลงสงสัยในการเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่ พล.ท.วีรชน กล่าวว่า อยากให้คนที่ติดตามข้อมูลข่าวสารใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ พยายามเปิดใจฟังเหตุผลในการชี้แจงเขาบ้าง ที่ผ่านมา กกต.พยายามชี้แจงมาเป็นระยะว่าแต่ละขั้นตอนมีวิธี หลักการในการคิดอย่างไร ไม่อยากให้ทุกคนสรุปเพื่อหาคำตอบให้ตัวเองเร็วเกินไป อยากให้ใจเย็นๆ คิดและตัดสินใจบนพื้นฐานของการใช้เหตุผลมากกว่าการใช้อารมณ์ แต่ก็ไม่สามารถไปบอกได้ว่าจะต้องคิดแบบไหน ทำอย่างไร เพียงแต่ขอร้องว่าขอให้ใช้เหตุผล ทุกอย่างมีกฎ มีกติกา
ส่วนกรณีคนไทยในนิวซีแลนด์โพสต์เฟซบุ๊กเรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศ กกต.และพล.อ.ประยุทธ์ ลาออกเพื่อรับผิดชอบกรณี กกต.รับบัตรเลือกตั้งไม่ทันและตีเป็นบัตรเสียพร้อมให้แจงเหตุผลนั้น พล.ท.วีรชน กล่าวว่า ให้กกต.เป็นคนชี้แจงและขอให้รับฟัง ที่ผ่านมาเมื่อมีข่าวใดออกมาทางโซเชียลมีเดีย หลายฝ่ายมักจะเอาความคิดของตัวเองมาตัดสิน อ่านและไม่ฟังคำตอบหรือคำอธิบายจากคนที่เกี่ยวข้อง หากเราตอบคำตอบที่สงสัยด้วยตัวเอง เอาหลักคิดของตัวเองมาตอบจะทำให้รู้สึกว่าอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ ดังนั้น ขอให้ใช้เหตุผล อย่าใช้อารมณ์
เมื่อถามว่ากังวลต่อกระแสกดดันของโลกเกี่ยวกับการเลือกตั้งหรือไม่ พล.ท.วีรชน ตอบว่า เรามองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศเรา มันเป็นเรื่องราวของประเทศเรา ถ้าภายในประเทศไม่สร้างความกดดัน ต่างประเทศก็เข้ามายุ่งเกี่ยวไม่ได้ แต่ที่เราเห็นมีความพยายามให้เรื่องราวที่ความจริงแล้วอาจจะไม่ใช่เรื่องที่แก้ไขไม่ได้ แต่เราอาจจะแก้ไขหรือมีคำอธิบายที่เกิดขึ้นในประเทศเราได้
คนไทยคุยกันรู้เรื่อง และอีกอย่างมีความพยายามจะให้ลุกลามบานปลาย จึงเน้นย้ำว่าถ้าเราไม่สร้างแรงกดดันขึ้นมาเองแล้ว โลกหรือต่างประเทศเขาก็กดดันเราไม่ได้ เว้นแต่ว่ามีความพยายามให้ลุกลามบานปลายจากผู้ที่ไม่หวังดี ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้เป็นหน้าที่ กกต. ที่จะตอบเรื่องราวต่างๆ ที่เป็นข้อสงสัย
- ไม่สามารถใส่ชื่อเว็บไซต์ใด ๆ ก็ตาม ลงในช่องแสดงความคิดเห็น
- ระบบสามารถรับข้อความ ได้สูงสุดเพียง 2,000 ตัวอักษร ต่อหนึ่งครั้ง
- ผู้ดูแลเว็บไซต์ จะลบข้อความที่ไม่เหมาะสม และข้อความโฆษณาสินค้า หรือบริการ